เพชร-พิงกี้ ปัดเบี้ยวค่าตัวซูซี่ อยากให้อีกฝ่ายขอโทษ

เพชร-พิงกี้ ปัดเบี้ยวค่าตัวซูซี่ อยากให้อีกฝ่ายขอโทษ

เพชร-พิงกี้ ปัดเบี้ยวค่าตัวซูซี่ อยากให้อีกฝ่ายขอโทษ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพชร อิทธิ ควง พิ้งกี้ ปัดเบี้ยวค่าตัว ซูซี่ อยากให้อีกฝ่ายขอโทษผ่านสื่อ แจง ยุติถ่ายหนัง

หลังจากที่ นักแสดงนำ ในภาพยนตร์เรื่อง "Hugger Mugger" อย่าง "ซูซี่ สุษิรา" ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ยังไม่ได้รับเงินค่าตัวครึ่งหลัง หลายคนคิดว่า เบี้ยวค่าตัว รึเปล่า ล่าสุด ผู้จัดหนุ่ม "เพชร อิทธิ" ได้ควงภรรยาสาว "พิ้งกี้ สาวิกา" ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า

"เรื่องค่าตัวจริง ๆ แล้วผมจ่ายนักแสดงทุกท่านไปจนหมดแล้ว เหลือแค่คุณซูซี่ เพียงคนเดียว ที่เพิ่งจะติดต่อมาเมื่อเช้านี้ว่า จะเข้ามารับเงิน ภายในเวลา 4 โมงเย็น ซึ่งตัวเองผมเองก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณซูซี่เข้าใจผิดว่า ผมเบี้ยวเงิน เนื่องจากผมเพิ่งรู้ว่าการทำเช็คไว้ และให้เขาเดินเข้ามาเก็บเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะตอนเซ็นสัญญาและรับเงินครึ่งแรก เขามารับที่บริษัทผม ยังไงก็ต้องขอโทษเบื้องต้นไว้ แต่การที่ คุณซูซี่ บอกว่าผมเบี้ยวเงิน มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรออกมาพูดออกสื่อนะครับ เพราะมันอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ และคนก็อาจจะมองว่า ผมกับภรรยาขี้โกง  ตรงนี้ ผมสามารถเอาไปปกป้องตัวเองในศาลได้นะครับ แต่ผมคงไม่ทำให้เรื่องมันบานปลาย เพราะผมแค่อยากให้ คุณซูซี่ ออกมาขอโทษผ่านสื่อเท่านั้น ส่วนจะเข้ามาเอาเงินวันไหนแล้วแต่สะดวกครับ แต่เขาไม่เคยเข้ามาเลยครับ  เคยมีคนติดต่อเข้ามา ซึ่งผมไม่รู้จัก ผมก็เลยบอกทางบัญชีไปว่า ถ้าหากเขาจะเข้ามาเอาเงิน ให้นำใบมอบอำนาจมาด้วย เพราะผมรู้จักแค่ผู้จัดการส่วนตัวของเขากับคุณซูซี่แค่ 2 คน เขาเองไม่เคยติดต่อเข้ามาเลย เงินประมาณหลักแสนต้น ๆ เองครับ ไม่ได้อะไรมากมาย"

"ส่วนเรื่องหนัง ไม่สามารถจัดการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ต่อไปได้จริง ๆ เพราะหนังมันต้องมีการรีชู๊ตหลายหนมาก เป็นความผิดของผมเอง และตัวผมก็ไม่สามารถบังคับจิตใจคน ให้เขาทำในสิ่งที่ไม่อยากทำได้ ผมเคารพการตัดสินใจของเขาครับ ผมบอกไปทางผู้จัดการเขาก่อนหน้านี้แล้วนะครับ และก็บอกเขาไปด้วยว่า ถึงเวลาให้มารับเงินได้เลย แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ติดต่ออะไรมาเลยจนกระทั้งถึงช่วงสงกรานต์มีคนชื่อกุ้งติดต่อเข้ามาว่าจะรับเงินแต่ผมไม่รู้จักผมจึงไม่ปล่อยเงินให้ ถ้าจะเข้ามาเอาต้องนำใบมอบอำนาจมาด้วย ความเสียหายรวม ๆ แล้ว ก็มูลค่าประมาณ 8 หลักครับ"


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook