ญี่ปุ่นเริ่มใช้เครื่องตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติ “Biometric eGate technology” แล้ว

สนามบินนานาชาตินาริตะ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ สนามบินนาริตะถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางของญี่ปุ่นเลยทีเดียว จากข้อมูลในปี 2017 มีนักท่องเที่ยวจำนวน 28.7 ล้านคน ที่มาเยือนประเทศญี่ปุ่นซึ่งถือว่าเพิ่มมากขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และในปี 2020 ที่จะถึงนี้ ประเทศญี่ปุ่นได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในญี่ปุ่นอย่างล้นหลาม ดังนั้นทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นได้วางแผนที่จะรองรับในเรื่องนี้ พร้อมกันกับได้มีการนำเทคโนโลยี Biometric eGate เข้ามาใช้โดยจะเริ่มเปิดใช้บริการเครื่องตรวจคนเข้าเมืองแบบอัตโนมัติวันที่ 11 เมษายน 2018 ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดระยะเวลาในการต่อคิว และระยะเวลาในการตรวจคนเข้าเมืองอีกด้วย

ในวันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมาได้เริ่มทดลองใช้เครื่องตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติแล้วที่สนามบินนาริตะ โดยจะมีการเปรียบเทียบภาพถ่ายในหนังสือเดินทาง กับภาพที่ถ่าย ณ เครื่องตรวจคนเข้าเมือง ถ้าทั้ง 2 ภาพตรงกันประตูก็จะเปิดออกโดยอัตโนมัติ หรือที่เรียกวิธีการนี้ว่า Biometric eGate technology

ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้วางแผนเริ่มใช้เครื่องตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติสำหรับชาวญี่ปุ่นที่จะเดินทางกลับประเทศเป็นอันดับแรกก่อน โดยพนักงานเพียงหนึ่งคนสามารถดูแลเครื่องตรวจคนอัตโนมัติได้มากถึง 6 เครื่อง ดังนั้นจึงสามารถที่จะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาญี่ปุ่นให้มากขึ้น เพื่อช่วยระบายคิวและลดจำนวนระยะเวลาในการรอให้รวดเร็วขึ้น

ได้มีการวางแผนติดตั้งเครื่องตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัตินี้ที่สนามบินอื่นในญี่ปุ่น ได้แก่ Chubu Centrair International Airport ที่นาโกย่า, Kansai International Airport ที่โอซาก้า และ Fukuoka Airport ภายในปลายปีนี้ และในอนาคตข้างหน้าคาดว่าอาจจะนำไปใช้ในการตรวจคนเข้าเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียวเป็นเจ้าภาพอีกด้วยค่ะ