มันเป็นเทรนด์? Xiaomi อาจจะเปิดตัวระบบปฏิการ HyperOS 26 เลียนแบบ Apple

ก่อนหน้านี้มีการหลุดว่า Apple อาจจะเปลี่ยนชื่อระบบปฏิบัติการจาก iOS 19 เป็น iOS 26 ให้ตรงกับปฏิทิน เรื่องนี้ลือไปถึง Xiaomi เลยทำให้มีข่าวลือว่า HyperOS รุ่นต่อไปอาจจะไม่ใช้ชื่อ HyperOS 3 แต่จะเป็น HyperOS 26 แทนไเลย

จุดเริ่มต้นของกระแสนี้มาจากรายงานของ Mark Gurman นักข่าวสาย Apple ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ที่ระบุว่า Apple กำลังพิจารณาเปลี่ยนระบบการเรียกชื่อ OS ครั้งใหญ่ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างมาตรฐานเดียวกันและลดความสับสนของผู้ใช้งาน

ตัวอย่างเช่น แทนที่จะเป็น iOS 19, macOS 19, หรือ iPadOS 19 ในปีหน้า เราอาจได้เห็นการเปิดตัว iOS 26, macOS 26, และ iPadOS 26 ในปี 2026 แทน การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถทราบได้ทันทีว่าซอฟต์แวร์ของตนเป็นเวอร์ชันล่าสุดของปีนั้นๆ หรือไม่ ซึ่งเป็นผลดีต่อการตลาดและการสื่อสารอย่างมาก

 

ล่าสุดมีรายงานว่า Xiaomi ก็อาจนำแนวคิดนี้มาใช้กับ HyperOS ที่จะมาพร้อมกับ Android 16 เช่นกัน นั่นหมายความว่าแทนที่เราจะได้เห็น HyperOS 3.0 ในช่วงปลายปีนี้ เราอาจได้เห็นการเปิดตัวในชื่อ HyperOS 26 เพื่อให้สอดคล้องกับปี 2026 ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนปีนี้

แม้ว่าการใช้ปีปฏิทินเป็นชื่อเวอร์ชันจะดูเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน แต่ในมุมของนักพัฒนาและบริษัท นี่คือความท้าทายครั้งใหญ่ที่มาพร้อมแรงกดดันมหาศาล แต่การผูกชื่อเวอร์ชันเข้ากับปีปฏิทิน เปรียบเสมือนการให้ "สัญญาสาธารณะ" ว่าบริษัทจะต้องปล่อยอัปเดตใหญ่ให้ได้ตามกำหนดเวลาทุกปีโดยไม่มีข้อแม้ หากเกิดความล่าช้าขึ้น แบรนด์จะสูญเสียความน่าเชื่อถือทันที เพราะมันจะฟ้องอยู่บนตัวเลขเวอร์ชันอย่างชัดเจนว่า "ทำไม่สำเร็จในปีนั้น"

สิ่งนี้บีบให้ทีมวิศวกรซอฟต์แวร์ต้องมีวินัยในการบริหารจัดการ Development Cycle อย่างเข้มงวด การกำหนดขอบเขตของฟีเจอร์ (Feature Scope) ที่จะใส่เข้ามาในแต่ละปีต้องแม่นยำ และต้องจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันไม่ให้โปรเจคล่าช้า

แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ซะทีเดียว ในโลกของ Linux Distribution อย่าง Ubuntu ก็ใช้ระบบการตั้งชื่อตามปีและเดือนที่ปล่อย (เช่น 24.04 คือเวอร์ชันที่ปล่อยในเดือนเมษายน ปี 2024) มาอย่างยาวนานและประสบความสำเร็จ

สุดท้ายนี้ต้องจับตาดูว่าหาก Apple และ Xiaomi เริ่มใช้ระบบนี้จริงหรือไม่ และจะมีผู้ผลิต Android รายอื่นทำตามหรือไม่ เพราะกว่าจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ของ Xiaomi ก็ท่าจะอีกสักพักหนึ่ง