แกะกล่องลองใช้ Amazfit Bip 3 Pro สมาร์ทวอทช์ จอเหลี่ยมมากความสามารถ ในงบไม่ถึง 1,700 บาท

กลับมาพบกับรีวิว Gadget จากทีม Sanook Hitech อีกครั้งครับ สำหรับในครั้งนี้ขอแนะนำ Gadget สวมใส่ที่ราคาไม่แรงแต่เก่งไม่เบากับ Amazfit Bip 3 Pro ซึ่งเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่มีทั้งโปรแกรมออกกำลังกายครบ บอกสภาพร่างกายคุณได้และที่สำคัญ ไม่แพง มันจะโดดเด่นแค่ไหน มารับชมกันได้เลยครับ

แกะกล่อง Amazfit Bip 3 Pro

• ตัวเรือน Amazfit Bip 3 Pro
• สายชาร์จไฟ
• คู่มือการใช้งาน

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Amazfit Bip 3 Pro

เริ่มกันที่หน้าปัดของ Amazfit Bip 3 Pro มีขนาดแค่ 1.69 นิ้ว ถือว่าใหญ่แต่ที่ไม่ดูตัวใหญ่เกินไปเพราะมีการลดขอบให้บางลง โดยหน้าจอมีความคมชัดระดับหนึ่ง และสามารถสู้แดดได้อย่างสบายๆ แถมกระจกเป็นแบบโค้งมนระดับ 2.5D

รอบตัวเรือนเป็นวัสดุที่เน้นความคงทน ซึ่งสีสันของ Smart Watch รุ่นนี้จะมีให้เลือก 3 สีทั้งสีดำ, ขาว และชมพู ฝั่งซ้ายไม่มีปุ่มอะไร ส่วนฝั่งขวามีปุ่มกดที่สามารถเข้าเมนูทำงานได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่ต้องระวังคือถ้าใส่ถุงมือเล่น Weight หรือถุงมือกันหนาวอาจจะกดแบบไม่ได้ตั้งใจ จนทำให้ปิดเองได้ในที่สุด

ส่วนบนและล่างเป็นสายที่สามารถถอดเปลี่ยนได้โดยขนาด 20 มิลลิเมตร สามารถเปลี่ยนสายได้ตามใจคุณซึ่ง

ด้านใต้นั้นมีเซนเซอร์วัดชีพจรของคุณพร้อมกับขั้วชาร์จไฟ จากที่ได้ทดลองนั้น สามารถใช้ร่วมกับ Bip รุ่นเก่าที่เป็นช่องชาร์จแบบเดียวกันได้ แต่ว่า ไม่สามารถใช้กับตระกูล GTR ได้

กันน้ำได้ไหม

การออกแบบของ Amazfit Bip 3 Pro ยังคงเน้นเรื่องการป้องกันน้ำได้ดี โดยไม่มีรูมากนัก นอกจากจุดระบายน้ำเท่านั้น ทำให้นาฬิการุ่นนี้สามารถลงน้ำได้ลึก 50 เมตรได้สบายๆ แต่คำแนะนำจากทีม Sanook Hitech คือ ถ้าลงน้ำทะเลแนะนำให้ขึ้นมาแล้วล้างน้ำจืดก่อนและเช็ดให้แห้งค่อยชาร์จไฟนะครับ

น้ำหนักในการสวมใส่

ข้อดีของ Smart Watch รุ่นนี้คือน้ำหนักของตัวเครื่องด้วยการที่ตัดฟีเจอร์บางสิ่งเช่นลำโพงและไมโครโฟนออกไปทำให้ลดน้ำหนักและความหนาของตัวเรือนได้มาก โดยน้ำหนักของ Smart Watch รุ่นนี้อยู่ที่ 32 กรัมเท่านั้น

ฟีเจอร์ทั่วไปของ Amazfit Bip 3 Pro

Smart Watch รุ่นนี้ยังคงเลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Zepp OS เน้นความลื่นไหลสามารถสั่งงานผ่านระบบ Touch Screen ทำให้คุณสามารถปัดเลื่อนขึ้นลงซ้ายขวาและกดลงได้อย่างสบายๆ นอกจากนี้ยังมียังมีฟีเจอร์ในเรื่องของการแจ้งเตือนจากมือถือ, การแสดงผลนาฬิกา, จับเวลา และสามารถเปลี่ยนหน้าปัดได้ด้วย และยังมี Widget ต่างๆ ให้เลือกแสดงผลเช่น

• หน้าปัดทั่วไปที่เปลี่ยนได้ 50 รูปแบบ
• Quick Setting ที่ปัดจากบนลงล่าง
• การแจ้งเตือนที่สามารถแสดงจากการปัดจากล่างขึ้นบน
• การดูเป้าหมายกิจกรรม
• อัตราการเต้นของหัวใจ
• ระดับ SpO2 หรือ ออกซิเจนในเลือด
• ความเครียด
• PAI แสดงผลเกี่ยวกับผลรวมสุขภาพและการออกกำลังกายแบบรวมกันและให้คะแนนเป็นเหรียญ
• สภาพอากาศ
• ควบคุมการเล่นเพลงได้

ดูที่ฟีเจอร์ Application Zepp

 

สำหรับ Application ที่ไว้เชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟน กับ นาฬิการวมถึงการ Update Software มีชื่อว่า Zepp ที่สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง Android และ iOS อีกด้วย และควบคุม Smart Watch ได้เต็มที่ด้วยเช่นเดียวกัน และเลือกการแจ้งเตือนได้เช่นเดียวกัน และสามารถนำคุณภาพของสุขภาพของคุณได้ด้วยเรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกการใช้งาน แถมยังสามารถตามหา นาฬิกาได้

ลองใส่ออกกำลังกาย

ขึ้นชื่อว่า Smart Watch สายสุขภาพที่มีราคาถูกแต่ก็มีฟีเจอร์มาแบบครบเครื่องโดยเฉพาะฟีเจอร์การออกกำลังกายที่สามารถบอกข้อมูลได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ได้อย่างดี แถมรุ่นนี้มีการบอกพิกัด GPS ได้ในตัว

โดยมีโปรแกรมออกกำลังกายในตัวมากถึง 60 รูปแบบเช่น การล่าสัตว์, การแล่นเรือ,การเล่นสเก็ตบอร์ด, โรลเลอร์สเก็ต, โบว์ลิ่ง, วอลเลย์บอลล์, ฮิพออพ, เต้นบอลลูม, คาราเต้, ยูโด, มวยไทย, ไท่ฉี, การโดดเชือกและอื่นๆ และยังสามารถบอกได้ทั้ง การนับก้าวเดิน, เป้าหมายของกิจกรรม, วัดแคลอรี่ที่ใช้ไป รวมไปถึงระยะการเดิน และยังวัดการนอนได้ โดยมีการบอกเรื่องของคุณภาพการนอนด้วย

แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ

สำหรับแบตเตอรี่ของ Amazfit Bip 3 Pro สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 14 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับในการเชื่อมต่อและการใช้ออกกำลังกาย ถ้ามีการใช้งาน GPS จับพิกัดการออกกำลังกายก็จะพบว่าแบตเตอรี่หมดเร็วมากเช่นเดียวกัน

ส่วนขั้วชาร์จของ Amazfit Bip 3 Pro เป็นแบบแม่เหล็กติดได้ง่ายและมีขนาดเล็กพกสะดวก แนะนำให้ชาร์จผ่าน Adapter กำลัง 10W

สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ทดลองใช้งาน Amazfit Bip 3 Pro มาสักพักหนึ่ง

จากการใช้ชีวิตกับ Amazfit Bip 3 Pro มาสักพักใหญ่เป็นระยะเวลาเกือบ 1 เดือนเต็ม พบว่าเป็นอีก Smart Watch ที่ไว้เพื่อแจ้งเตือน ดูข้อมูลการออกกำลังกายและรวมไปถึงแจ้งเตือนได้แม่นยำมากพอสมควร แถมแบตเตอรี่ใช้ได้นาน เปลี่ยนสายง่าย แต่อาจจะไม่ถูกใจกับคนที่ต้องการใช้นาฬิการุ่นนี้มาพูดคุยสายสนทนา

อย่างไรก็ตามกับราคาแค่ 1,690 บาท ถือว่าเป็นอีก Smart Watch ที่มีราคาไม่แพง และจับต้องได้ง่ายอีกตัวเลือกหนึ่ง ถ้าใครมองหา Smart Watch งบไม่แรงแต่ครบเครื่องเน้นจอใหญ่คมชัด Amazfit Bip 3 Pro ถือว่าตอบโจทย์มากอีกรุ่นหนึ่ง ทั้งนี้มีให้เลือกทั้งสีดำ, ชมพู และสีครีมเลือกอยู่ครับ

จุดเด่น

• ขนาดเล็กสะดวกพกพา
• โปรแกรมออกกำลังครบเครื่อง
• แบตเตอรี่อึดใช้ได้นาน
• กันน้ำได้ลึกมาก
• มีการบอกพิกัดในตัว (เฉพาะ Bip 3 Pro)

ข้อสังเกต

• ที่ชาร์จยังเป็นแบบเฉพาะ
• ไม่มีลำโพง / ไมโครโฟนในตัว
• รับการแจ้งเตือนได้ แต่ไม่สามารถตอบโต้ด้วยข้อความได้