แกะกล่องเล่นจริงกับ "Xiaomi 12 | 12 Pro" สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ สเปคแรง หน้าจอ 120Hz

สวัสดีครับ ^^ กลับมาพบกันอีกครั้งกับพวกเราทีมงาน Sanook! Hitech กับคอลัมน์แกะกล่องรีวิวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวและพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

สำหรับคิวล่าสุดนี้เป็นบทความรีวิว  "Xiaomi 12 | Xiaomi 12 Pro" สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดที่แม้ว่าจะเปิดตัวในประเทศจีนไปตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ในระดับโลกเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มีนาคมนี้เอง

และแน่นอนว่าพวกเราหรือจะรอช้าที่จะนำ  "Xiaomi 12 | 12 Pro" มาแกะกล่องลองเล่นและเล่าให้แฟนๆ ของ Sanook! Hitech ได้อ่านกัน!

รายละเอียดสเปกของ Xiaomi 12 Pro

• ขนาดตัวเครื่อง: 163.60 x 74.60 x 8.16 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก: 205 กรัม
• จอแสดงผลขนาด 6.73 นิ้ว แบบ AMOLED WQHD ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล, อัตรารีเฟรช 120HZ
  
• ชิปเซ็ต: Snapdragon 8 Gen1 Octa Core
• รองรับ 5G
• Nano-SIM รองรับ 2 ซิมการ์ด
  
• RAM: 12GB
• ROM: 256GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (Ultra Wide), รูรับแสงขนาด ƒ/2.45
• กล้องด้านหลัง 3 ตัวหลังประกอบด้วย (Triple Camera)
  
  • เลนส์หลัก(Ultrawide) ความละเอียด 50ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด ƒ/1.9 เซนเซอร์ Sony IMX707
  • เลนส์เลนส์อัลตราไวด์ (Ultra-Wide) ความละเอียด 50ล้านพิกเซล , รูรับแสง ƒ/2.2
  • เลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, รูรับแสง ƒ/1.9
• แบตเตอรี่ขนาด: 4600 mAh
• รองรับชาร์จไว 120W (Fast Charging) ใน Boost Mode
• รองรับชาร์จไร้สาย 50W (Wireless Charging) และสามารถแบ่งแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless PowerShare) ได้
• ระบบเสียง: ลำโพง 4 ตัว ระบบเสียง Harman Kardon, ระบบเสียง Dolby Atmos
• ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Fingerprint Under Display)
• ระบบปฏิบัติการ: ระบบปฏิบัติการ MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12
• มี 4 สีให้เลือกได้แก่ Black, Green, Blue, Pink
• ราคา: 31,990 บาท
  

รายละเอียดสเปกของ Xiaomi 12

• ขนาดตัวเครื่อง: 152.7 x 69.90 x 8.16 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก: 180 กรัม
• จอแสดงผลขนาด 6.28 นิ้ว แบบ AMOLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล, อัตรารีเฟรช 120HZ
  
• ชิปเซ็ต: Snapdragon 8 Gen1 Octa Core
• รองรับ 5G
• Nano-SIM รองรับ 2 ซิมการ์ด
• RAM: 8/12GB
• ROM: 256GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 32ล้านพิกเซล (Wide), รูรับแสงขนาด ƒ/2.45
• กล้องด้านหลัง 3 ตัวหลังประกอบด้วย (Triple Camera)
  
  • เลนส์หลัก (Ultrawide) ความละเอียด 50ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด ƒ/1.9 เซนเซอร์ Sony IMX766
  • เลนส์เลนส์อัลตราไวด์ (Ultra-Wide) ความละเอียด 13ล้านพิกเซล , รูรับแสงขนาด ƒ/2.24
  • เลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto) ความละเอียด 5ล้านพิกเซล
• แบตเตอรี่ขนาด 4500 mAh
• รองรับชาร์จไว 67W (Fast Charging)
• รองรับชาร์จไร้สาย 50W (Wireless Charging) และสามารถแบ่งแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless PowerShare) ได้
• ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Fingerprint Under Display)
• ระบบปฏิบัติการ: ระบบปฏิบัติการ MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12
• ระบบเสียง: SOUND BY Harman Kardon
• มี 4 สีให้เลือกได้แก่ Black, Green, Blue, Pink
• ราคา: รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 24,990 บาท, รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 26,990 บาท

เปิดกล่อง Xiaomi 12 Pro สำรวจอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง

• ตัวเครื่อง Xiaomi 12 Pro 
• อแดปเตอร์
• สายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
• เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
• เคสใส
• คู่มือการประกอบการใช้งาน

Design – การออกแบบ ของ Xiaomi 12 Pro l Xiaomi 12

เริ่มจากดีไซน์ของเครื่องที่ทั้งคู่มีลักษณ์คล้ายกัน ถ้าวางข้างๆ กันแล้วพบว่าหน้าจอโค้งทั้งคู่ แต่ขนาดของเครื่องทำให้แยกออกได้เลย โดย Xiaomi 12 จะมีขนาดหน้าจอ 6.28 นิ้ว จับถนัดมือ ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป ได้หน้าจอ AMOLED ความละเอียระดับ Full HD ความสว่างของหน้าจอ 1,300 nits พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz

แต่ถ้าอยากได้ขนาดที่ใหญ่กว่านี้เรียนเชิญที่ Xiaomi 12 Pro กับขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว และทั้งคู่ได้ Panel แบบ AMOLED ก็จริงแต่ว่า ความสว่างทำได้ระดับ 1,500 nits เรียกได้ไม้แพ้แดดเมืองไทย

ส่วนบนทั้งคู่จะมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ลำโพงสำหรับสนทนาและการแจ้งเตือนในระบบปฏิบัติการ Android

ส่วนล่าง จะเป็นปุ่มควบคุมของระบบ Android เบื้องต้นจะเป็นค่า การนำทางแบบปุ่ม แต่สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > Home Screen (หน้าจอหลัก) > Navigation การนำทาง  สามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบคือ 

• ปุ่ม
• การปัดด้วยท่าทาง
• นอกจากนี้ยังมีการทำปุ่มลัดและการปิดใช้งานปุ่มลัดอัตโนมัติอีกด้วย

รอบตัวเครื่องออกแบบได้สวยงามแรกกลางระหว่างกระจก Gorilla Glass Victus กับขอบโลหะด้าน และ ด้านหลังที่เป็นผิวกระจกอย่างดี ฝั่งซ้ายไม่มีปุ่มกดอะไรทั้งสิ้น

ฝั่งขวามือจะมีปุ่มกด Power สำหรับเปิด-ปิด เครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง การบันทึกหน้าจอทำได้ง่ายนอกจาการกดหน้าจอแล้ว ยังสามารถกดปุ่ม Power และ ลดเสียงพร้อมกันได้

ส่วนบนมีลำโพง สัญญาลักษณ์ Sound by Harman / Kardon และมีขนาดลำโพงที่ใหญ่ทั้งคู่พร้อมกับ IR Blaster และมีไมโครโฟนตัวที่ 2 เดี๋ยวความแตกต่างของลำโพง เราจะเก็บไว้เล่าต่อในส่วนการแสดงผลภาพและลำโพงครับ

ส่วนล่างจะมีช่องใส่ซิมการ์ดรองรับ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง, USB-C สำหรับเสียบเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์, หูฟังและ ชาร์จไฟ, ไมโครโฟน และ ลำโพงขนาดใหญ่

พลิกมาด้านหลังมีการวางตำแหน่งกล้องด้านบนชัดเจน สังเกตว่ากล้องนั้นมีความบางลงกว่าเดิมเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้วแต่ว่าไม่ได้ลดสเปกลง พร้อมกับผิวด้านหลังเป็นกระจกที่ไม่ได้ขัดเงามากทนรอยนิ้วมือได้ดี และยังมีโลโก้ Xiaomi 5G เมื่อถือเครื่องแนวนอน

 การแสดงผลภาพ / ระบบเสียง

หน้าจอนั้นทั้งคูให้สีสันที่คมชัด รับชมภาพยนตร์อะไรก็สวยงาม และรองรับ Refresh Rate 120Hz ทำให้การสัมผัสหน้าจอทำได้รวดเร็วมากเล่นเกม็เพลิดเพลิน และค่าสีถือว่าทำได้เที่ยงตรงไม่ผิดวหวังแน่นอน 

ส่วนเรื่องของระบบเสียงที่บอกไปว่าทั้ง Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro นั้นแตกต่างกันอยู่ที่ช่องใหญ่ขึ้นคือ Xiaomi 12 Pro จะมี Woofer ขนาดเล็กทั้งด้านบนและล่างทำให้เสียงที่ออกมานั้นมีความคมชัดและเบสรับได้เยอะกว่าทำให้การชมภาพยนตร์ มันมีอรรถรสกว่านิดนึงถ้าเปิดเสียงดังพอ แต่ทั้งคู่ก็ปรับจูนเสียงจาก Harman / Kardon และรองรับ Dolby ATMOS เรียกได้ว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

การทดสอบประสิทธิภาพ

ออกมาถือว่าทำได้ดีในระดับมือถือเรือธงเลยครับ แน่นอนว่าการใช้งานจริงก็ถือว่าตอบโจทย์ในการเล่นเกมได้ลงตัวอยู่นะ

Xiaomi 12 Pro และ Xiaomi 12 มาพร้อม ชิปเซตประสิทธิภาพระดับไฮเอนด์ Snapdragon® 8 Gen 1 ถือเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับการประสิทธิภาพการประมวลผลด้วยเทคโนโลยี 4nm ที่ล้ำสมัย โดยที่ความสามารถของ GPU เพิ่มขึ้น 30% ในส่วนของการแสดงผลกราฟิก และประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 25%  Xiaomi 12 Pro สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการใช้พลังงานในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

สิ่งที่ Xiaomi 12 Pro ดูจะเหนือกว่า Xiaomi 12 ในเรื่องนี้คือความจำมาพร้อมกับ UFS 3.1 เพื่อความเร็วขั้นกว่าในการโหลดและการถ่ายโอนข้อมูล เช่นเดียวกับ LPDDR5 RAM ที่มีความเร็วหน่วยความจำสูงถึง 6,400Mbps เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพที่ราบรื่นและมีความเสถียรไปพร้อม ๆ กัน Xiaomi 12 Pro มีระบบระบายความร้อนที่มี VC ขนาดใหญ่พิเศษ 2,900 มม. และแผ่นกราไฟท์ระบายความร้อนขนาดใหญ่ 3 แผ่น ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนและให้ความเสถียรตลอดการใช้งาน

แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟของมือถือรุ่นนี้

Xiaomi 12 Pro มาพร้อมกับเทคโนโลยี Xiaomi HyperCharge 120W ระบบชาร์จอัจฉริยะซึ่งจะเรียนรู้ลักษณะการชาร์จแบตเตอรีของผู้ใช้งานในแต่ละวันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรีในระยะยาว

โดย Xiaomi 12 Pro ยังใช้แบตเตอรีแบบ single-cell 120W เป็นรุ่นแรกในตลาด เมื่อเปรียบเทียบกับแบตเตอรีเซลล์คู่ที่มีความจุ 4,600mAh เท่ากัน แบตเตอรีของ Xiaomi 12 Pro มีความบางมากกว่า

นอกจากนี้ IC การชาร์จ Surge P1 เอกลักษณ์ของ Xiaomi ยังช่วยเพิ่มความจุและพลังของแบตเตอรี ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการชาร์จโดยรวมได้ แต่ว่า Xiaomi 12 จะมาพร้อมกับการชาร์จไฟ 67W รองรับระบบไร้สายกำลัง 50W ก็ถือว่าเร็วอยู่นะ 

ส่วนความอึดของแบตเตอรี่ Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro ยังใช้คำว่าถ้าใช้งานไม่หนัก รอดทั้งวัน แต่ถ้า หนักเกินไปแล้วเกินจะแบกเนี่ย ต้องบอกเลยครับว่า ไม่สามารถอยู่ได้จบวันแน่นอน ตามสไตล์มือถือเรือธงสมัยนี้ครับ แต่ได้ระบบชาร์จไฟเร็วอย่างที่บอกไปขั้นต้นก็สามารถชดเชยได้ครับ 

เปิดเครื่องเพื่อทดลองใช้งานรวมไปถึงฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันพื้นฐานต่าง ๆ เริ่มกันที่หน้า Home

Xiaomi 12 Pro

Xiaomi 12

อย่างที่เราบอกไปตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า Xiaomi 12 | Xiaomi 12 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12 ดังนั้นมั่นใจว่าหน้าตาของหน้าจอหลักและหน้าเมนูการใช้งานพื้นฐานจะคุ้นตาเราเป็นอย่างดี ในส่วนของการตั้งค่าพื้นฐานต่างๆ ก็เช่นกัน

ทดสอบ refresh rate 120Hz ของ Xiaomi 12 | Xiaomi 12 Pro กันหน่อย Xiaomi 12 Pro ได้รับการการันตีด้วยคะแนน A+ จาก DisplayMate จอแสดงผล WQHD+ AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด 3200 x 1440 สี 10 bit พร้อมรองรับ Dynamic 120Hz LTPO

นอกจากนี้ยังมี AdaptiveSync Pro ที่ช่วยให้ Xiaomi 12 Pro สามารถปรับการแสดงผล LTPO ได้อัตโนมัติจาก 1Hz ถึง 120Hz ตามลักษณะของการใช้งานขณะนั้นเพื่อการเลื่อนจอ การปัดจอขึ้น-ลง หรือเลื่อนจอไปด้านข้าง ได้อย่างนุ่มนวลและราบรื่น

ในส่วนของการใช้งานเมนูทางลัดก็เหมือนกัน เราสามารถทำได้โดยการปัดนิ้วมุมบนลงมา WiFi, Bluetooth, ไฟฉาย, โหมดประหยัดพลังงาน การปรับแสงหรือขนาดตัวอักษร และอื่นๆ อีกหลายเมนูก็จะอยู่จตรงนี้

ต่อกันที่การเลือกธีม/วอลเปเปอร์ ตรงนี้เราสามารถปรับแต่งอินเทอร์เฟชสมาร์ทโฟนของเราได้ตามความชอบเลยครับ ในรุ่นนี้มีมาให้เราเลือกหลากหลายมาก เลือกใช้งานกันไม่ถูกเลยทีเดียวมีทั้งแบบเสียเงินกับฟรี ก็ไม่มีทางจำเจเลยละ

ระบบรักษาความปลอดภัย

สำหรับการยืนยันตัวตนของ Xiaomi 12 | Xiaomi 12 Pro จะมีสองแบบ คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผลและระบบสแกนใบหน้า ซึ่งการตั้งค่าก็เหมือนกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยทั่วไปเลยคครับ เท่าที่ทดสอบดูการยืนยันตัวตนทั้ง 2 แบบสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและค่อนข้าวแม่นยำเลย

Play Store มีอะไรบ้าง?

อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่าในมือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จะมีชื่อแอปพลิเคชันว่า Google Play Store จริงมันก็คือร้านค้าของ Google นั้นเองครับ แน่นอนว่าเราสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ ได้จากตรงนี้

 

ส่วนของกล้อง..สร้างสรรค์งานภาพระดับภาพยนตร์ด้วยกล้องสามตัวระดับโปร

Xiaomi 12 Pro มาพร้อมกับกล้องสามตัว ซึ่งมีดีไซน์การจัดวางแบบเรียงแถว ประกอบไปด้วย กล้องหลัก 50MP พร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่พิเศษ Sony IMX707 กล้องอัลตราไวด์ 50MP และกล้องเทเลโฟโต้ 50MP ด้วยการใช้เทคโนโลยีการรวมพิกเซล 2.44μm 4-in-1 ระบบกล้องหลักช่วยเพิ่มความสามารถในการจับภาพแสงได้ถึง 120% เมื่อเทียบกับ Xiaomi 111 ใช้อัลกอริธึม AI ขั้นสูงของ Xiaomi เพื่อการจับภาพในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ใช้งานเอฟเฟกต์พิเศษระดับมืออาชีพและฟีเจอร์ที่สร้างสรรค์มากมาย

รวมถึง Xiaomi ProFocus, One click AI cinema ฯลฯ ขณะเดียวกัน โหมด Ultra Night Video ก็ช่วยให้การถ่ายวิดีโอได้ผลงานที่ยอดเยี่ยมแม้ในสภาพแสงน้อย พร้อมโหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait) ที่หลากหลายรูปแบบ ทำให้สามารถถ่ายภาพด้วยคุณภาพระดับสตูดิโอ

สเปกของกล้องใน Xiaomi 12 Pro

• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (Ultra Wide), รูรับแสงขนาด ƒ/2.45
• กล้องด้านหลัง 3 ตัวหลังประกอบด้วย (Triple Camera)
  
  • เลนส์หลัก(Ultrawide) ความละเอียด 50ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด ƒ/1.9
  • เลนส์เลนส์อัลตราไวด์ (Ultra-Wide) ความละเอียด 50ล้านพิกเซล , รูรับแสง ƒ/2.2
  • เลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, รูรับแสง ƒ/1.9

สเปกของกล้องใน Xiaomi 12

• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 32ล้านพิกเซล (Wide), รูรับแสงขนาด ƒ/2.45
• กล้องด้านหลัง 3 ตัวหลังประกอบด้วย (Triple Camera)
  
  • เลนส์หลัก (Ultrawide) ความละเอียด 50ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด ƒ/1.9
  • เลนส์เลนส์อัลตราไวด์ (Ultra-Wide) ความละเอียด 13ล้านพิกเซล , รูรับแสงขนาด ƒ/2.24
  • เลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto) ความละเอียด 5ล้านพิกเซล

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วย Xiaomi 12 Pro ในสภาวะแสงต่างๆ

มาทดสอบความสามารถในการซูมกันบ้าง สำหรับ Xiaomi 12 Pro สามารถซูมได้ตั้งแต่ 0.6x ถึง 20x แบบดิจิทัล มาดูตัวอย่างการซูมกันหน่อยละกันว่ามันจะทำออกมาได้ดีขนาดไหน? ซึ่งตัวอย่างภาพในรีวิวนี้เราใช้ระดับ 0.6, 1X และ 2X

ต่อกันที่หมวดโหมด Portrait ช่วยให้ภาพออกมาได้สวยไม่แพ้กัน แน่นอนว่าในโหมดนี้หลายคนชอบแน่นอน เพราะในรุ่นนี้สามารถเก็บภาพหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างเป็นธรรมชาติ  ไม่ว่าจะถ่ายคนหรือสิ่งของ ช่วยให้วัตถุหรือตัวแบบที่ถ่ายดูโดดเด่นขึ้นมา หน้าชัด หลังเบลอ บอกเลยละลายไปหมด

ลองโหมดถ่ายภาพมาโครกันหน่อย เอาแบบกรุบกริบละกัน เราชอบถ่ายภาพแบบนี้นะ โหมดนี้จะซูมภาพยิ่งใกล้ยิ่งชัด

มาลองทดสอบโหมดการถ่ายภาพกลางคืนกันหน่อยละกัน

ด้วยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับ โหมดถ่ายภาพกลางคืน และยังมีซอฟต์แวร์ AI ที่เข้ามาช่วยปรับภาพหลังการถ่ายเพิ่มเข้ามาทำให้ภาพกลางคืนที่ถ่ายมีความโดดและสวย ทำให้เราไม่ต้องกังวลกับการถ่ายภาพตอนมืดๆ อีกต่อไปครับ 

ทดสอบกล้องด้านหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (Ultra Wide), รูรับแสงขนาด ƒ/2.45

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วย Xiaomi 12  ในสภาวะแสงต่างๆ

ต่อกันที่หมวดโหมด Portrait ช่วยให้ภาพออกมาได้สวยไม่แพ้กัน

 มาลองทดสอบโหมดการถ่ายภาพกลางคืนกันหน่อยละกัน

 ทดสอบ กล้องด้านหน้า ความละเอียด 32ล้านพิกเซล (Wide), รูรับแสงขนาด ƒ/2.45 กันสักหน่อยครับ

นอกจากลูกเล่นกล้องเรียได้ว่ามาครบเครื่องแล้ว อีกข้อดีของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ คือมันมาพร้อมกับฟิลเตอร์สวยๆ ให้เราได้เลือกใช้มากมาย สามารถใช้ได้ทั้งโหมดภาพนิ่งและวิดีโอ ทำให้เกิดการสร้างสรรค์ได้ดีแทบลงต่อในคอมพิวเตอร์ได้อย่างสบายๆ 

และใน Gallery เรายังสามารถตกแต่งภาพได้อีกด้วย คือในแอป Gallery ของ Xiaomi สุดจริงๆ ถ่ายแล้วไม่ต้องโหลดแอปอะไรมาให้ยุ่งยาก เพราะเราสามารถเปิดภาพใน Gallery ขึ้นมาแต่ได้ทันที (ต่อไปใครแต่งภาพไม่เก่งไม่ต้องกังวลอีกแล้ว)

แชร์ประสบการณ์หลังได้ลองเล่น Xiaomi 12 Pro อยากรู้มั้ยมันเหมาะกับใคร?

จะดูหนัง เล่นเกม หรือทำอะไรก็สนุก แน่นอนว่า Xiaomi 12 Pro และ Xiaomi 12 สามารถมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สมบูรณ์แบบได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมที่มีขนาดใหญ่ และการกราฟิกสูงแค่ไหนก็เอาอยู่ ภาพที่คมชัดทำให้เราเพลิดเพลิน นอกจากเล่นเกมแบบไม่มีสะดุดทำให้เราสามารถสัมผัสแห่งภาพและเสียงที่ครบถ้วน

หน้าจอแสดงผลของ Xiaomi 12 Pro ได้รับการการันตีด้วยคะแนน A+ จาก DisplayMate จอแสดงผล WQHD+ AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด 3200 x 1440 สี 10 bit พร้อมรองรับ Dynamic 120Hz LTPO และเทคโนโลยีไมโครเลนส์ Xiaomi 12 Pro ให้ความสมดุลและครบทุกรายละเอียด หน้าจอแสดงผลให้สีสันสดใสที่สุดเมื่อเทียบกับมือถือในหมวดเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมี AdaptiveSync Pro ที่ช่วยให้ Xiaomi 12 Pro สามารถปรับการแสดงผล LTPO ได้อัตโนมัติจาก 1Hz ถึง 120Hz ตามลักษณะของการใช้งานขณะนั้นเพื่อการเลื่อนจอ การปัดจอขึ้น-ลง หรือเลื่อนจอไปด้านข้าง ได้อย่างนุ่มนวลและราบรื่น โดยมี SGS Eye Care Display Certification เป็นการยืนยันว่า Xiaomi 12 Pro ใส่ใจในสายตาของผู้ใช้งาน จะใช้งานกลางแจ้งในที่มืด หรือโหมดอ่านหนังสือก็ไม่มีปัญหา บอกเลยว่าเจอหน้าจอใหญ่ๆ แบบนี้และแถมด้วยรีเฟรชเรท 120Hz จะดูอะไรๆ ก็ฟินเต็มตา

 

นอกจากนี้ยังให้ระบบเสียงที่น่าประทับใจและความคมชัดที่เพิ่มขึ้น Xiaomi 12 Pro มีลำโพงสี่ตัว คุณภาพระดับ SOUND BY Harman Kardon และรองรับ Dolby Atmos® ทำให้คุณสนุกกับคอนเทนต์บนสมาร์ทโฟนได้อย่างยาวนาน

เรื่องของดีไซน์คงไม่ต้องพูดอะไรมากเพราะ Xiaomi เขาคิดมาแทนเราแล้ว ส่วนตัวนะเราว่าทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมพร้อมกับความโดดเด่นและทันสมัย เน้นสไตล์แฟชั่นมากยิ่งสีสันที่มีให้เลือกใช้งานหลากหลาย เราว่าถูกใจหลายคนแน่นอน

ราคา และช่องทางจำหน่าย Xiaomi 12 Pro และ Xiaomi 12 จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 เมษายน 2565

• Xiaomi 12 Pro รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 31,990 บาท ณ Xiaomi Store ทุกสาขาและร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
• Xiaomi 12 รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 26,990 บาท บนช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์ม ที่ JD Central, Lazada และ Shopee
• Xiaomi 12 รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 24,990 บาท ณ Xiaomi Store ทุกสาขาและร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

สำหรับลูกค้าที่สั่งจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย รับสิทธิ์ซื้อสินค้าในราคาพิเศษ* โดย Xiaomi 12 Pro ราคาเริ่มต้นเพียง 17,490 บาท และ Xiaomi 12 ราคาเริ่มต้นเพียง 12,990 บาท