โน้ตบุ๊คที่บางและเบาที่สุดของเรา วันนี้พลิกโฉมใหม่หมดในทุกด้านด้วยชิพ Apple M1 ที่ทำให้มี CPU เร็วขึ้นสูงสุด 3.5 เท่า และ GPUเร็วขึ้นสูงสุด 5 เท่า รวมทั้ง Neural Engine ที่ล้ำหน้าที่สุดของเรา
ซึ่งเสริมให้การเรียนรู้ของระบบเร็วขึ้นสูงสุดถึง 9 เท่า พร้อมด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน MacBook Air ซึ่งครั้งนี้มาในดีไซน์แบบไม่มีพัดลมที่มีก็แต่ความเงียบ เอาเป็นว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่พลังระดับนี้จะพร้อมไปกับคุณได้เท่านี้มาก่อน
ได้ฤกษ์ออกโรงแล้ว กับชิพตัวแรกสุดที่เราออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ Mac นั่นก็คือ System on Chip (SoC) รุ่น Apple M1 ซึ่งอัดแน่นไปด้วยทรานซิสเตอร์จำนวนมหาศาลถึง 16 พันล้านตัว เรียกว่าเป็นการนำ CPU, GPU, Neural Engine, I/O และอีกมากมายมารวมอยู่ในชิพขนาดจิ๋วเพียงชิ้นเดียว ยิ่งเมื่อดูจากประสิทธิภาพอันเหนือชั้น พร้อมด้วยเทคโนโลยีแบบเฉพาะ และการประหยัดพลังงานชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมแล้ว ก็ยิ่งชัดว่าชิพ M1 ไม่ใช่แค่ความก้าวหน้าธรรมดาๆ สำหรับ Mac แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
ชิพ M1 มี CPU ที่เร็วที่สุดเท่าที่เราเคยสร้างมา และด้วยความเร็วในการประมวลผลระดับนี้ MacBook Air จึงสามารถจัดการงานใหม่ๆ ที่ต้องประมวลผลอย่างหนักหน่วงได้อยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อด้วยคุณภาพระดับมือโปรหรือการเล่นเกมที่มีแอ็คชั่นจัดเต็ม แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ CPU แบบ 8‑core บนชิพ M1 ไม่ใช่แค่เร็วขึ้นสูงสุด 3.5 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่ยังปรับการทำงานของคอร์ประสิทธิภาพสูงและคอร์ด้านประหยัดพลังงานให้สมดุลจนสามารถรับมือกับงานทั่วไปในแต่ละวันได้สบายๆ ขณะที่ใช้พลังงานเพียง 1 ใน 10 เท่านั้นเอง
GPU สูงสุดแบบ 8-core GPU ในชิพ M1 ทำให้ MacBook Air ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับชั้นที่ไม่มีใครเทียบ เพราะชิพ M1 โดดเด่นด้วยกราฟิกในตัวที่เร็วที่สุดในโลกซึ่งอยู่ภายในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล จึงมีประสิทธิภาพกราฟิกเร็วขึ้นสูงสุด 5 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ประสิทธิภาพกราฟิกอันเหนือชั้น MacBook Air สามารถจัดการกับโปรเจ็กต์ที่เน้นกราฟิกหนักได้อย่างที่ไม่เคยมีมา และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ผู้สร้างคอนเทนต์สามารถตัดต่อและเล่นวิดีโอระดับ 4K เต็มคุณภาพแบบหลายสตรีมได้ไม่มีสะดุดสักเฟรม
แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง มากกว่าเดิม 6 ชั่วโมง แบบไม่มีชาร์จเพิ่ม
ชิพ M1 มีความสามารถในการประหยัดพลังงานระดับชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม จึงทำงานได้อย่างดีเยี่ยมแม้จะไม่มีพัดลม และวันนี้ยิ่งมีตัวกระจายความร้อนอะลูมิเนียมสำหรับระบายความร้อนที่เกิดจากระบบด้วยแล้ว MacBook Air ก็ยิ่งทำงานได้เงียบสนิทไม่ว่าจะต้องเจองานหนักแค่ไหนก็ตาม
สามารถใช้การเรียนรู้ของระบบ (ML) เพื่อแต่งรูปให้สวยแบบมือโปรได้โดยอัตโนมัติ ทำให้เครื่องมือฉลาดๆ อย่างคฑาวิเศษและฟิลเตอร์เสียงสามารถตรวจจับแบบอัตโนมัติได้แม่นยำยิ่งขึ้น และอีกมากมาย ซึ่งนั่นไม่ใช่แค่พลังของมันสมอง แต่เป็นพลังจากเทคโนโลยี ML อย่างเต็มรูปแบบ
มหัศจรรย์แห่งการเรียนรู้ของระบบ เทคโนโลยีการเรียนรู้ของระบบในชิพ M1 เปิดโลกแห่งความเป็นไปได้อีกมากมายให้กับแอพสำหรับ Mac ด้วยความที่การเรียนรู้ของระบบช่วยให้แอพสามารถสร้างและนำโมเดลที่อ้างอิงจากข้อมูลปริมาณมหาศาลมาประยุกต์ใช้เพื่อทำสิ่งต่างๆ อย่างการระบุตัวตนของเพื่อนและครอบครัวในรูปภาพและวิดีโอ ตีความภาษาตามธรรมชาติที่ใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับคุณสมบัติ "เขียนตามคำบอก" หรือแม้แต่วิเคราะห์เสียงเพื่อจดจำเสียงหัวเราะ เสียงปรบมือและอื่นๆ ที่สำคัญคือการประมวลผลข้อมูลนั้นจะเกิดขึ้นบนอุปกรณ์เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ และทั้งหมดนี้ยังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในพริบตาอีกด้วย
Neural Engine Neural Engine แบบ 16‑core ในชิพ M1 ที่มีมาให้โดยเฉพาะนั้นสามารถประมวลผลได้สูงสุดถึง 11 ล้านล้านรายการต่อวินาที จึงเป็นขุมพลังชั้นเยี่ยมสำหรับเวิร์กโฟลว์ต่างๆ ในแบบที่คุณไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำได้ อย่างการทำให้แอพ djay Pro AI สามารถแยกเสียงเครื่องดนตรีและเสียงร้องของเพลงไหนก็ได้ในแบบเรียลไทม์
ปรับแต่งมาเพื่อการเรียนรู้ของระบบ ทุกส่วนของชิพ M1 นั้นล้วนสร้างมาเพื่อการเรียนรู้ของระบบ โดยทั้ง CPU, GPU และ Neural Engine ต่างได้รับการออกแบบมาเพื่องานด้านการเรียนรู้ของระบบประเภทต่างๆ โดยมีตัวควบคุมประสิทธิภาพ ML คอยแจกจ่ายงาน ML ไปยังส่วนที่เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวเร่งความเร็ว ML ตัวเร่งความเร็ว ML ที่มีมาให้โดยเฉพาะทั้ง 2 ตัวนั้นสร้างมาเพื่อการคูณเมทริกซ์ที่รวดเร็ว โดยสามารถประมวลผลได้สูงสุดถึง 1 ล้านล้านรายการต่อวินาที ซึ่งเหมาะมากสำหรับงาน ML ความหน่วงต่ำที่ไม่จำเป็นต้องใช้ขุมพลังอลังการของ Neural Engine
macOS Big Sur พัฒนามาเพื่อปลดล็อคศักยภาพของชิพ M1 พร้อมทั้งพลิกโฉม Mac ด้วยประสิทธิภาพในด้านหลักๆ ที่ดีขึ้นและอีกมากมาย ตั้งแต่การอัพเดทอันทรงพลังสำหรับแอพ ดีไซน์ใหม่ที่สวยงาม ไปจนถึงคุณสมบัติด้านความเป็นส่วนตัวชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมและความปลอดภัยที่ดีที่สุด เรียกได้ว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา และยังทำงานบนฮาร์ดแวร์ที่ล้ำหน้าที่สุดของเราด้วย
ชิพ M1 ผนึกกำลังกับ macOS Big Sur เพื่อเร่งสปีดให้ทั้งระบบรวดเร็วฉับไวยิ่งขึ้น นั่นทำให้ MacBook Air พร้อมทำงานในทันทีหลังจากพักเครื่อง และยังทำสิ่งที่คุณทำอยู่ทุกวันอย่างการเลื่อนดูรูปจนถึงการท่องเว็บบน Safari ได้เร็วขึ้น ส่วนแอพที่ทำงานหนักๆ ก็ยังดึงขุมพลังมาใช้ได้เต็มที่ตามต้องการด้วยขุมพลังมากขึ้น เครื่องติดได้ทันที
ทั้งใช้งานแอพอันทรงพลังที่สร้างมาสำหรับชิพ M1 หรือใช้งานแอพทั้งหมดที่คุณมีอยู่แล้วด้วย Rosetta 2 ขณะเดียวกันก็เป็นครั้งแรกที่คุณสามารถใช้แอพ iPhone และ iPad ที่ชื่นชอบทั้งหลายบน macOS Big Sur ได้โดยตรงอีกด้วย ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน คุณก็มีคอลเลกชั่นแอพสำหรับ Mac ให้เลือกใช้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยล่ะ
โน้ตบุ๊คสำหรับทำทุกอย่างมาพร้อมกับหน่วยความจำสำหรับทำสิ่งที่เหลือเชื่อ และชิพ M1 ก็สามารถรองรับหน่วยความจำแบบรวมที่เร็วสุดขั้วได้ถึงขนาดสูงสุด 16GB ซึ่งการมีหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงและความหน่วงต่ำอยู่ในที่เดียวนั้นช่วยให้แอพสามารถแชร์ข้อมูลระหว่าง CPU, GPU และ Neural Engine ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณทำทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหลนั่นเอง
เต็มตาไปกับอีกระดับของภาพทั้งในด้านรายละเอียดและความสมจริงบนจอภาพ Retina ขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 ไม่ว่าจะเป็นตัวหนังสือที่คมชัด สีสันที่สวยสดยิ่งกว่าที่เคย รวมทั้งกระจกที่กว้างออกไปจนสุดขอบตัวเครื่อง และจากนี้ก็ไม่มีอะไรมาลดทอนความงามของสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคุณได้เลย
พาเลตแห่งสีสันที่มากยิ่งขึ้นบนจอภาพ แสดงสีสันได้มากกว่า sRGB25% เทคโนโลยี True Tone และสวยงาม สบายตา MacBook Air จะปรับจุดอ้างอิงสีขาวของจอภาพให้ตรงกับอุณหภูมิสีรอบๆ โดยอัตโนมัติเพื่อประสบการณ์การดูที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
ภายในชิพ M1 คือโปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพที่จะช่วยให้คุณดูดีที่สุดไม่ว่าจะโทร FaceTime หรือประชุมทางวิดีโอ แล้วยังมีไมโครโฟนในตัวอีก 3 ตัวที่ไม่ว่าคุณจะคุยโทรศัพท์ เขียนโน้ตตามคำบอก หรือถาม Siri เรื่องสภาพอากาศ ก็รับรองว่าสิ่งที่คุณพูดจะชัดเจนแน่นอน
เพลิดเพลินกับภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น พร้อมกับเห็นรายละเอียดของส่วนเงามืดและไฮไลท์ได้มากขึ้น ทั้งยังมีระบบตรวจจับใบหน้าที่ใช้ Neural Engine เพื่อปรับไวท์บาลานซ์และค่าแสงเพื่อให้สีผิวดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นด้วย
พูดเลยว่าไมค์นี้จะโฟกัสอยู่ที่เสียงคุณ ไม่ใช่เสียงรอบๆ คุณ
เมื่อคีย์บอร์ดพิมพ์ได้ราวกับฝันและยังทำอะไรๆ ได้มากยิ่งกว่านั้น นี่แหละที่เรียกว่ามหัศจรรย์ ลองใช้คำสั่งลัดใหม่ๆ ที่ตั้งโปรแกรมมาให้แล้วดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าการเรียกใช้คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์นั้นง่ายขึ้นแค่ไหน ไม่ว่าจะขอความช่วยเหลือจาก Siri, สลับภาษาบนคีย์บอร์ด, ตอบกลับด้วยอิโมจิที่ใช่ หรือค้นหาเอกสารด้วย Spotlight และยังมีอีกมากมายที่คุณทำได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ส่วนปุ่มที่มีแสงแบ็คไลท์ส่องใต้ปุ่มพร้อมกับเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบจะช่วยให้คุณพิมพ์ได้แม้ในสภาวะแสงน้อยอีกด้วย
กลไกแบบกรรไกรที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นพร้อมมอบประสบการณ์การพิมพ์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในโน้ตบุ๊ค Mac
ควบคุมได้อย่างแม่นยำ ด้วยพื้นที่เหลือเฟือสำหรับปัด หนีบ หรือซูม
แค่แตะเพียงครั้งเดียวก็ล็อคหรือปลดล็อค MacBook Air ได้แล้ว และ ยังใช้ลายนิ้วมือของคุณเพื่อเช่าภาพยนตร์ ซื้อแอพ และเข้าถึงสิ่งต่างๆ อย่างเอกสารหรือการตั้งค่าระบบที่ล็อคไว้ได้โดยไม่ต้องป้อนรหัสผ่านซ้ำๆ
จะชาร์จ แชท สตรีม ทำงาน ก็เข้าขาได้ดีกับทุกอย่าง
Wi-Fi เจเนอเรชั่นถัดไปไม่ใช่แค่เร็วขึ้น แต่ยังช่วยให้ MacBook Air เชื่อมต่อได้แรงดีไม่มีตก แม้จะมีอุปกรณ์เข้าร่วมเครือข่ายมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม
นี่คือการพบกันของแบนด์วิดท์สูงสุดขีดและความอเนกประสงค์แบบสุดขั้ว เพราะ Thunderbolt สามารถถ่ายโอนข้อมูล ชาร์จ และส่งสัญญาณภาพได้ครบจบในพอร์ตเดียว และ MacBook Air ก็มีมาให้ถึงสอง
สำหรับราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลล่าร์สหรัฐฯ และนักศึกษา ที่ 899 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 3 หมื่นกว่าบาท
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :www.apple.com