[Review] Huawei P40 Pro เรือธงที่หลายคนรอคอย เทพที่สุดของกล้องมือถือ เหลือลุ้นแค่ราคา

กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech อีกครั้งและนี่คือสิ้นสุดการรอคอยของรีวิว Huawei P40 Pro นั่นเอง มาดูกันว่ามือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Huawei มาดูกันว่ารุ่นนี้จะเป็นอย่างไร คุ้มไหมถ้าจะเลือกซื้อ มารับชมกันเลย 

แกะกล่อง Huawei P40 Pro 

• ตัวเครื่อง Huawei P40 Pro 
• เคสใส 
• คู่มือ / ใบรับประกัน 
• หูฟังแบบ USB-C 
• Adaptor Super Charge 40W 
• สายชาร์จ USB-C to USB-A 

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Huawei P40 Pro 

เริ่มต้นกับดีไซน์กันก่อน กับมือถือรุ่นนี้จะมีหน้าขอขนาด 6.58 นิ้ว โดยขอบหน้าจอโค้งลงมาและมีมุมทั้ง 4 รับกับหน้าจอทำให้มีเอกลักษณ์และอีกอย่างคือป้องกันจอได้ โดยหน้าจอเป็นแบบ AMOLED รองรับระบบ สแกนลายนิ้วมือ และ ความละเอียด 2640x1200 พิกเซล มากกว่าเดิม แต่ยังไม่ถึงความละเอียด QHD+ 

ส่วนบนของหน้าจอจะมีเซนเซอร์หน้าจอพร้อมกับกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล, 3D ToF Sensor และมีเซนเซอร์คอยตรวจใบหน้าแบบ 3D วัดความลึกได้ ส่วนลำโพงสนทนา ถูกฝั่งไว้ในหน้าจอ 

ส่วนล่างของหน้าจอจะมีปุ่มควบคุมสำหรับระบบปฏิบัติการ โดยสามารถตั้งค่าได้โดยเข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) > System (ระบบ) > Navigation (การควบคุมทิศทางของระบบ) ซึ่งเปลี่ยนได้ทั้งหมดดังนี้  

• ท่าทาง (Gesture) จะใช้การปัดซ้ายมาขวาคือการย้อนกลับ, ปัดขึ้นแล้วปล่อย เท่ากับ กลับหน้าหลัก และปัดขึ้นค้างไว้จะเป็นหน้าเลือก Apps ทำงานล่าสุด หรือ Recent Apps สุดท้ายปัดซ้ายหรือขวาเพื่อเข้าสู่ Google Search  
• ปุ่มกดธรรมดา (Three-Key Navigation) สามารถเลือก Back, Home และ Recent Apps สามารถเปลี่ยนแปลงได้  
• แถมยังสามารถเปิดปุ่มลอยเพื่อควบคุมเหมือนกับของ iPhone ก็ได้ 

 

รอบตัวเครื่องจะไม่ได้ดูขอบชิดเหมือนกับ Huawei Mate 30 Pro แต่เน้นเรื่องของความเรียบง่ายและใช้งานได้จริง ขอบเครื่องทั้ง 4 โค้งมนสวยงามทำให้ดูเป็นศิลปะมากขึ้น และรับกับมือได้อย่างดี ทำให้ฝั่งซ้ายของเครื่องจะไม่มีปุ่มอะไรทั้งสิ้น 

แต่ปุ่มกดทั้งหมดจะอยู่ที่ฝั่งขวาแทนทั้งปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่มสำหรับเปิด / ปิดเครื่อง ที่กดง่ายและจริงผมชอบแบบนี้มากกว่า Mate 30 Pro ที่ไว้เคาะหน้าจอ 

ส่วนบนของเครื่องมีอินฟราเรดสำหรับสั่งเครื่องใช้ไฟฟ้า ไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับลดเสียงรบกวนหรือไว้รับเสียงพูดได้ 

ส่วนล่างของเครื่องจะมีช่องใส่ซิมซึ่งรองรับทั้ง NanoSIM 2 ใบหรือจะสลับไปใส่ Nano Memory ก็ได้เช่นกัน พร้อมกับ USB-C ไมโครโฟนหลัก และลำโพงหลักของเครื่อง 

ด้านหลังของเครื่องสีที่ได้รับมารีวิวคือสี Deepsea Blue ที่มีลวดลายมากมายเลยล่ะ แต่การวาง Layout มีกล้องหลัง 4 ตัวด้วยกัน มาพร้อมกับ 4 กล้อง และมี LED Flash ที่สวยงาม ใต้กล้องมีโลโก้ Leica และมีโลโก้ Huawei ส่วนล่างสุดของเครื่อง และมีไมโครโฟนในกล้องด้วย 

ภาพรวมของดีไซน์ / น้ำหนัก / สีสันของเครื่อง 

ในภาพรวมของดีไซน์ของ Huawei P40 Pro เป็นการออกแบบที่คล้ายกับ Huawei P30 Pro ในบางจุด แต่ว่าตัวเครื่องบางลงน้ำหนักอาจจะหนักกว่าเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม และการออกแบบที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม สีสันของเครื่องมีให้เลือกทั้งหมดหลากหลายเช่น Ice White, Deep Sea Blue, Blush Gold , Sliver Forst ที่มีความพิเศษการออกแบบในลักษณะของ Matte Finish จับแล้วรู้สึกด้าน และเปลี่ยนสีทั้งหมด 2 โทน 

เปิดเครื่องลองประสิทธิภาพและลูกเล่นของ Huawei P40 pro 

สเปกของ Huawei P40 Pro 

• หน้าจอ OLED ความละเอียด 1200 x 2640 พิกเซล ขนาด 6.58 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz      
• ขนาดตัวเครื่อง:  158.2 x 72.6 x 9 มม.      
• น้ำหนัก:  203 กรัม      
• ชิปเซ็ตประมวลผล:  Kirin 990 5G | Mali G76MP16   
• หน่วยความจำ:  RAM ขนาด 8GB    
• หน่วยความจำภายในความจุ:  256GB    
• หน่วยความจำภายนอก Nano Memory   
• การเชื่อมต่อ: 5G (Dual Mode), WiFi 802.11 AX (WiFi 6), Bluetooth 5.1, GPS, A-GPS
• กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล + -3D ToF Sensor 
• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น    
• กล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F1.9 RYYB, OIS  
• เลนส์ Telephoto แบบ Periscope ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล Optical 5X ซูมได้สูงสุด 50 เท่า   
• เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล      
• เลนส์ 3D ToF Sensor   
• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68   
• ระบบปลดล็อค Face Recognition สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Opical   
• แบตเตอรี่ความจุ: 4200mAh      
• รองรับ Fast Charge 40W (แบบสาย) Wireless Charge 27W พร้อมระบบ Reverse Wireless Charging   
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10 ไม่มี Google Mobile Service   
• ราคาในประเทศไทย : 31,990 บาท
    
• สี:  Ice White, Deep Sea Blue, Matte Black, Sliver Forst และ Blush Gold 

การทดสอบประสิทธิภาพ / ลองใช้เล่นเกม 

คะแนนการทดสอบประสิทธิภาพ AnTuTu = 498,697 คะแนน ในโหมดของการทำงานประสิทธิภาพสูงสุด 

เมื่อทดลองเล่นเกมจาก Huawei P40 Pro ให้การตอบสนองได้ดีและภาพที่แสดงผลออกมาที่สวยงามและการตอบสนองได้ดีเช่นกัน และดีกว่า Huawei Mate 30 Pro เล็กน้อยเท่านั้น 

การทดลองเชื่อมต่อ / การนำทาง 

สำหรับการเชื่อมต่อของมือถือรุ่นนี้รองรับทั้ง 5G แบบ Dual Mode คือ SA/NSA, มาพร้อมกับ WiFi 6, Bluetooth 5.1 และการเชื่อมต่อ GPS, A-GPS เป็นต้น 

การแสดงผล / ระบบเสียงของเครื่องรุ่นนี้ 

หน้าจอของ Huawei P40 Pro มาเป็นแบบ AMOLED ความละเอียด 2640x1200 พิกเซลให้ความละเอียดสูงและ HDR10+ ให้การแสดงผลสีสันสวยงามแต่ว่าการสัมผัสหน้าจอรองรับ ได้เร็วแต่ว่า Refresh Rate แค่ 90Hz 

ส่วนลำโพงของเครื่องมีให้ลำโพงแบบตัวเดียวแต่ว่ามีฟีเจอร์ Huawei Histen ทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้นแต่ว่าต้องเสียบหูฟังเท่านั้น 

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของเครื่องที่โดดเด่น / ระบบปลอดภัยของเครื่อง 

ระบบปฏิบัติการของ Huawei P40 Pro ยังคงใช้ Android 10 รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมกับ EMUI 10.1 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับ Mini Apps ที่สามารถใช้งานได้ง่ายและมีหน้าตาแบบ Popup และเปิดให้นักพัฒนามีการทำ Apps ต่อยอได้ และมีลูกเล่นที่เปลี่ยนแปลงและสามารถปรับเรื่องของฟีเจอร์ที่น่าสนใจตั้งแต่ 

• การแสดง Wallpaper ในหน้าล็อกสกรีนที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเป็นรูปแบบ 3D  
• Always On Display มีมิติมากขึ้น  
• การปัดเป็นธรรมชาติที่ดูง่ายกว่าเดิม  
• การเปลี่ยน Multi Window ทำได้ง่ายแค่ Drag and Drop และสามารถทำได้มากถึง 3 หน้า และยังใช้ตอบข้อความผ่านการดูวิดีโอได้ด้วย 

• การต่อเชื่อมต่อเชื่อมกับ Ai Life ผ่าน Celia คำสั่งเสียงใหม่ของ Huawei สั่งตั้งแต่ตั้งปลุก, การทำงานของเครื่อง ค้นหาสินค้า และอื่นๆ อีกมากมาย  
• ควบคุมง่ายผ่าน Multi Device Control Panel และลากขึ้นมาสั่งได้อุปกรณ์เช่นย้ายการโทรไปอยู่ที่ทีวีระหว่าง Video Call ก็ได้เป็นต้น 

• Mee Time การโทรที่มีวิดีโอที่มีความละเอียดสูงและสามารถใช้งานทั้ง Screen Shairing หรือจะส่งออกหน้าจอ และอื่นๆ รวมถึงการปรับแต่งเสียง 

• Huawei Share ส่งภาพและวิดีโอได้ง่าย และรวมถึง Drag and Drop ข้อมูลได้เช่นเดียวกัน และรวมถึงการเอา Screen ขึ้น เชื่อมต่อทั้ง WiFi, เชื่อมต่อลำโพงที่รองรับ และอื่นๆ อีกมากมายที่จะใช้ได้ในอนาคต  

• Cross Device Photo Gallery สามารถดูภาพจากอุปกรณ์อื่นของ Huawei ที่ลงทะเบียนโดยอุปกรณ์ของคุณ 

 

• และสามารถปรับแต่งรูปภาพได้หลากหลาย รวมถึงการลบคน, และลบเงา ซึ่งเรียกว่า Golden Snap ซึ่งฟีเจอร์นี้ในเครื่องทดลองยังไม่มีให้ลองแต่ Concept ดีมาก 

• แต่ทั้งหมดนี้จะมาพร้อมกับยังมาพร้อมกับ Huawei Mobile Service โดยผ่าน App Gallery ซึ่งติดตั้งโปรแกรมผ่านในนั้น

ส่วนระบบความปลอดภัยมาพร้อมกับ ระบบสแกนใบหน้าแบบ 3D ที่ล้ำลึก และ สแกนนิ้วแบบ Optical ที่เรียกได้ว่ารวดเร็ว 

เปิดกล้องลองประสิทธิภาพของเครื่อง 

สำหรับกล้องหลังของ Huawei P40 Pro มาพร้อมกับ 4 กล้องที่มีประสิทธิภาพด้วยเช่นเดียวกัน โดยเลนส์ทั้งหมดเป็นการครอบด้วย Leica ประกอบด้วย  

• กล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F1.9 RYYB (Multi Spectrum Colors), OIS และใส่ Octa Phase Dection ทำให้ระบบ Auto Focus ทำได้ดีมากขึ้น, XD Fusion
• เลนส์ Telephoto แบบ Periscope ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล Optical 5X ซูมได้สูงสุด 50 เท่า    
• เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล       
• เลนส์ 3D ToF Sensor 

เรียกได้ว่าคุ้มค่าและสเปกอาจจะไม่ได้แตกต่างจาก Huawei P30 Pro แต่ว่าเมื่อเป็นรุ่นใหม่ ก็มีการปรับเซนเซอร์ และรวมไปถึง Telephoto ที่มีเซนเซอร์รับสีได้คล้ายกับกล้องหลักเลยครับ 

ส่วนควบคุมของกล้อง 

 

Huawei P40 Pro มี เมนูการควบคุมการยังคงคล้ายกับ Huawei ทั่วไป จุดเด่นยังคงควบคุมง่าย มาพร้อมกับรูปแบบโหมดมากมายทั้ง Aperture (รูรับแสง สำหรับการถ่ายภาพลพลายหลังปกติ), การละลายหลัง, การถ่ายภาพปกติ, วิดีโอที่สามารถปรับเรื่องของ Beauty และ โหมดอื่นๆ เช่นการถ่ายภาพขาวดำ, ฟิลเตอร์ , โหมดโปร ที่รองรับ Video และรองรับ Dual View เป็นต้น แถมยังที AI Scene ปรับการแต่งภาพได้อีก 

ตัวอย่างภาพถ่ายของ Huawei P40 Pro 

 ๊เลนส์มุมกว้าง
ซูม 1 เท่า
ซูม 10 เท่า
ซูม 50 เท่า

 

สำหรับภาพกลางวัน / แสงปกติ ให้การเก็บภาพที่สวยสมกับการเป็นภาพที่ Huawei ทำและมีรายละเอียดที่ดีขึ้นกว่าเดิม  

 

ภาพกลางคืน / แสงน้อย ภาพกลางคืนเก็บรายละเอียดที่เรียกได้ว่าทำได้ไม่ผิดหวังอย่างที่เห็น 

 

ส่วนภาพแบบอื่นๆ ยังมาพร้อมกับโหมดละลายหลังได้ดี, มีภาพบุคคลที่เก็บรายละเอียดได้ดี แถมโหมดขึ้นชื่ออย่าง สีขาวดำนั่นเอง จริงๆ Huawei เป็นมือถือที่มาครบทั้งเรื่องกล้องที่หลากหลายในภาพที่น่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว 

ลองถ่ายวิดีโอ Huawei P40 Pro 

สำหรับกล้องของ Huawei P40 Pro รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดที่ 4K รองรับค่า Frame Rate แบบ 60 FPS เช่นเดียวกัน และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวได้อย่างดี และมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนได้ดีรองรับ Timelapse ในความละเอียด 4K, Ultra Slow Motion เท่ากับ Mate 30 Pro  แถม Dual Camera ในโหมดการถ่ายวิดีโอ 

ลองถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าของ Huawei P40 Pro เป็นอย่างไร 

และในเรื่องของกล้องหน้าก็จะมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับเลนส์ที่ใกล้ชิดมาก และเมื่อเปิดวิดีโอ ที่สวยงามแต่ว่าใกล้เกินไปหน่อย 

แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟของเครื่อง 

สำหรับแบตเตอรี่ของเครื่องรุ่นนี้มาพร้อม 4200mAh ถือว่าไม่ได้มากกว่ารุ่นเดิมเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตาม การทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องทำให้ใช้งานได้ 8 ชั่วโมง (จากการทดสอบโดยโปรแกรม PCMark แบตเตอรี่ 100 - 19%) พอใช้งานจริงก็สามารถข้ามวันได้ แต่ถ้าไม่ได้ใช้งานหนัก ถ้าหนักก็ประมาณนี้แหล่ะ 

ส่วนระบบชาร์จไฟไม่ได้แตกต่างจากรุ่น Huawei Mate 30 Pro โดยเลือกใช้เทคโนโลยี Super Charge กำลัง 40W และมาพร้อมกับ Wireless Charge กำลัง 27W และนอกจากนี้ยังสามารถจ่ายไฟออกในแบบ Reverse Power Share ได้เช่นเดียวกัน 

สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ทดลองใช้ Huawei P40 Pro มาสักระยะเวลาหนึ่ง 

 

หลังจากที่ได้ทดลองใช้ Huawei P40 Pro มาสักพักหนึ่งแม้ว่า จะไม่ได้มีประสิทธิภาพของเครื่องที่แตกต่างจาก Mate 30 Pro แม้ในเรื่องของศักยภาพของเครื่ององค์รวม ถือว่าเป็นอีกน่าสนใจมาก รวมถึงกล้องคุ้มค่าถ่ายภาพสวยและตอบโจทย์ แม้มุมกว้างอาจจะไม่ได้กว้างมากนัก, ฟีเจอร์ครบเครื่อง 

แต่เรื่องที่สำคัญคือ Huawei ไม่มี GMS นั่นเอง แม้ว่าจะผลักดันให้มี Huawei Mobile Service ก็ตาม แต่ก็อาจจะยังต้องให้เวลาเพราะบางโปรแกรมน้อยไปหน่อย ซึ่งที่ทีมได้ใช้เป็น HMS เพียวๆ แต่ต้องหาโปรแกรมของ Android ในแบบ APK มาเช่นเดียวกัน 

ส่วนราคานั้นเปิดตัวเท่ากับ Huawei P30 Pro นั่นคือ 31,990 บาทถือว่าไม่แพงเลยครับ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นมือถือที่น่าใช้งานไม่เบาเลยทีเดียว และถือว่าเป็นอีกมือถือเรือธงที่น่าจับตามอง และใครเป็นเจ้าของก็คงไม่คิดไม่ผิด แต่เรื่องของ Google ต้องทำใจอย่างเดียว จนกว่าจะมีข่าวดีในอนาคต ล่ะกัน! 

จุดเด่น 

• การออกแบบที่สวยงามมาก 
• สเปกของกล้องคุ้มค่า และตอบโจทย์ครบ 
• ไมโครโฟนเครื่องดีจริง 
• ลูกเล่นมาครบ 
• Android 10 และ EMUI 10.1 ทำให้ใช้งานสวยงาม 
• แบตเตอรี่มีชาร์จไฟได้รวดเร็วมาก 
• กันน้ำในแบบ IP68  

ข้อสังเกต 

• ไม่มี GMS เท่านั้นเอง 
• แบตเตอรี่อาจจะมองว่าซดไฟไปหน่อย