รีวิว “Vivo V15 Pro” มือถือกล้องหน้า Popup พร้อมกล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล ในราคาหมื่นกลางๆ

กลับมาพบกับรีวิว Gadget และ Smart Phone จากทีม Sanook! Hitech กันอีกครั้งหนึ่ง สำหรับในครั้งนี้ขอพูดถึงกับมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Vivo V15 Pro ที่เปิดตัวใหม่ล่าสุดกับเทคโนโลยีกล้องหน้าสไลด์ได้ แต่ความจริงมันเด็ดกว่านั้นเยอะ มาดูกันว่า มือถือรุ่นนี้จะมีอะไรดีบ้าง และน่าใช้หรือเปล่า

เปิดกล่อง Vivo V15 Pro

สำหรับคนที่สนใจ Vivo V15 Pro แต่ยังไม่แน่ใจว่าภายในกล่องจะมีอะไรบ้าง ทีม Sanook! Hitech ได้ Unbox ออกมาพบว่า มีอุปกรณ์ที่ครบครันประกอบไปด้วย

• ตัวเครื่อง Vivo V15 Pro
• เคสใสของเครื่อง เกรดดีมาก
• เข็มจิ้มซิมการ์ด
• คู่มือ
• ปลั๊กชาร์จไฟ สำหรับประเทศไทยจะได้ปลั๊กไฟแบบ 2 ขาแบน
• สาย Micro USB
• สายเสียบหูฟัง

รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Vivo V15 Pro

เริ่มต้นกับการดูหน้าจอซึ่งเป็นหน้าต่างแรกที่คุณจะได้เห็นจากมือถือทุกเครื่อง สำหรับ Vivo V15 Pro มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2340x1080 พิกเซล) หน้าจอแบบ Ultra-Full View แบบ Super AMOLED รองรับมัลติทัช 5 จุด และข่าวดี มีระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ ที่เขาบอกว่าเป็นรุ่นที่ 5 แล้วนะครับ

Vivo V15 Pro

ส่วนบนของหน้าจอ ไม่มีอะไร ซะเมื่อไหร่ ความจริงบนสุดมีการติดตั้งเซนเซอร์ทั้ง  Proximity sensor, Ambient light sensor และมี LED มาให้ ซึ่งหน้าจอไม่มี ขอบดำทำให้ไม่ต้องมีฟีเจอร์การปิด Notch มาให้ แต่กล้องหน้า จะเป็นแบบสไลด์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

 

ส่วนหน้าจอด้านล่าง มีปุ่มควบคุม ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ชัดเจน มาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้เช่นเดียวกับมือถือ Android ทั่วไปโดยเข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) >  Navigation  (การนำทาง) คุณจะเจอว่าสามารถเปลี่ยนได้ทั้งรูปแบบการปัด หรือปุ่มแบบเดิมๆ ของ Android จะมีให้เลือกทันที

 

การออกแบบรอบตัวเครื่องถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่น้อย นอกจากมีการไล่เฉดสีของเครื่องที่คมชัดเจนแล้ว การวางตำแหน่งปุ่มและช่องเสียบต่างๆ ยังออกแบบได้เหมาะสมอีกด้วย ฝั่งซ้าย มีถาดใส่การ์ดความจำ Micro SD อีก 1 ช่องด้วยกัน และมีปุ่มสำหรับสั่งงานอัจฉริยะ เมื่อกดแล้วเรียก Google Assistant ได้

 

Vivo V15 Pro

ฝั่งขวาของเครื่องมาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power เพื่อสำหรับเปิดปิดเครื่องและ Standby

 

บนสุดของเครื่องมาพร้อมกับ ที่อยู่ของเลนส์กล้องด้านบนสุด มาพร้อมกับช่องเสียบหูฟังมาให้ในจุดนี้

 

ล่างของเครื่องมี ไมโครโฟน, Micro USB  และมีลำโพงตัวเครื่องขนาดกลางอยู่มุมขวาของเครื่อง และฝั่งซ้ายมีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง

 

พลิกมาด้านหลังของ Vivo V15 Pro จะมาพร้อมกับ กล้องหลัง 3 ตัวด้วยกันและมีคำว่า AI Triple Camera โดดเด่นเพราะมีการใส่กล้องในเฟรมที่ดูเด่นไม่แพ้กัน มาพร้อมกับ ผิวด้านหลังของเครื่องจะมีการเล่นลวดลายที่สวยงาม Vivo เรียกการไล่สีแบบนี้ว่า Spectrum Ripple Design

 

น้ำหนัก / ฟิลลิ่งการถือ / สีที่จำหน่ายในประเทศไทย

จากที่ได้สัมผัสตัวเครื่อง Vivo V15 Pro มีจุดเด่นที่ถือง่าย ไม่ลื่นและมีความบางกำลังดี และตัวเครื่องยังออกแบบรับกับฝ่ามือได้ เมื่อน้ำหนักเครื่องไม่หนัก แต่ก็ให้ลูกเล่นในการถือครบ ก็ทำให้ Vivo V15 Pro น่าใช้ไม่เบาเลยครับ

สีสันของ Vivo V15 Pro มาพร้อมให้เลือกทั้งหมด 2 สีด้วยกัน ได้แก่ สีฟ้า Topaz Blue และ แดง Coral Red โดยสีสันตรงกลางจะอ่อนไล่ไปเข้ม ซึ่งผิดกับมือถือรุ่นอื่นๆ

เปิดเครื่องลองฟีเจอร์ของ Vivo V15 Pro

การเปิดเครื่อง Vivo V15 Pro สามารถทำได้รวดเร็วสมกับเป็นมือถือของปี 2019 มาดูกันว่า มือถือรุ่นนี้ให้สเปคอะไรบ้าง

รายละเอียดของ Vivo V15 Pro

• มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบขนาด 6.39 นิ้ว มาพร้อมจอ Super AMOLED, ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล  (Ultra-Full Display) อัตราส่วน 19.5:9
• ขนาด 157.3 x 74.7 x 8.2 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 185 กรัม
• มาตรฐานกันน้ำ / กันฝุ่น : ไม่รองรับ
• ระบบปฏิบัติการ : Android 9 Pie + FunTouch OS 9
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 675 AIE, GPU Adreno 612
• หน่วยความจำแรม (RAM) 6GB
• หน่วยความจำภายใน (ROM) 128GB
• หม่ยความจำภายนอก MicroSD ความจุรองรับสูงสุด 512GB
• รองรับการทำงาน 2 ซิม (Dual SIM)
• การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 802.11 AC, Bluetooth  5.0 , GPS, A-GPS
• กล้องด้านหลัง 3 เลนส์ มีรายละเอียดดังนี้
• 48 ล้านพิกเซล, f/1.8, 1/2", 0.8µm, PDAF
• 8 ล้านพิกเซล, 13mm (ultrawide)
• 5 ล้านพิกเซล, f/2.4, depth sensor
• กล้องด้านหน้าความละเอียด 32MP, f/2.0
• พอร์ตเชื่อมต่อ : ช่องเสียบหูฟัง, ชาร์จ Micro USB
• แบตเตอรี่ความจุ 3700 mAh (Standard Battery)
• ระบบความปลอดภัย : สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ และมีระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D
• สี: สีฟ้า Topaz Blue และ แดง Coral Red

จากสเปคของมือถือรุ่นนี้ถือว่าให้สเปคที่แตกต่างจากมือถือทั่วไปพอสมควร เพราะว่าจุดเด่นในการเลือกใช้ CPU ใหม่ล่าสุด และพร้อมกับ RAM 6GB กับความจำที่ดีเหมือนกัน แต่ประสิทธิภาพและลูกเล่นดีแค่ไหน เรามาดูจากโหมดการทดสอบต่างๆ กันเลยดีกว่า

การทดสอบประสิทธิภาพ / การลองเล่นเกม

จากการทดสอบประสิทธิภาพจาก Antutu คะแนนออกมาอยู่ที่ 175923 คะแนน เรียกได้ว่าสูงเหมือนกันนะ เพราะมีการปรับปรุง CPU ใหม่แรงได้ใจเลย

ส่วนอีกโปรแกรมอย่าง Geekbench 4 อยู่ที่ 2385 คะแนนแบบ Single Core และ 6530 คะแนนแบบ Multi Core

เมื่อคะแนนออกมาที่เห็น ถือว่าทำได้ดีแล้ว การเล่นเกมจริงก็จัดว่าให้ความลื่นไหลในการเล่นได้มาทั้งเกมระดับกลางอย่าง Asphalt 9 Legend, PUBG Mobile เป็นต้น

ทดลองการเชื่อมต่อของ Vivo V15 Pro

การเชื่อมต่อของ Vivo V15 Pro มาให้ทั้ง WiFi 802.11 AC, Bluetooth 5.0 และมาพร้อมกับ GPS และ A-GPS ที่จับจุดต่างๆ ได้แม่นยำเหมือนกันครับ

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของเครื่อง / ความปลอดภัย

 

ระบบปฏิบัติการของ Vivo V15 Pro เลือกใช้ Android เวอร์ชั่น 9 หรือ Android Pie ครอบด้วย FunTouch OS 9 ที่มีการปรับปรุงเน้นความเร็วในการทำงานได้อย่างดี สามารถเรียก Tab Notification ผ่านการปัดลง, Setting ขนาดย่อมโดยการปัดขึ้น และ ปัดซ้ายเป็น Widget ที่บอกข้อมูลได้ครบครัน 

แต่ยังไม่หมดเท่านี้ Vivo V15 Pro ที่โดดเด่นคือเรื่องของระบบอัจฉริยะที่ชื่อว่า JOVI ที่สามารถเรียนรู้ทั้งการถ่ายภาพคนบอกอายุและปรับภาพได้เหมาะสม, ปุ่มเรียกด้านข้าง เป็นต้น

ส่วนฟีเจอร์ที่เหลือยังคงมีทั้งเข็มทิศ, เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เข็มทิศ, กระจก, โหมดใช้งานบนรถมอเตอร์ไซค์ ที่จะทำให้เหลือการทำงานแค่ โทรอย่างเดียว และอื่นๆ อีกมากมาย

ส่วนระบบความปลอดภัยนั้น Vivo V15 Pro มาพร้อมกับระบบความปลอดภัย 2 ระบบทั้ง สแกนใบหน้า ที่ทำงานจากกล้องหน้า และอีกระบบคือ สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอที่มีจุดเด่นและใช้งานเป็นรุ่นที่ 5 แล้ว ถือว่าพัฒนามาเต็มที่ จนไว้ในเนื้อเชื่อใจระดับหนึ่ง โดยการสแกนนั้น สามารถแตะได้แล้วปลดล็อคภายในเวลา 0.37 วินาที ซึ่งตามความจริง ทำงานได้ค่อนข้างเร็วอยู่ครับ

การแสดงผลภาพและระบบเสียง

หน้าจอของ Vivo V15 Pro ให้การแสดงผลแบบ Ultra Full Display ถือว่าใหญ่อยู่แล้วด้วยอัตราส่วน 19.5:9 และความละเอียด Full HD+ การที่ไม่มี Notch ทำให้การแสดงผลทำได้เต็มที่ และให้สีสันสวยงามอีกด้วย

ส่วนระบบเสียงของ Vivo V15 Pro จะมีลำโพงด้านล่างและสามารถปรับแต่เสียงผ่านลำโพงได้อย่างดี นอกจากนี้ยังได้ Effect เพลงให้เลือก 3 รูปแบบ สำหรับการฟังเพลงนะครับ

เปิดกล้องลองประสิทธิภาพ

สำหรับกล้องหลังของ Vivo V15 Pro ประกอบด้วยเลนส์ด้านหลัง 3 ตัวได้แก่

• 48 ล้านพิกเซล, f/1.8, 1/2", 0.8µm, PDAF
• 8 ล้านพิกเซล, 13mm (ultrawide)
• 5 ล้านพิกเซล, f/2.4, depth sensor

สเปคกล้องของ Vivo V15 Pro ถือว่าเป็นอีกกล้องที่น่าใช้ไม่เบาเพราะการให้เลนส์เกือบครบในแบบเลนส์กว้าง และ เลนส์ปกติที่มีรูรับแสงกำลังดีเลยล่ะครับ ถือว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่คุ้มค่าและน่าสนใจอีกตัวหนึ่งเลย โดยเฉพาะเลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซลที่จัดว่าละเอียดยิบ

หน้าตาเมนูการทำงานของกล้อง 3 ตัว ที่เรียกว่า AI Triple Camera

มาถึงเมนูต่างๆ ของกล้อง Vivo V15 Pro ไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้าหรือกล้องหลัง ก็จะใช้หน้าตาเหมือนกัน โดยจะมีการแบ่งโหมดทั้ง ภาพถ่ายที่รองรับ AI Scene ปรับแต่งรูปแบบของภาพอัตโนมัติ แต่ถ้าไม่พอใจแล้ว ก็จะมีกล้องลูกเล่น ละลายหลัง ใส่สติ๊กเกอร์ ถ่ายเอกสาร และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าครบและตรงโจทย์เลยครับ

การถ่ายภาพกลางวัน / กลางคืน

ระยะปกติ

ระยะ Wide

การถ่ายภาพกลางวันด้วย Vivo V15 Pro ยังคงเป็นมือถือธรรมดา การจัดการเรื่องของสีทำได้ดีอย่างมาก แถมยังมี AI Scene ทำงานได้รวดเร็วเหมือนกัน แต่การถ่ายภาพกลางคืนนั้น เห็นกล้องหลัง 3 ตัวแบบนี้ ขอบอกว่า มันก็ถ่ายภาพเก่าเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ เพราะว่า การจัดการเรื่องของรูรับแสงกว้างพอสมควร ยังทำผลงานได้ประทับใจ เพราะเก็บรายละเอียดได้ดี

ระยะปกติ

ระยะ Wide

ส่วนการถ่ายภาพกลางคืนนั้น หากคุณไม่โปรพอ การใช้ AI Camera ก็ทำให้ได้ภาพสวยเหมือนกัน แต่ถ้าโปรแนะนำให้ลองเล่นโหมดโปร คุณจะได้ภาพที่เรียกได้ว่าสวยจนมือถือรุ่นแพงกว่ายังต้องอาย

ส่วนเลนส์ Wide ถ่ายภาพได้ดีทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้ามองไปแล้ว Vivo V15 Pro ได้เปรียบเรื่องกล้องในราคาเครื่องไม่แพงเหมือนกันนะ

ภาพรูปจากโหมดกล้องอื่นๆ 

สำหรับโหมดอื่นๆ ของ Vivo V15 Pro ยังสามารถถ่ายภาพลพลายหลังได้ด้วย ซึ่งปรับแต่งหน้าคนให้มีความสวยหล่อได้ และยังรองรับการถ่ายภาพในโหมด DOC หรือการถ่ายภาพเอกสารได้

 

ส่วนโหมดโปรนั้น อาจจะไม่ได้เน้นมาก แม้ว่าจะปรับได้ทั้ง ความเร็วชัดเตอร์,  ระยะโฟกัส, White Balance, การชดเชยแสง แต่ว่าไม่สามารถลากให้ถ่ายภาพแบบ Light Painting ได้

 

และยังมีการแต่งภาพด้วยฟิลเตอร์ทำให้คุณออกแบบภาพได้ตามใจชอบอย่างมากเลยครับ และมีเทคโนโลยีชื่อว่า AI Body Shape ปรับรูปร่างของคุณให้เพรียวขึ้นได้ แต่ว่าจากที่ลองใช้มานั้น ก็ถือว่าสมจริง แต่ถ้าปรับคนผอมระวังจะกลายเป็นก้างไปกันใหญ่นะครับ

กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซลจาก Vivo V15 Pro เป็นอย่างไร

เรื่องเล่าของกล้องหน้า Vivo V15 Pro นอกจากจะเป็นกล้องหน้าแบบ PopUp ที่มีความละเอียดสูงแล้ว ตัวกล้องก็ยังทนทานเพราะมีสปริงภายในที่ทดสอบความทนทานกว่า 3 แสนครั้ง รองรับน้ำหนักได้ 15 กิโลกรัม เท่ากับ เขาคิดมาดีแล้วว่ากล้องแบบนี้อยู่ทนแน่นอนและการทำงานนั้นถ้าเปิดไว้นานเกินไป เท่าที่จับเวลาอยู่ที่ 5 นาที กล้องก็จะลงไปเอง หรือถ้าถูกดัน ก็จะลงไปเองเช่นเดียวกัน

ความละเอียดของกล้องอยู่ที่ 32 ล้านพิกเซล มีการปรับ Beauty ได้ชนิดว่าละเอียดยิบ จนการศัลยกรรม ไม่จำเป็นกับมือถือรุ่นนี้อีกต่อไป

แบตเตอรี่และการชาร์จไฟ

แบตเตอรี่ของ Vivo V15 Pro มีขนาด 3700 mAh เรียกได้ว่าใหญ่พอสมควรเลยครับ แต่จากการลองใช้งาน ถือว่าใช้งานได้วันเดียวสบายมาก ถ้าไม่ได้เล่นเกม แต่ถ้าคุณใช้งานนำทางแล้วพบว่า การใช้ไฟเยอะพอสมควร

ยังดีที่ Vivo V15 Pro มีระบบจัดการพลังงานและเปลี่ยนรูปแบบของการใช้ไฟ 3 รูปแบบ

ส่วนที่ชาร์จแม้ว่าจะให้ Micro USB แต่ว่า Adaptor ติดกล่องรองรับ Quick Charge ด้วย ดังนั้นถ้าใช้ที่ชาร์จติดกล่อง ก็จะจ่ายไฟให้อย่างรวดเร็วเลยครับ

สรุปหลังจากทีมงาน Sanook! Hitech ได้สัมผัส Vivo V15 Pro ในระยะเวลาหนึ่ง

ถือว่าเป็นมือถือฉีกกฎอีกรุ่นหนึ่ง เพราะ Vivo ได้มีการพัฒนากล้องแบบ Popup มาตั้งแต่รุ่น NEX S ที่ไม่ได้เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย แต่การพัฒนาจนมาอยู่ในตระกูล Vivo V15 Series ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกัน กับการติดตั้งเทคโนโลยีที่สลัดภาพเดิมๆ ของ Vivo ทิ้งไปเกือบหมดสิ้น จนลองแล้วรู้สึกประทับใจพอสมควรเลยทีเดียว

ส่วนราคาของ Vivo V15 Pro ราคา 14,999 บาทและ Vivo V15 ราคา 10,999 บาท เปิดจองวันที่ 1-8 มีนาคมนี้ พร้อมวางจำหน่ายทางการ 9 มีนาคม เรียกได้ว่าถูกกว่าคู่แข่งหลายตัวและสเปคบางจุดดีกว่าด้วยซ้ำโดยเฉพาะการออกแบบและกล้องภาพรวมที่ดูดี อาจจะขาดตกไปบางเรื่อง โดยเฉพาะการใช้ Micro USB เป็นที่ชาร์จอยู่

แต่เรื่องเหล่านั้นหักล้างได้ ถ้ากล่างโดยสรุปแล้ว Vivo V15 Pro เป็นการกลับมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่พลิกความคาดหมายของคนที่มองมือถือในระดับ Mid Range จนต้องกลับมามองใหม่อีกครั้งหนึ่งเลยครบั

จุดเด่น

• หน้าจอเต็มสวยงาม
• กล้องหน้าสไลด์ ดูล้ำและแข็งแรง
• สีสันโดดเด่นไม่ว่าจะอยู่สภาพแสงแบบไหน
• ได้สเปคและระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด
• มีระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอที่ทำงานเร็ว
• การถ่ายภาพทำได้ดีทุกสภาพแสง

ข้อสังเกต

• ยังคงใช้ Micro USB เป็นช่องเสียบคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม
• ไม่กันน้ำ
• กล้องขาดระยะ Tele