แจงรายละเอียด "Apple" พัฒนาแอป "Maps" โฉมใหม่ โดยใช้ฐานข้อมูลของตนเอง

ทุกครั้งที่มีการอัปเดทระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชั่นใหม่ ก็จะมีการเพิ่มข้อมูลใหม่ๆลงนแอปแอป Maps ด้วย และสำหรับแอป Maps เวอร์ชั่นใหม่นี้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “ยกเครื่อง” ใหม่ทั้งหมด หลังจากได้พัฒนามานานหลายปี และไม่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ iPhone มากนัก

ทางเว็บไซต์ Techchruch ได้สัมภาษณ์ Eddy Cue ผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโส รวมถึง Patrice Gautier รองประธาน และทีมงานผู้พัฒนาแอป Maps ของ Apple โดยได้ประเด็นว่า

แอป Maps ได้รับการแก้ไขปัญหาในหลายส่วน และลงทุนไปอย่างมหาศาลตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา และได้ตระหนักว่า Maps นั้นเป็นปัจจัยสำคัญทั้งด้านการคมนาคมขนส่ง, การขับขี่ยานพาหนะ และการเดิน รวมถึงอรรถประโยชน์ด้าน Location Service และฟังก์ชันอื่น ๆ ด้วย

ทางทีมงานจึงต้องการยกระดับให้เป็นแอปแผนที่ที่ดีที่สุด โดยการสร้างข้อมูลแผนที่ท้งหมดขึ้นมาใหม่  และที่สำคัญคือไม่ละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วย

อัปเดทรวดเร็ว !

Apple เน้นไปที่การอัปเดทและแก้ไขข้อมูลแผนที่ใหม่นี้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งทีมงานสามารถสร้างข้อมูลการจราจรขึ้นมาจาก iPhone หลายล้านเครื่องที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มากกว่าต้องพึ่งพาข้อมูลจากแหล่งอื่น

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีถนนสายใหม่เปิดให้บริการ ก็จะปรากฏขึ้นบนแอป Maps โดยทันที และผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางได้ทันทีเช่นกัน เพื่อความรวดเร็วและสะดวกสบายในการขับขี่รถยนต์

การเก็บข้อมูล 1. จากรถตู้ Apple Maps

สิ่งที่สำคัญคือการสร้างแผนที่พื้นฐานที่ดีขึ้น จากนั้นจึงใส่ชั้นข้อมูลที่อยู่อาศัย, ภาพดาวเทียมความละเอียดสูง และข้อมูลภาพควมละเอียดสูงรูปแบบใหม่จากรถตู้ติดตั้งเซ็นเซอร์ของ Apple โดยมีชื่อเรียกรถตู้นี้ว่า Apple Maps ซึ่งได้ปล่อยออกมาตามเมืองต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2015

วิธีการเก็บข้อมูลดังกล่าวคล้ายกับของ Google ซึ่งเป็นบริษัทเพียงหนึ่งเดียวที่มีฐานข้อมูลแผนจากรถยนต์ติดตั้งเซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

รถตู้ Apple Maps ได้รับการติดตั้ง GPS บนหลังคา กอปรกับเซ็นเซอร์ LiDAR จำนวน 4 ตัว และกล้องจำนวน 8 ตัว

ข้อมูลต่าง ๆ จะถูกส่งผ่าน มายัง iPad ที่รันซอฟต์แวร์การสร้างแผนที่ และข้อมูลต่างๆแบบ 3 มิติ และ Mac Pro ที่ติดตั้งภายในรถ แล้วจึงส่งไปยังศูนย์ข้อมูลของ Apple

2. จากผู้ใช้ iPhone

ทีมงานต้องรักษาสมดุลของนโยบายความเป็นส่วนตัว และการเก็บข้อมูล Location Service จากอุปกรณ์ iOS (เช่น iPhone เป็นต้น) เพื่อไม่ให้ข้อมูลถูกนำไปใช้บนแพลตฟอร์มอื่น

ยกตัวอย่างเช่น การเก็บข้อมูลการเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B ทางทีมงานจะเก็บข้อมูลเฉพาะระหว่างการเดินทาง เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับวิเคราะห์แผนที่ จึงทำให้ไม่มีการบันทึกข้อมูลของจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทาง

ระบบจะแสดงข้อมูลดังกล่าวในลักษณะ ID (ไม่ใช่ข้อมูลผู้ใช้) และจะไม่ย้อนกลับมาว่า มาจาก iPhone เครื่องใด เพื่อเป็นการรักษาข้อมูลของผู้ใช้

ทีมงานของ Apple ย้ำว่ากระบวนการเก็บข้อมูลดังกล่าวจะไม่กระทบการการใช้งานแบตเตอรี่อย่างแน่นอน

3. จากดาวเทียม

เพียงแค่ข้อมูลพื้นฐานจากอุปกรณ์ iOS และรถตู้ Apple Maps นั้น ยังไม่เพียงพอ ทางทีมงาน Apple จึงนำข้อมูลผ่านดาวเทียมความละเอียดสูงมาเสริมแผนที่พื้นฐานให้มีความละเอียดแม่นยำมากขึ้น เช่น ทางเดิน, ถนน และอาคารในรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อแสดงภาพแผนที่เป็น 3 มิติ

เริ่มใช้งาน

แอป Maps เวอร์ชั่นใหม่ของ Apple นี้ จะเริ่มเปิดให้ใช้ขอมูลแผนที่ในเมืองซานฟรานซิสโก และเขตพื้นที่ Bay Area (พื้นที่บริเวณรอบเมืองซานฟรานซิสโก) เป็นลำดับแรก พร้อมกับ iOS 12 เวอร์ชั่น Beta จากนั้นจะครอบคลุมข้อมูลทั่วทั้งรัฐแคลิฟอร์เนียเหนือ (Northern California) ภายในสิ้นปี 2018 นี้ และจะการปรับปรุงดีไซน์อีกเล็กน้อย