"จีรพันธ์" คว้าแชมป์เพาะกายเหรียญที่ 3 ของทัพไทย

"จีรพันธ์" คว้าแชมป์เพาะกายเหรียญที่ 3 ของทัพไทย

"จีรพันธ์" คว้าแชมป์เพาะกายเหรียญที่ 3 ของทัพไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพาะกายไทย เปิดหัวสวย ประเดิมคว้าเหรียญทองตามคาดจาก "ยนต์" จีรพันธ์ โป่งคำ แชมป์โลก 4 สมัย และแชมป์ซีเกมส์ 2013 ที่พม่า คว้าแชมป์สมัยที่ 2 ตามคาด เป็นเหรียญที่ 3 ของทัพนักกีฬาไทย ทำให้ไทย ได้ 1 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง

การแข่งขันเพาะกายในการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ฮานอย สปอร์ต เทรนนิ่ง แอนด์ คอมเพ็ทติชัน เซ็นเตอร์ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม เป็นการแข่งขันวันแรก ชิง 3 ทอง จากประเภทเพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 55 กิโลกรัม, รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 60 กิโลกรัม, รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 65 กิโลกรัม โดยไทยลงแข่ง 2 รุ่น

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 60 กิโลกรัม ไทยส่ง 2 คน มี "ยนต์" จีรพันธ์ โป่งคำ แชมป์โลก 4 สมัย และแชมป์ซีเกมส์ 2013 ที่พม่า และ เกษม รัตนพร ผลปรากฏว่า ทัพนักกีฬาไทยทำผลงานได้ดี โดย จีรพันธ์ โป่งคำ สามารถคว้าเหรียญทองไปครองเป็นสมัยที่ 2 เหรียญเงินเป็น ฟาม วัน ฟุค (เวียดนาม) และเหรียญทองแดง เกษม รัตนพร

"ยนต์" จีรพันธ์ โป่งคำ เปิดใจว่า "ดีใจมากสำหรับเหรียญทองเหรียญนี้ ผมได้ทำเพื่อคนเชียงรายบ้านเกิด ผมมีความกดดันนิดหน่อย แต่พยายามทำให้เต็มที่ เพื่อคว้าเหรียญทองให้ได้ ถึงแม้ผมจะอายุ 43 ปี แล้ว แต่ยังจะคว้าเหรียญทองซีเกมส์ต่อไป ส่วนรายการต่อไปชิงแชมป์เอเชียที่มัลดีฟส์"

ส่วน เกษม รัตนพร กล่าวว่า "ดีใจมาก ผมได้พี่ยนต์เป็นพี่เลี้ยงช่วยให้คำแนะนำ ดีใจมากๆ สำหรับเหรียญทองแดง เพราะผมเป็นเด็กใหม่ด้วย"

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 65 กิโลกรัม พงษ์ศิริ พรหมจรรย์ ได้เหรียญเงิน โดยมี ดัง แถน ตุง (เวียดนาม) คว้าเหรียญทอง และเหรียญทองแดง หม่อง หม่อง มินห์ (พม่า) ที่ 4 มัลเวิร์น อับดุลลา (มาเลเซีย)

พงษ์ศิริ พรหมจรรย์ กล่าวว่า "ดีใจมากสำหรับการคว้าเหรียญเงินเหรียญนี้ เพราะผมติดทีมขาติเพิ่งแข่งซีเกมส์เป็นครั้งแรก"

ส่วน นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "เราสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้โดยมีการปรับแผนนิดหน่อย เพราะรุ่นเล็ก 55 กก. เวียดนามเป็นแชมป์โลก เลยให้ เกษม รัตนพร ที่เป็นเด็กใหม่มาแข่งรุ่น 60 กก. รุ่นเดียวกับ จีรพันธ์ โป่งคำ ที่เป็นแชมป์เก่าและเป็นตัวเต็งแทน ซึ่งเราทำได้ตามเป้า 1 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง โดย ทั้งเกษม และ พงษ์ศิริ พรหมจรรย์ เป็นเด็กใหม่ ซึ่งทำได้ดี โดยเฉพาะ พงษ์ศิริ ที่แพ้เวียดนาม"

"เรายังมีลุ้นเหรียญทองอีก 2 เหรียญ โดยเราปรับรุ่นใหม่ เอา เอกพล สุขทอง มาแข่ง รุ่น 80 กก. และ อภิชัย วันดี ในรุ่น 85 กก. น่าจะมีโอกาสได้เหรียญทองมากกว่า โดยให้ พงศ์ ผาลา ไปแข่งแอตเลติกฟิสิคส์แทน"

"ในครั้งนี้ เน้นเรื่องการตรวจสารกระตุ้นเป็นพิเศษ ทำให้มีบางชาติไม่สามารถแข่งได้ แต่นักกีฬาไทยไม่มีปัญหาตรงจุดนี้"

พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ประธานคณะอนุกรรมกรรมาธิการการกีฬาอาชีพและอุตสาหกรรมกีฬา กล่าวว่า "ดีใจมากครับที่เพาะกายสามารถทำผลงานได้ดี ได้เหรียญทองเหรียญที่ 3 ให้ทัพนักกีฬาไทย ถือว่าสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศ"

ดร.ภูมิวรินทร์ ชุณหะวงษ์วริศ ที่ปรึกษาประธานวุฒิสภา และประธานสหพันธ์เพาะกายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า "หลังจากห่างหายจากการแข่งขันในอาเซียนมานาน ครั้งนี้ถือว่านักกีฬาในอาเซียนทุกชาติพัฒนาขึ้น เช่นเดียวกับนักกีฬาไทย ที่ได้ 1 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง ในวันแรก"

สรุป วันแรก ทัพเบ่งกล้ามไทย ได้ 1 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง

สำหรับโปรแกรมต่อไป ในวันที่ 2 ชิง 4 รุ่นทอง จากเพาะกาย 4 รุ่น มี เดชณรงค์ ประเทศ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 70 กิโลกรัม, วิชัย สิงห์ทอง เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 กิโลกรัม, เอกพล สุขทอง เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กิโลกรัม, อภิชัย วันดี เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 85 กิโลกรัม

ส่วนวันสุดท้าย ชิง 3 ทอง มี ประเภทมิกซ์แพร ชิง 1 ทอง ที่ไทยส่ง 2 คู่ นำโดย "เควิน" วันชัย​ กาญจนพิมาย - "กระแต" ศิริพร​ ศรช่วย และ อีกคู่ "เต้ย" ร.ต.ดำรงค์​ศักดิ์​  สร้อย​ศรี - "แนน" พ.อ.ท.หญิง อาจารี แท่นทรัพย์ ส่วนประเภทแอธเลติกฟิสิคส์ชิง 1 ทอง พงศ์ ผาลา และ เพาะกายหญิง ชิง 1 ทอง จิรฐา จุฑานิชกานต์ และ ศิรินทิพย์ อินทรีย์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook