เหตุผล 5 ข้อ ทำไม “Jam Fest” ควรจัดขึ้นอีกครั้งในปีหน้า
เพิ่งจะผ่านพ้นไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมาสำหรับเทศกาลดนตรีน้องใหม่ของสยามประเทศอย่าง “Jam Fest (แจ่มเฟส)” ที่จัดขึ้น ณ Voice Space ที่ฮือฮาตั้งแต่ประกาศไลน์อัพศิลปินออกมา กับ 3 เวทีในแนวทางที่แตกต่าง ทว่าเต็มไปด้วยความน่าสนใจ จนก่อเกิด 5 เหตุผลที่ทำให้ปีหน้าเราควรจะได้ชม Jam Fest กันอีกครั้งอย่างไม่มีข้อสงสัย
1 การรวบรวมศิลปินหลากยุคหลายสมัยมาไว้บนเวทีเดียวกัน
เราขอมุ่งหน้าไปที่เวที Main Stage กันก่อน เพราะแต่ละศิลปินที่ตกปากรับคำมาแสดงสดในงาน Jam Fest นั้นบอกได้คำเดียวว่า “น่าดู” แถมเสน่ห์ยังอยู่ที่เป็นการรวมเอาศิลปินที่หายหน้าหายตาไปนาน และที่ยังคงมีผลงานออกมาอยู่เป็นระยะ มาสลับสับเปลี่ยนขึ้นเวทีกับหน้าใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามองเหลือเกิน น่าเสียดายที่เราไม่ได้ชมการรียูเนียนของวงอินดี้ในตำนานอย่าง Monotone และ 2 Days Ago Kids, Whal & Dolph ดูโอ้นักดนตรีใต้น้ำที่กลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นคู่ใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงอีกหนึ่งคู่ดูโอ้ที่อยู่เคียงคู่นักฟังเพลงมายาวนานอย่าง Scrubb
Scrubb
อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยเราก็ได้ชมความเดือดในช่วงท้ายโชว์ของ Flure ต่อเนื่องด้วย The TOYS กับโชว์ที่ Sanook! Music ยกให้เป็นความดีงามที่สุดของเทศกาลดนตรีครั้งนี้ แถมยังได้แร็ปเปอร์แห่งยุค Twopee Southside มาร่วมแจม รวมไปถึงเซ็ตลิสต์เกือบชั่วโมงที่ น้อย วงพรู (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) นำมาเล่นให้ฟัง ทั้งเพลงเก่าที่ร้องตามได้ และเพลงใหม่ที่ไม่เคยฟังจากที่ไหนมาก่อน ปิดท้ายด้วย ฟักกลิ้ง ฮีโร่ (กอล์ฟ-ณัฐวุฒิ ศรีหมอก) ที่เปิดตัวบนเวทีด้วยการขึ้นมาแจมแร็ปกับ น้อย แถมยังให้ฝ่ายหลังขี่คออีกต่างหาก และมหกรรมความมันอีกระลอกใหญ่ที่ตอนนั้นไม่ว่าใครก็ขอแดนซ์กันสุดเหวี่ยง นับเป็นคอนเซ็ปต์ที่อยากจะให้ Jam Fest คงเอาไว้ในปีหน้าเสียเหลือเกิน
The TOYS
2 อินดี้หน้าใหม่ (และหน้าเก่า) ก็ให้โอกาส
พุ่งตรงมาที่เวที Dood Stage กันต่อ อีกหนึ่งความปลาบปลื้มที่ Jam Fest มอบโอกาสให้วงอินดี้หน้าใหม่ที่อาจไม่มีพื้นที่ในการโชว์ของมากนักได้ออกมาปลดปล่อยศักยภาพทางดนตรี สองหนุ่มวง mints กับโชว์ที่น่าปรบมือให้ แม้จะออกอาการประหม่าเวทีอยู่บ้างก็ตาม ที่ทำเอาเราอึ้งและจดจ้องตลอดการแสดงสดขอยกให้ Old Fashioned Kid ซึ่งเป็นงานเพลงจากหนุ่มติณณ์ นภาลัย และวงดนตรีนามว่า Stoic ที่ทำให้พื้นที่ไซส์เล็กตรงนั้นถูกตรึงไว้ด้วยมนต์สะกด
mints
Old Fashioned Kid
นอกจากนั้นยังมีวงดีๆ ที่มากมายที่ขึ้นแสดงในขณะที่เราวนเวียนอยู่ที่เวทีอื่น ไม่ว่าจะเป็น Wednesday, De Flamingo, Yented (ที่ได้ข่าวว่าคนดูล้นจนมาถึงข้างนอก), Ewery รวมถึง hidden band ที่ผู้ที่รับผิดชอบเวทีอย่างทีมงาน Dood ซึ่งนำทีมมาโดย เมื่อย-ธวัชพนธ์ วงศ์บุญศิริ แห่งวง Scrubb นั้นคัดสรรมาแบบไม่ยอมบอกใคร เป็นเซอร์ไพรส์ที่เราก็มิอาจนำมาบอกต่อได้ เพราะไม่ได้ดูนั่นเอง
3 จิบ ดื่ม กิน ท่ามกลางดนตรีอะคูสติกชิลๆ
Hers
บรรยากาศสุดชิล ณ โซน Outdoor Stage
อีกหนึ่งเวทีที่เราแวะเวียนไปชั่วครู่ก็คือ Outdoor Stage หรือเวทีอะคูสติก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณร้านรวงที่นำอาหารและเครื่องดื่มมาจำหน่าย ตกแต่งด้วยหลอดไฟสวยงาม โต๊ะเก้าอี้จำนวนพอสมควรคอยรองรับผู้ร่วมงาน อันที่จริงเป็นเวทีที่เราได้ยินเสียงเพลงตั้งแต่ช่วงกำลังจะเดินเข้างาน ไม่ว่าจะเป็นเพลงเพราะคุ้นหูอย่าง “ยังคงคอย” จาก 3 สาววง Hers รวมถึงสาวเสียงดีอย่าง Tape (เทป-ดวงพร กาญจสถิต) ที่นำเพลง “อาจจะดีแล้ว” มาโชว์แบบสดๆ เรียกได้ว่าถ้าอากาศหนาวกว่านี้สักหน่อยคงจะฟินกว่านี้อีกหลายเท่าตัว
4 อลังการงานสร้างแบบไม่น้อยหน้าใคร
ความอลังการของไลท์ติ้งและวิชวล
ข้อนี้อาจเจาะจงไปที่ Main Stage มากกว่าใครเพื่อน เวทีใหญ่ยักษ์พร้อมวิชวลด้านหลังที่ดึงดูดสายตาเหลือเกิน อีกทั้งระบบแสงก็ตรึงตาตรึงใจไม่แพ้กัน อาจจะมีติติงเรื่องระบบเสียงเล็กน้อยที่หากไปดูบริเวณโซนด้านหลังแล้วฟังค่อนข้างอุดอู้ พลังส่งมาไม่ถึง ขนาดวง Flure ที่ว่าเดือดๆ ซาวด์ยังค่อนข้างนัวไม่พุ่งหาตัวคนดูสักเท่าไหร่ แต่พอเคลื่อนพลมาอยู่ตรงกลางในช่วง The TOYS ปุ๊บ ซาวด์มาเต็ม ซึ่งนั่นอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ทั้งโชว์ของ ทอย-ธันวา บุญสูงเนิน สร้างความสุขและทำให้เราร้องอุทานโอ้โหออกมาแบบไม่เว้นวรรคพักหายใจกันเลยทีเดียว
5 เทศกาลดนตรี มันก็ต้องวิ่งไปมาแบบนี้แหละ!
คึกคักจนอยากให้จัดปีหน้าต่อ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เทศกาลดนตรีส่วนใหญ่ในโลกนี้มักจะมีหลายเวที เพื่อสอดรับกับกองทัพศิลปินจำนวนมากที่จะสามารถดึงดูดนักฟังเพลงให้เข้ามาซึมซับบรรยากาศของ “มิวสิคเฟสติวัล” ได้ ซึ่งเสน่ห์มันก็อยู่ตรงที่ “การวางแผน” และ “วิ่งไปให้ทัน” นี่ล่ะ! เพราะแน่นอนว่าศิลปินที่คุณชื่นชอบคงไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว และเหล่าวงโปรดของคุณอาจเล่นเวทีเดียวกัน ใกล้เคียงกัน แต่คนละเวที! บอกเลยว่าสกิลการวิ่งและรองเท้าผ้าใบของคุณต้องพร้อม หากปี Jam Fest จะจัดที่ Voice Space อีกก็มีข้อดีตรงที่ไม่ต้องวิ่ง (หรือเดิน) ไกล แต่ถ้าขยายสเกลของเทศกาลให้ใหญ่ขึ้น ก็เตรียมฟิตร่างกายไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ได้เลย
Story by: Chanon B.
Photos by: Jam Fest
อัลบั้มภาพ 26 ภาพ