ย้อนดู "Hormones" ซีรีส์การกบฎของวัยรุ่นร้ายๆ กับผู้ใหญ่กลัวโป๊ะ

ย้อนดู "Hormones" ซีรีส์การกบฎของวัยรุ่นร้ายๆ กับผู้ใหญ่กลัวโป๊ะ

ย้อนดู "Hormones" ซีรีส์การกบฎของวัยรุ่นร้ายๆ กับผู้ใหญ่กลัวโป๊ะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รอบนี้เทยขอย้อนเวลา พาไปดูซีรีส์เก่า ที่เคยเป็นกระแสในบ้านเรา รวมถึงกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของการทำซีรีส์วัยรุ่นในบ้านเราเลยกับ “Hormones วัยว้าวุ่น” ซึ่งซีรีส์ทั้ง 3 ซีซั่นก็มีให้รับชมอีกครั้งใน Netflix ไปแล้ว และหลายๆ คนก็คงรู้ว่ามันเป็นซีรีส์วัยรุ่นที่แซ่บ อร่อย นัว ประหนึ่งว่ามันได้ลากเอาชีวิตวัยรุ่นของทุกๆ คนมาเล่า แม้แต่ในหมู่เก้งกวางเองก็ไม่น้อยหน้า ก็มีคู่เก้ง คู่เลสเบี้ยนให้ได้มีบทบาท ไม่ได้ถูกปัดให้กลายเป็นตัวตลกอย่างแต่ก่อนด้วย แถมนักแสดงตอนนี้เหรอ ก็เติบโตเป็นนักแสดงคุณภาพในวงการไปหลายคนมากเลยค่ะ

ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าซีรีส์เรื่องนี้ผ่านมา 7 ปีแล้ว และเป็นซีรีส์ที่ออกมาในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของสภาพสังคมที่น่าอึดอัดมากๆ ด้วย นอกจากนั้น ซีรีส์ฮอร์โมน ยังสามารถพูดเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นเรื่องความต่างระหว่าง Generation ของคนในสังคมจนสามารถเอามาบวกลบในยุคปัจจุบันได้ด้วย

มาค่ะ เทยจะพาไปดูเป็นข้อๆ

Hormones วัยว้าวุ่น ซีซั่น 1

การกบฎและการรับบาดแผล

เรามาเริ่มกันที่ซีซั่น 1 คนที่เป็นตัวนำคือ วิน ฮีเป็นสัญลักษณ์ของการแหกกฎเกณฑ์ทุกอย่าง คว่ำระเบียบแบบแผนทุกอย่างที่สังคม ค่านิยมเก่าๆ วางเอาไว้ วินดูเหมือนจะพยายามชี้ให้เห็นว่า ทุกๆ คนนั้นแตกต่าง และการเคารพความแตกต่างของวัยรุ่นเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ควรกระทำ ฮีฟาดกับครูใหญ่ ปลุกระดมวัยรุ่นที่ต่างก็เคยถูกทำร้ายมาได้เป็นอย่างดี รวมถึงตัวผู้ชมเองด้วย การเปิดด้วยการไม่ใส่ชุดนักเรียนมาโรงเรียนนี่คือเริ่ด แล้วเปิดให้เห็นเลยว่าตัวละครไหนในโรงเรียน ใครเห็นด้วยกับเขาบ้าง และการกบฎเล็กๆ ของเขามันจบลงยังไง 

ในตอนต่อๆ มา เรื่องราวทำให้คนดูเห็นว่าการตะโกนของวินถึงแม้จะมีเหตุผล แต่ถ้าสะท้อนด้วยพฤติกรรมที่สามารถตีค่าได้ว่า "เหลวเป๋ว" นี่ก็ไม่ใช่เสียงที่ควรฟังนัก การพยายามทำในสิ่งที่วินเชื่อว่าถูกต้อง ก็ทำให้มีเหยื่อที่ต้องรับผลจากสิ่งที่ทำไปแต่ขาดหลักการและการยั้งคิดอย่างรอบคอบ เช่น สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์อย่างหนูเต้ยที่โดนตบ หรือแม้แต่ในท้ายที่สุดการจากไปของครูอ้อในตอนท้ายของซีซั่น เป็นการแสดงให้เห็นว่า การกระทำของวินไม่ได้สร้างชัยชนะอะไรเลย ซึ่งนั่นก็เป็นไปตามคำพูดของ ขวัญ ที่เคยบอกวินเอาไว้ว่า "พรุ่งนี้ทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม"

วิน และ ขวัญ แห่ง Hormones วัยว้าวุ่น ซีซั่น 1

ขวัญเป็นเด็กเรียนเก่งที่สมควรเรียนทันตะ แต่อีกใจก็กลับรักงานนิเทศ ซึ่งสุดท้ายขวัญเป็นคนที่มีใจรักการกบฎอยู่ดี จากการที่เธอเลือกจะมีใจให้วินนั่นแหละ แต่ก็นะคะ ทุกอย่างต้องอยู่ในรูปแบบชีวิตที่ผู้ใหญ่และครอบครัวรับได้อยู่ เพราะฉะนั้นในซีซั่นแรก เรื่องราวรอบๆ ตัววิน จะเต็มไปด้วยรูปแบบชีวิตและความสัมพันธ์ที่เลวร้ายลงถึงจุดที่ต่ำทรามที่สุด แต่ต้องรักษาความอยู่รอดของตัวเองกับสังคมไว้ ผ่านรูปแบบของชีวิตไผ่ที่เหลวแหลกไม่มีชิ้นดี

หรือแม้แต่ความอ่อนไหวของภูที่ทำร้ายคนอื่นไปทั่ว ซึ่งทุกรูปแบบต่างมีค่านิยมของสังคมตีตราอย่างครึ่งๆ กลางๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศที่สาม การมี Sex ในวัยเรียน เรื่องเหลวแหลกทั้งหลาย และความไม่เคารพระบบอันเลวร้าย และรุ่น 1 ก็จบการศึกษาไปด้วยความลงตัวอย่างขมขื่น ต้องยอมรับความเป็นจริงของสังคมเป็นไปอย่างครึ่งๆ กลางๆ ไม่มีใครได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำหรืออยากเป็นจริงๆ เพราะต้องถึงเวลาที่โตเป็นผู้ใหญ่ ต้องไปเผชิญโลกที่ใหญ่กว่าแล้ว 

ตัวละคร ภู และ ธีร์

ซีซั่น 1 จึงเต็มไปด้วยพลังของวัยรุ่น ที่พยายามจะไปฟาดความโกรธชังของผู้ใหญ่ การพยายามตะโกนให้ผู้ใหญ่เห็นว่าเสียงของพวกเขามีความหมาย และชีวิตวัยรุ่น มันไม่ได้เรียบแบนอย่างที่ผู้ใหญ่คิด 

 

วัยรุ่นชอบแกะแผลตัวเองจนอักเสบ เลวร้ายและเละเทะ

ในซีซั่น 2 นั้นพาคนดูไปเจอกับการกระทำเลวร้ายที่สุด เท่าที่วัยรุ่นทุกๆ คนในเรื่องจะทำได้ ไล่ไปตั้งแต่การทรยศหักหลัง ซึ่งเห็นได้จากเรื่องราวของไผ่และเพื่อนๆ ใช้ความอ่อนไหวทำร้ายคนอื่นในเรื่องราวของ ภู ธีร์ และเต้ย ซึ่งซีซั่นนี้เป็นการตบหน้าสังคมครั้งใหญ่ และเกิดขึ้นพร้อมการปรากฎตัวของวัยรุ่นล็อทใหม่ ที่ถูกเติมเข้ามาเพื่อให้เรื่องราวสลับซับซ้อนจนถึงขั้นเละเทะไปอีกขั้น จนนัวๆ แซ่บๆ

Hormones วัยว้าวุ่น ซีซั่น 2

เรื่องราวเต็มไปด้วยการไม่เกรงใจใคร การทำตามใจโดยไม่สนว่าความรู้สึกของอีกคนจะเป็นอย่างไร การขยี้ประเด็นให้แรงเพิ่มขึ้น การดึงสัญลักษณ์ตัวเด่นอย่างวินไปสู่การติดยา หรือแม้แต่การทำแท้งของไผ่และผู้หญิงที่เขามี Sex ด้วยโดยไม่ตั้งใจ แต่อย่างที่เทยได้กล่าวไปแล้วว่า รุ่น 1 ก็จบการศึกษาไปด้วยความลงตัวอย่างขมขื่น ในซีซั่นนี้น​ั้นการจบลงแบบนั้นมันคือการโยนบาดแผลทิ้งไว้ให้รุ่นน้อง 

อย่างไรก็ตาม ซีซั่นสองจบลงด้วยการพยายามสร้างการให้อภัย ซึ่งมันไม่สามารถสร้างได้สวยงามได้หมดร้อยเปอร์เซ็นต์เสียทีเดียว พอเปิดภาคเรียนใหม่ คนที่นำทุกคนใน Final Season ต่างก็คือคนที่ได้รับแผลโดยตรงจากรุ่นก่อน ขนมปังโดนทำร้ายมาก่อน และดูจะเป็นการทำร้ายที่ผู้ชมยอมรับได้อย่างที่กล่าวมา เพราะถ้าเธอแพ้ ต้ากับเต้ยก็จะได้คู่กัน ออยโดนทำร้ายมาก่อน จากครอบครัวการเติบโตของเธอในสังคมร่วมกับเพื่อนๆ จึงส่งผลให้เธอทำสิ่งที่น่ากลัว ถึงขั้นทำให้สไปรท์ถูกแทง

ต้า และ เต้ย

ออยถึงสามารถมีบทบาทสำคัญในซีซั่น 2 ท่ามกลางการเบียดเสียดของตัวละครที่แน่นขนัดในตอนนั้นได้ หรือแม้แต่ นน ที่ก็ทำร้ายคนอื่นไปโดยไม่ตั้งใจในสิ่งที่เขาทำกับธีร์ การพยายามทำให้ทุกอย่างไม่มีการขัดแย้งด้วยตามใจและประนีประนอม ก็ทำให้ตัวเขาเสียรุ่นพี่ที่น่าเคารพคนหนึ่งไป 

ซีซั่น 2 จึงเป็นเรื่องการบอกว่าจริงๆ แล้วนี่นะ วัยรุ่นพวกเธอก็เหลวเป๋วน่าดูเหมือนกันค่ะ

 

รุ่นสุดท้าย ร้ายอย่างมีหลักการ และการกบฎที่ถูกสานต่อ

สิ่งที่น่าสังเกตหลังจากเมื่อคนรุ่น 1 จบไปแล้ว ซีซั่นสุดท้ายนี้ เรื่องเริ่มต้นกันด้วยการพยายามจัดระเบียบทุกอย่างใหม่ เหมือนเมื่อเริ่มแรกที่วินพยายามทำไว้ การกบฎขนบเก่าถูกแปลงร่างเป็นบอส ที่พยายามจัดทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางมากขึ้นกว่าวิน โดยบอสใช้หลักการและเหตุผลที่จริงจังไม่มีจุดด่างพร้อย ไม่ค่อยเหมือนฮีวิน ที่กบฎซะจนเละเทะ เสียงของวินจึงไม่ค่อยน่าพิสมัยที่จะถูกรับฟังเท่าไหร่

ซีซั่นที่ 3 ของ Hormones วัยว้าวุ่น

ในตอนแรกความจริงจังของ บอส ดูจะเรียกคะแนนได้เป็นอย่างดี ในขณะที่คนที่ถูกทำร้ายมาอย่าง ขนมปัง ออย หรือคนที่ทำร้ายคนอื่นมาอย่าง นน ที่เริ่มต้นปีใหม่ด้วยการ "พยายาม" เป็นคนใหม่ ลืมอดีต ลืมบาดแผลที่ตัวเองเคยก่อและโดนก่อมาไว้เบื้องหลัง ทุกๆ อย่างเลยดูเข้าทางฮีบอสที่แทบจะจัดระเบียบทุกอย่างได้ในตอนแรก คนดูถูกแบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจนทีมบอสและทีมนน แต่ว่าบาปสุดท้าย เรื่องร้ายๆ ทุกๆ อย่างก็ไม่สามารถซ่อนไว้ใต้พรมได้ตลอดกาล

นนถูกทำลายลงก่อนในเหตุการณ์กีฬาสี การพยายามเป็นคนใหม่พยายามประนีประนอมทุกฝ่าย สร้างรอยแผลให้คนทั้งรุ่นจนงานกีฬาสีต้องถูกยกเลิกไป บอสที่พยายามยึดมั่นในหลักการอย่างถึงที่สุดก็เข้าสู่ด้านมืดไปเสีย กลายเป็นตัวร้ายเพราะได้รับความเจ็บปวดจากสิ่งที่ตัวเองพยายามตะโกน แต่หลักการตึงเกินไป ไม่มีใครฟังเหมือนอย่างที่พี่วินได้เคยโดนไว้ แต่เดชะบุญ บอสจะไม่พังครืนเละเทะเท่าวิน แต่เขาก็มองว่าเป็นความผิดของคนรอบๆ ตัวที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ และคนที่รับไปเต็มๆ ก็คือ นน ที่พูดทุกอย่างอย่างสวยหรูเอาไว้แต่ก็ทำอย่างที่พูดไม่ได้ 

แหมะ คุ้นนะคะเนี่ย

บอส หนึ่งในตัวละครเด่นจากซีซั่น 3

ทำให้การมีอยู่ของบอสในช่วงต่อมา จึงเป็นการยืนหยัดด้วยตัวคนเดียว ไม่มีเพื่อน เป็นตัวละครทำให้ทุกคนอึดอัด ซึ่งหากคนดูคนไหนเป็นคนประเภททนความอึดอัดไม่ได้ ทนความจริงไม่ได้ ก็จะเกลียดตัวละครนี้ไป เพราะบอสกลายร่างเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้ใหญ่ บอสโตเกินไปกว่าคนอื่นๆ ที่ยังเป็นวัยรุ่น บอสจริงจังเกินไป ดุร้ายเกินไป และด้านมืดเกินไป โถ ลูกแม่

และเมื่อถูกเกลียด บอสจึงปล่อยให้เรื่องราวแบบที่ "วัยรุ่นทั่วๆ ไปคิดว่าควรจะเป็น" ดำเนินต่อไปค่ะ

 

ไม่จริงจัง อยู่อย่างสดใส มันไปต่อได้จริงๆ หรือ?

ความเป็นผู้ใหญ่ที่เข้ามาทำร้ายเหล่าเพื่อนๆ ของบอสนั้น เต็มไปด้วยขนบที่แปลกประหลาดสุดจะทน ครอบครัวที่เลวร้ายของเฟิร์สและเจน การถูกกีดกันทางค่านิยมอย่างพ่อของมะลิและส้มส้ม การออกจากประธานนักเรียนของนน การติดเชื้อ HIV ของพละ หรือการปล่อยตัวเองให้เหลวแหลกกับการเป็นวัยรุ่นอย่างเต็มขั้นของซัน เรื่องราวเหล่านี้ที่ถูกใส่เข้ามาให้เห็นว่าโลกแห่งความอึดอัดของผู้ใหญ่จริงๆ มันมีอะไรบ้าง และวัยรุ่นที่ไม่จริงจังเท่าบอสจะจัดการกับเรื่องพวกนี้อย่างไร และก็ดูเหมือนไม่มีใครจะจัดการแล้วผ่านไปได้แม้แต่คนเดียว ก็กลายเป็นนางพ่ายแพ้กันไป

สิ่งที่ผลิบานอยู่ท่ามกลางความโหดร้ายเหล่านี้ดูเหมือนจะมีแค่ความรักที่ถือเป็นสิ่งสวยงามเดียวที่เหลืออยู่ และ ดาว-ก้อย ก็ยืนหยัดเป็นสัญลักษณ์ของมุมนี้ให้กับน้องๆ คู่รักเพศหลากหลายตั้งตัวเป็นความหวังในเรื่องการวางอนาคตไปพร้อมกับความรักให้ได้ด้วยความคิดแบบวัยรุ่นๆ แม้มันจะขัดกับระบบความคิดของผู้ใหญ่อย่างพอตัวก็ตาม หรือแม้แต่การพยายามทำทุกอย่างเพื่อความรักของนนให้ขนมปัง หรือมะลิทำให้ซัน และเภาทำให้คนรักเก่า ก็พอจะยื้อยุดให้เรื่องมันสวยงามขึ้นมาได้

ดาว-ก้อย

การมาเยือนของวินในตอนของเจน เป็นสัญญาณเตือนรุ่นน้องเหล่านี้ว่าสิ่งที่ปกปิดไว้ทั้งหมด เรื่องของวัยรุ่นทั้งสามซีซั่น กำลังจะกลับมาเล่นงานที่รุ่นน้องแล้วนะคะ เจนจึงเริ่มรู้สึกอยากจะกลับไปนิวยอร์ก เพราะทนระบบรอบตัว และความบ้าคลั่งของโรงเรียนไทยไม่ไหว เช่นเดียวกับที่ส้มส้มก็เลือกที่จะทำตามเสียงของผู้ใหญ่ และปล่อยให้ทุกๆ อย่างมันลองเป็นไปตามสิ่งที่ "ควรจะเป็น"

 

ความจริงเริ่มอยู่ไม่ได้ ความอ่อนแอชนะเฉย

คงไม่พูดถึงตัวละครนี้ไม่ได้เลย "ออย" เพราะเธอเล่นเปลี่ยนตัวเองไปเรื่อย เป็นไปตามสิ่งที่ "ควรจะเป็น" เพื่อความอยู่รอดของ เธอคือคนที่ถูกทำร้ายมาในทุกๆ ทาง และแรงกดดันเหล่านั้นทำให้เธอทำร้ายคนอื่นต่อ ออยคือตัวแทนของ "ความอ่อนแอ" เมื่อสถาบันครอบครัวที่ไม่แข็งแรงบีบให้ออยกลายเป็นตัวละครที่มีลักษณะนิสัยขี้กลัวและไม่หนักแน่น และคนที่กลัวก็สามารถทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดได้ ออยกลายเป็นคนที่​ "ผิด" สำหรับคนรอบข้าง รวมถึงคนดูเองด้วย เรื่องผลักให้ออยกับเฟิร์ส ที่สถาบันครอบครัวย่ำแย่ที่สุดมาคบกัน ความสัมพันธ์นี้จึงตั้งอยู่บนความอ่อนแอเป็นระเบิดเวลาที่ทดมาเพื่อรอเวลาจะประทุ และทันทีที่ใครซักคนเริ่มประทุมันก่อนทุกอย่างก็พังครืนทันที 

ตัวละคร ออย ที่กลายเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมาก

และเมื่อคนที่อ่อนแอที่สุดอย่างออย มาเจอกับคนที่หนักแน่นที่สุดอย่างบอส การขุดคุ้ยหาความจริงวัยรุ่นจึงเริ่มขึ้นตรงนี้ เมื่อคนหนึ่งเลือกที่จะไม่มีเพื่อนเลยซักคนเดียวเพราะจริงจังเกินไป อีโก้เกินไป แต่เขาทนรับแรงกดดันได้ ต้องมาเจอกับคนที่เหมือนจะรักคนอื่นได้มากที่สุด แต่กลับพยายามทำทุกๆ อย่างเพื่อให้ตัวเองได้รับความรักมากที่สุด แม้ว่าจะต้อง "ทรยศ" ก็ตาม สิ่งที่กดดันทั้งหมดที่เหลือก็ระเบิดตู้ม โรงเรียนก็แทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เพราะจริงๆ แล้ว คนที่เหมือนจะดีที่สุดกับแย่ที่สุด ในขณะที่คนที่ใครก็ไม่คบ กลับไม่เคยทำร้ายใครเลย

งงดีไหมล่ะ

 

สู่บทสรุปแห่งความจริงทางสังคม

สำหรับวัยรุ่นคนคือประชาชนเหมือนกัน แม้จะยังเด็ก ก็เป็นประชาชนอ่ะเธอ พวกเขาก็ผิดพลาด มีความรักก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ในมุมมองของคนที่เป็นผู้ใหญ่ก็ยังถึงกับถอนหายใจ เมื่อมองดูเรื่องราวอันอ่อนแอที่วัยรุ่นเป็น ความรักจะยังคงผลิบาน แต่ก็ต้องอาศัยแค่ความหวัง เพราะมันยังต้องพึ่งพาขนบที่กรอบสังคมจะรับได้ วัยรุ่นก็เลยต้องอยู่กับความอึดอัดต่อไปอย่างไม่สามารถลงตัวอย่างสุขได้จริงๆ ขนาดนั้น

ในขณะที่คนที่ไม่เหมาะเลยกับสังคมและขนบอย่างไทยอย่างตัวละครเจน ก็ได้แต่คิดทบทวนว่าฉันจะย้ายไปอยู่ประเทศอื่นดีไหมเนี่ย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มันคือโลกของวัยรุ่นไทยที่ต้องเจอขนานแท้ ในขณะที่ทุกๆ คนต้องปิดไฟเพื่อหลับตาลงแล้วเจอกับวันใหม่ ไฟแค่ดวงเดียวที่ปิดลงไม่ได้ และก้าวผ่านไปไม่ได้ก็คือออย และบาดแผลที่เธอได้รับ ก็เกือบปลิดชิวีตเธอไปแล้วในที่สุด...

นี่เป็นคำถามที่วัยรุ่นแทบทุกคนต่างรอเวลาที่จะต้องเจอเมื่อต้องก้าวเข้าสู่หัวเลี้ยวหัวต่ออย่าง ม.ปลาย และ ซีรีส์ฮอร์โมน ก็นำเสนอเรื่องราวนี้ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง สำหรับเทยนั้นมองว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากของไทย นี่เป็นซีรีส์ที่สะท้อนสังคมอย่างแท้จริง จนกลับมาดูใหม่ตอนนี้ เราก็ยังเห็นภาพจำลองสังคมที่น่าทึ่งอยู่มาก ซีรีส์วัยรุ่นเรื่องนี้ เต็มไปด้วยความเข้มข้นที่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าโหดร้ายถึงขั้นทารุณเลยทีเดียว 

หากงานภาพยนตร์คืองานศิลปะ และงานศิลปะคือกระจกที่สะท้อนความคิดของคน และสังคม ตอนนี้เทยว่าเราน่าจะเห็นแล้ว ว่าวัยรุ่นที่โตมากับซีรีส์ฮอร์โมน เขากำลังพยายามเปลี่ยนโลก และเปลี่ยนสังคมอย่างไร เราล่ะคะ เป็นวัยรุ่นในแบบไหน หรือเป็นผู้ใหญ่อย่างที่เราเคยไม่ชอบไว้ในตอนนั้นหรือเปล่า

 

เหยี่ยวเทย ฝากไว้ให้คิดค่ะ

อัลบั้มภาพ 29 ภาพ

อัลบั้มภาพ 29 ภาพ ของ ย้อนดู "Hormones" ซีรีส์การกบฎของวัยรุ่นร้ายๆ กับผู้ใหญ่กลัวโป๊ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook