Run หนีให้ไกล แม่คนนี้ไม่ได้หวังดีอย่างที่คิด!

Run หนีให้ไกล แม่คนนี้ไม่ได้หวังดีอย่างที่คิด!

Run หนีให้ไกล แม่คนนี้ไม่ได้หวังดีอย่างที่คิด!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผลงานเขย่าขวัญเรื่องใหม่ของผู้กำกับอานีช ชาแกนตี้ นักทำหนังคลื่นลูกใหม่ที่ฝากชื่อไว้ในใจแฟนๆ หนังเขย่าขวัญ กับผลงานเรื่อง Searching ที่มีสไตล์การเล่าเรื่องสดใหม่ โดย Run หนังเรื่องล่าสุดจะว่าด้วยคุณแม่ที่ไม่ได้หวังดีอย่างที่ใครๆคิด!

ความลับของคุณแม่สุดสะพรึง

Run คือหนังเขย่าขวัญจิตวิทยาว่าด้วยสาวน้อยที่ค้นพบความลับบางอย่างของแม่ตัวเอง หลังจากที่มีคนชอบกล่าวเอาไว้ว่าไม่มีใครหนีความรักของแม่ตัวเองพ้น แต่สำหรับโคลอี้ (เคียร่า อัลเลน) ประโยคดังกล่าวไม่ใช่เป็นคำปลอบโยน แต่เป็นการคุกคามที่อาจจะเป็นภัยถึงชีวิต ความสัมพันธ์ของเธอกับ ไดแอน (ซาร่า พอลสัน) ผู้เป็นแม่ ตั้งอยู่บนคำโกหก ไดแอนเลี้ยงลูกให้โตมาอย่างโดดเดี่ยว เธอบงการลูกสาวทุกการเคลื่อนไหว เมื่อโคลอี้เตรียมจะเข้ามหาลัย เธอค้นพบความลับที่ทำให้เธอต้องอ้าปากข้างว่าแม่ของตัวเองอาจจะไม่ได้แสนดีอย่างที่คิด

จะทำอย่างไรเมื่อแม่เข้ามาคุกคามชีวิต

จากหนังแกะรอยเส้นทางออนไลน์ใน Searching สู่เรื่องราวแสนระทึกที่จะทำให้คุณเห็นว่าเมื่อคนเป็นแม่เข้ามาคุกคามมากเกินไป สิ่งที่เดียวที่คุณทำได้คือหนีให้พ้น สำหรับ ซาร่า พอลสัน เจ้าแม่หนังและซีรีส์สยองขวัญยุคปัจจุบัน หลังจากที่เธอแทบจะแสดงผูกขาดในซีรีส์อย่าง American Horror Story และ Ratched กับการแวะมาเล่นหนังจอใหญ่เพื่อรับบทเป็นคุณแม่ที่เก็บงำความลับบางอย่างไว้และเธอยอมพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้มันถูกแพร่งพรายออกไป สำหรับเคียร่า อัลเลน รับบท โคลอี้ สาวน้อยที่พิการติดวีลแชร์ สิ่งเดียวที่เธอต้องการคือหนีไปให้พ้นจากอกแม่แต่ทำไม่ได้ ซึ่งหนังเรื่องนี้ถือเป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกของเธอ

 

ประเด็นอันเป็นสากลว่าด้วยความไม่เข้าใจกันระหว่างสองช่วงวัย

ความไม่เข้าใจกันระหว่างวัยรุ่นและผู้ปกครอง คือสิ่งที่เป็นปัญหาครอบครัวที่คนทั่วโลกต้องเผชิญในยุคปัจจุบันและดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวันด้วยเช่นกัน โดย Run วางเอาไว้ว่ามันคือหนังเขย่าขวัญที่ว่าด้วยลูกสาวซึ่งค้นพบความจริงที่น่ากลัวของแม่ตัวเองก่อนนำมาสู่เรื่องราวความระทึกทั้งหมด

โคลอี้เป็นตัวละครเอกของเรื่องที่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในชีวิตครั้งใหญ่ เมื่อตัวของเธอเองมีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ เธอมีความสามารถในการประดิษฐ์สิ่งของ แต่สิ่งเดียวที่เธอไม่สามารถเอาชนะได้เลยคือความพิการที่เป็นมาแต่กำเนิด เธอมีปัญหาสุขภาพ ปอดและหัวใจของเธอทำงานไม่ปกติเป็นอัมพาตตั้งแต่ครึ่งล่างลงไป ความเจ็บป่วยดังกล่าวนี้เองที่ส่งผลให้เธอต้องอยู่ภายใต้การดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งไดแอนเป็นคนดูแลเธอมาตลอดระยะเวลา 17 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกคู่นี้เป็นไปได้ดีจนกระทั่งเมื่อถึงช่วงเวลาที่โคลอี้จะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย เมื่อเธอค้นพบความลับบางอย่างจากแม่ของตัวเอง แต่แทนที่จะได้รับคำตอบ เธอกลับมีคำถามใหม่ผุดเข้ามาในหัวและยิ่งโคลอี้ใกล้ความจริงมากขึ้นแค่ไหนก็ตาม ไดแอนก็ยิ่งผลักไสเธอออกเสมอ

ทางด้านตัวละครอย่างไดแอนเอง เป็นตัวละครแม่ที่พยายามปกป้องลูกตัวเองมากกว่าปกติ ซึ่งผู้ชมดูแล้วจะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องทำแบบนั้น แต่ด้วยความลับบางอย่างที่เธอเก็บงำไว้ได้ทำให้ทุกอย่างพลิกผันและนำไปสู่ความระทึกที่ผู้ชมจะหยุดหายใจ

 

จากหนังระทึกขวัญเทคโนโลยีสู่หนังในสไตล์ดั้งเดิม

ย้อนกลับไปที่หนังเรื่อง Searching คือการที่หนังเล่าเรื่องที่พ่อตามหาลูกสาวของตัวเองผ่านทางเทคโนโลยีหน้าตาต่าง ซึ่งหนังก็เต็มไปด้วยลูกล่อลุกชนที่ใช้เทคนิคด้านภาพยนตร์มาหลอกล่อให้คนดูเกิดอาการหัวหมุน Run จึงเป็นหนังที่พิสูจน์ความสามารถของตัวผู้กำกับด้วยอีกเช่นกันว่าหนังเรื่องนี้สามารถเอาสไตล์หนังสยองขวัญแบบดั้งเดิมมาใช้

การออกแบบองค์ประกอบศิลป์ในหนังเรื่องนี้จึงให้ความสำคัญในเรื่องแสงโดยฌอง แองเดอร์ การิแยร์ ใช้สีม่วงและเขียวเป็นหลักในการออกแบบฉาก มันเป็นคู่สีตรงข้ามกันซึ่งล้วนแต่สื่อความหมายพัฒนาไปตามเนื้อเรื่อง ขณะที่คอสตูมอย่างเฮเธอร์ นีล โดยใช้หลักคู่สีเช่นเดียวกัน เธอเน้นไปที่การใช้เส้นลายทางเหมือนเป็นการสะท้อนถึงชุดนักโทษ “เพราะโคลอี้เหมือนนักโทษที่ถูกขังในบ้านตัวเอง”

มีการถ่ายตัวละครด้วยเทคนิคย้อนแสงในหลายๆฉาก เพื่อเป็นการคารวะหนังแนวเขย่าขวัญจิตวิทยาในอดีต โอฮาเนียนอธิบาย “เมื่อตัวละครหลังยืนอยู่ชั้นล่าง โดยมีตัวละครปริศนายืนมองลงมาจากบันไดชั้นบน โดยย้อนแสง มันไม่ใช่แค่ลูกสาวปะทะกับแม่อีกต่อไป มันเหมือนพลังสองขั้วเข้าห้ำหั่นกันจนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแตกพ่ายมากกว่า”

ท้ายที่สุด Run คือหนังระทึกขวัญที่อุดมไปด้วยฉากพลิกผันมากมาย โดยคนดูจะไม่มีทางคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป มันเป็นการชิงไหวชิงพริบ เป็นสงครามประสาทที่คนดูไม่อาจจะคาดเดาผู้ชนะ “Run คือหนังสยองขวัญสไตล์ดั้งเดิมที่มีเนื้อหาร่วมสมัย” ผู้กำกับชาแกนตี้สรุปว่า “ถ้าคุณอยากรู้ว่าตัวเองกลั้นหายใจได้นานขนาดไหน ลองให้หนังเรื่องนี้เป็นข้อพิสูจน์”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook