Atomic Blonde 2 และภาคต่อ Mad Max: Fury Road อย่าง Furiosa มาแน่

Atomic Blonde 2 และภาคต่อ Mad Max: Fury Road อย่าง Furiosa มาแน่

Atomic Blonde 2 และภาคต่อ Mad Max: Fury Road อย่าง Furiosa มาแน่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาหนังแอ็คชั่นเรื่องดังทาง Netflix เรื่อง The Old Guard ได้รับการตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี แถมนักวิจารณ์ก็ยังร่วมเทคะแนนไปในทิศทางบวก ทำให้นักแสดงนำหญิงอย่างชาร์ลิซ เธอรอนได้รับการจับตามองจากผู้ชมอีกครั้ง

ย้อนกลับไปในปี 2017 Atomic Blonde ถือเป็นหนังแอ็คชั่นฟอร์มกลางที่ใช้ทุนสร้างประมาณ 30 ล้านเหรียญฯ แต่สามารถทำกำไรทั่วโลกสูงถึง 100 ล้านเหรียญฯ ตัวหนังเล่าเรื่องราวของลอร์เรน โบรห์ตัน สายลับหญิงจากหน่วยราชการลับของอังกฤษ ซึ่งเดินทางมาทำภารกิจที่เยอรมันในการตามหาสปายกลาสที่ครอบครองเดอะลิสต์ ไฟล์ซึ่งรวบรวมบรรดาชื่อสายลับของอังกฤษทั้งหมด ซึ่งถ้าหากเล็ดรอดออกไปอาจจะเป็นอันตรายต่อหน่วยข่าวกรองได้ เธอได้รับความช่วยเหลือจาก เดวิด เพอร์ซิวัล (เจมส์ แมคอะวอย) สายลับที่ทำธุรกิจมืดในเยอรมัน

ลอร์เรนต้องแข่งกับเวลาและหน่วยงานจากเคจีบี (รัสเซีย) ของบรีโมวิชที่แผ่อิทธิพลในวงกว้างในเยอรมัน และยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายรายที่เข้ามามีเอี่ยวที่ทำให้ภารกิจของลอร์เรนนั้น “หิน” กว่าที่คิดไม่ว่าจะเป็น สายลับฝรั่งเศสอย่าง เดลฟีน (โซเฟีย โบเทลล่า) และซีไอเอฝั่งอเมริกันอย่าง เคิร์ตเฟลด์ (จอห์น กู้ดแมน) ท่ามกลางฉากหลังในช่วงเวลากำแพงเบอร์ลินกำลังล่มสลายในปี 1989

จุดเด่นของ Atomic Blonde เราอาจจะกล่าวได้ว่ามันคือ John Wick เวอร์ชั่นผู้หญิง (ซึ่งตัวหนังเองก็กำกับโดยเดวิด ลีทช์เช่นเดียวกัน) ตัวหนังจึงเป็นส่วนผสมระหว่างหนังสายลับกับหนังแอ็คชั่นต่อสู้ ซึ่งมีสไตล์การต่อสู้ในระยะประชิด เน้นศิลปะป้องกันตัว นอกจากนี้คิวบู๊ที่ปรากฏอยู่ในเรื่องก็ล้วนแล้วแต่น่าจดจำไม่ว่าจะเป็น ฉากสตันท์ที่ดุเดือด ฉากต่อสู้แบบลองเทคชนิดที่เล่นเอาคนดูแทบหยุดหายใจ กระทั่งฉากไล่ล่าบนรถยนต์ที่ดูสมจริงจนเรานึกว่าไม่ใช่หนัง!

ล่าสุดทางชาร์ลิซ เธอรอน ได้ออกมาเผยกับทางสื่อต่างประเทศว่าตอนนี้  Atomic Blonde 2 กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโดย Netflix โดยทางสก็อต สตูเบอร์ (หัวหน้าแผนกการผลิตภาพยนตร์และคอนเทนท์ของ Netflix) สนใจโปรเจ็คนี้เป็นอย่างมากและตอนนี้ตัวหนังก็อยู่ในขั้นตอนของการเขียนบท แต่เธอก็ไม่ได้เปิดเผยถึงคาแรกเตอร์ในภาคต่อว่าจะเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนผู้ชมน่าจะให้การตอบรับ Atomic Blonde 2 เป็นอย่างดีเฉกเช่นกับ The Old Guard

ทางด้านเดวิด ลีทช์ เองมีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่า “ตอนนี้เราอยู่ในขั้นตอนพัฒนาบท สถานการณ์ล็อคดาวน์ในอเมริกาเปิดโอกาสให้เราได้ทำงานกันกับผู้เขียนบทผ่านโปรแกรม Zoom อย่างขยันขันแข็งเลยทีเดียวครับ”

 

นอกจาก Atomic Blonde 2 แล้วอีกหนึ่งตัวละครของเธอรอนที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ “ฟูริโอซ่า” จาก Mad Max: Fury Road โดยตัวละครนี้จะกลับมาโลดแล่นบนจอหนังอีกครั้งกับหนังภาคแยกอย่าง Furiosa หนังภาคพรีเควนท์ ที่ผู้กำกับอย่างจอร์จ มิลเลอร์จะกลับมานั่งแท่นหัวเรือใหญ่ของหนังอีกครั้ง ซึ่งบทนี้จะนำแสดงโดยดาราวัยรุ่นอายุน้อยกว่าเธอรอน ซึ่งมีการคาดเดากันว่าบทนี้น่าจะตกเป็นของสาวอันยา เทย์เลอร์ จอย (หรืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้ ต้องรอทางค่ายหนังประกาศบทอย่างเป็นทางการอีกครั้ง)

แม้ว่าเธอรอนอาจจะไม่ได้กลับมาแสดงเป็นหลัก (แต่อาจจะมีการแทรกภาพแคนดิดเข้ามาบ้าง) เธอจึงเปิดเผยความรู้สึกของตัวเธอเองที่มีต่อตัวละครฟูริโอซ่าว่า “บทนี้ เป็นบทบาทการแสดงที่หนักมากๆสำหรับเธอเอง ฉันเคารพนับถือจอร์จ มิลเลอร์มากๆเลยค่ะ หลังจากที่ได้ทำงานกับเขาใน Mad Max: Fury Road เขาคือระดับตำนานและระดับปรมาจารย์ ฉันไม่ขออะไรมากมายนอกจากขอให้เขามีแต่สิ่งดีๆ แน่นอนค่ะนิดนึงฉันก็เสียดายที่อาจจะไม่ได้กลับมารับบทนี้แบบเต็มตัว แต่ฉันต้องบอกเลยว่าฉันรักตัวละครนี้เอามากๆแล้วก็ดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างตัวละครนี้ขึ้นมาให้มีชีวิตจริง เธอเป็นหนึ่งในตัวละครที่ฉันจะนึกถึงและสะท้อนภาพตัวเองตลอดไป อย่างไรก็ตามฉันดีใจมากๆที่เรื่องราวของเธอได้รับการสานต่อ”

สำหรับ Mad Max: Fury Road ถือเป็นหนังทำเงินมหาศาล กวาดคำวิจารณ์อย่างดงามและยังคว้า 6 รางวัลออสการ์โดยเฉพาะสาขาเทคนิคต่างๆ มาครอบครอง แต่การที่หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นหนังที่ “ฮิต” นั้นถือเป็นเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อย เนื่องจาก Fury Road ทิ้งห่างจาก Mad Max Beyond Thunderdome (1985) ถึง 30 ปี แถมคนดูในยุคปัจจุบันน้อยคนนักที่จะเคยผ่านตากับไตรภาคแรกของหนัง แต่ถึงแม้ว่าจะไม่เคยดู 3 ภาคแรกมาก่อนก็ดูหนังเข้าใจได้ไม่ยากเย็นนัก สำหรับแฟนหนังชัดเดิมก็มีการตีความไปต่างๆนานาว่าตกลงแล้วเส้นเรื่องที่เกิดขึ้นใน Fury Road อยู่ในเส้นไทม์ไลน์ไหนกันแน่ระหว่างเหตุการณ์ใน 3 ภาคแรก หรือแท้ที่จริงแล้วนี่คือการรีเซ็ตเส้นเวลาใหม่ ซึ่งบางที Furiosa อาจจะเป็นส่วนเติมเต็มสิ่งที่คนดูค้างคาใจมาโดยตลอดก็เป็นได้ เอาเป็นว่าก็คงต้องอดใจรอกันอีกสักสองถึงสามปี (หรืออาจจะนานกว่านั้น) จนกว่าอเมริกาจะสามารถกลับมาเปิดกล้อง ออกกองถ่ายทำภาพยนตร์ได้ ตอนนั้นคงจะมีข่าวคราวเพิ่มเติมตามออกมานั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook