ท้าให้เทสต์ vivo X60 Pro 5G สมาร์ทโฟนเลนส์ ZEISS นิยามใหม่ของการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ

คำเตือน! บทความนี้อาจสร้างความหวั่นไหวขั้นสุดให้กับคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนดีไซน์หรู น้ำหนักเบา ที่มาพร้อมกล้องระดับโปร สเปกเครื่องระดับเทพ รองรับ 5G มีเทคโนโลยีที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ชอบถ่ายภาพและเสพความบันเทิงทุกรูปแบบผ่านสมาร์ทโฟน

เพราะ sanook.com จะพาคุณไปลองเทสต์ทุกฟีเจอร์ของ vivo X60 Pro 5G สมาร์ทโฟนแฟล็คชิพรุ่นแรกของ vivo ที่จับมือกับ ZEISS แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของวงการเลนส์จากเยอรมัน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีถ่ายภาพระดับมืออาชีพพร้อมอัปเกรดระบบกันสั่น GIMBAL STABILIZATION 2.0 ที่นิ่งกว่าเดิม ใครที่เป็นสายชิลล์ แชะ แชร์ ควรอ่านจะได้มาร่วมเป็นสักขีพยานว่า vivo X60 Pro 5G เครื่องนี้จะเจ๋งจริงสมกับเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงของ vivo หรือไม่!   

 

เพราะทุกที่คือรันเวย์ คนเก๋ยุคนี้จึงต้องมีสมาร์ทโฟนกล้องเทพ ที่บางเบา ยกขึ้นมาทัชและถ่ายได้ทุกที่

และเพื่อความสวยเก๋แบบมีคลาส ราวกับมีปาปารัซซี่แอบถ่ายด้วยเลนส์เทพจนได้ภาพ bokeh และ facula ในเวลานี้เห็นจะมีแต่ vivo X60 Pro 5G สมาร์ทโฟนแฟล็คชิพเลนส์ ZEISS เลนส์ระดับตำนาน ที่มาพร้อมระบบกันสั่น GIMBAL STABILIZATION 2.0 เท่านั้น ถึงจะสร้างนิยามใหม่ของการถ่ายภาพระดับมืออาชีพด้วยสมาร์ทโฟนแบบที่ไม่ต้องมีใบเซอร์คอร์สถ่ายภาพ ไม่ต้องรู้จักวิธีปรับค่ารูรับแสงใดๆ แค่เลือกโหมดและทัช! ไม่ว่าจะถ่ายที่ไหน เมื่อไร ก็ได้ภาพที่สวยราวกับมืออาชีพ  

Portrait Mode ไม่ใช้ฟิลเตอร์

Portrait Mode ไม่ใช้ฟิลเตอร์

ความร่วมมือระดับ Co-engineered ระหว่าง vivo และ ZEISS ในครั้งนี้เพราะต้องการพัฒนาเทคโนโลยีถ่ายภาพระดับมืออาชีพเพื่อให้ได้กล้องที่ดีที่สุดและมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความคมชัด สีสันที่สวยงาม ลูกเล่นการถ่ายภาพที่หลากหลาย แถมยังอัปเกรด GIMBAL STABILIZATION 2.0 ให้นิ่งกว่าเดิมด้วย Micro Gimbal พร้อมรูรับแสงที่กว้างขึ้น ช่วยกันภาพสั่นไหวได้ถึง 4 แกน หมดปัญหาภาพเบลออีกต่อไป รวมถึง VIS 5-Axis Video Stabilization ป้องกันการถ่ายวิดีโอที่สั่นไหวเต็มรูปแบบจากทุกมุม และ Pixel Shift Ultra HD Imaging ถ่ายภาพชัดเจนในทุกพิกเซลอย่างสมบูณ์แบบ ให้ภาพถ่ายสถาปัตยกรรม ทิวทัศน์และสิ่งอื่น ๆ รอบตัวคุณคมชัดสมจริง ที่สำคัญเทคโนโลยีระบบกันสั่นที่ว่านี้ยังมีเฉพาะในสมาร์ทโฟน vivo เท่านั้น    

เลนส์ Ultra Wide

Zoom 1x

Zoom 6x

เลนส์ Ultra Wide

Zoom 1x

Zoom 10x

vivo ZEISS Co-engineered Imaging System ให้กล้องหลังมาถึง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลักเลนส์ Wide 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX 598 รูรับแสงกว้าง f/1.48 พร้อมระบบกันสั่น GIMBAL STABILIZATION 2.0 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.46 ซูมออฟติคอล 2 เท่า และ Digital zoom 20 เท่า ในขณะที่กล้องหน้าให้ความละเอียดมา 32 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.45   

Portrait Style Mode

Portrait Beauty Mode

Portrait Beauty Mode / Small town Filter

Portrait Beauty Mode / Evening Breeze Filter

Portrait Beauty Mode / Silent Filter

ครีเอทภาพ Portrait ได้หลากอารมณ์ด้วยเลนส์ ‘ZEISS Biotar’

จุดเด่นของ vivo X60 Pro 5G ที่ตอบโจทย์คนชอบถ่ายภาพคงหนีไม่พ้นโหมด Portrait ที่จัดเต็มลูกเล่นสนุกๆ ถูกใจสายเซลฟี่ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ภาพยุค 80 ฟีลลิ่งภาพยนตร์ โตเกียวสไตล์ ฯลฯ หรือจะเล่นกับเอฟเฟ็กต์แสง เช่น แสงธรรมชาติ ไฟสตูดิโอ แสงรุ้ง ฯลฯ รวมถึงฟิลเตอร์สีแบบต่างๆ ในขณะที่โหมดความงามก็จัดมาครบทุกขั้นตอนทั้งปรับโทนสีผิว ปรับรูปหน้า หน้าสดก็เสกเมคอัพได้ และยังมีโหมดท่าทางที่มีตัวอย่างการโพสท่าถ่ายภาพให้เลือก ไปจนถึงฟีเจอร์ไม้ตายหน้าชัดหลังละลาย สามารถปรับค่ารูรับแสงได้ต่ำสุด f/0.95 ช่วยให้ภาพบุคคลดูโดดเด่นทันที โดยเฉพาะการถ่ายภาพตอนกลางคืนต้องเล่นกับ Bokeh ที่เลือกปรับให้เป็นรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ดาว รูปหัวใจ ผีเสื้อ หรือซากุระ  

Portrait Boken Mode / Hearts

Portrait Boken Mode / Stars

Portrait Boken Mode / Cherry Bolssom

แต่ระดับ ZEISS ทั้งทีต้องมีไม้เด็ดซ่อนอยู่ สำหรับสาย Portrait คนไหนที่ชอบความง่ายและเป๊ะ! ในโหมด Portrait เมื่อคลิกไอคอน Style ขวามือ จะพบกับ ZEISS Biotar นี่แหละนิยามใหม่ของการถ่ายภาพระดับมืออาชีพด้วยสมาร์ทโฟนของจริง เพราะ vivo นำเอาความโดดเด่นของสุดยอดเลนส์ถ่ายภาพบุคคลในตำนานมาใส่ไว้ในโหมดนี้ สามารถสร้างภาพ bokeh และ facula ในระดับลึกได้สวยสมจริง 

 ZEISS Biotar

ZEISS Biotar

ZEISS Biotar

หยุดทุกโมเมนต์สนุกๆ กับ Pro Sport Mode

X60 Pro พัฒนาฟีเจอร์นี้มาเพื่อช่วยถ่ายภาพที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่น ภาพรถยนต์หรือกีฬาเอ็กซ์ตรีม ด้วยการใช้อัลกอริธึมตรวจจับการเคลื่อนไหวทำงานร่วมกับ Object Autofocus และ EFB Autofocus ให้คุณหยุดทุกความเคลื่อนไหวได้อย่างไรที่ติ ถ้าตอนนี้ใครกำลังอินกับกีฬ่าเอ็กซ์ตรีมอย่างเซิร์ฟสเก็ตโหมดนี้เอาอยู่ทุกช็อต  

Sport Mode

Sport Mode

แต่ก็ไม่อยากให้จำกัดโหมดนี้ไว้แค่การถ่ายภาพรถยนต์หรือกีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่างที่บอก เพราะเขามีฟีเจอร์ Kids Snapshot เก็บภาพเด็กๆ หรือจะลองปรับไปใช้เก็บภาพน้องหมา น้องแมวก็ยังได้ แม้แต่ช็อตเผลอๆ อย่างตอนเสยผม สะบัดชายกระโปรง หรือตอนขยับมูฟเมนท์ไปตามจังหวะดนตรี สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ดีไซน์ภาพถ่ายสนุกๆ ในแบบที่คุณต้องการ

เก็บเสน่ห์ยามค่ำคืนครบทุกรายละเอียดด้วย Superb Night Camera 2.0 และ Extreme Night Vision 2.0

ปัญหาและอุปสรรคในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยจะหมดไป ด้วย Superb Night Camera 2.0 สร้างเฉดสีกลางคืนที่หลากหลายได้ถึง 7 เฉด และโหมด Ultra Wide Night ยังช่วยให้คุณถ่ายภาพกลางคืนในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น ใครที่ชอบถ่ายบรรยากาศแสงสียามค่ำคืนใช้เอฟเฟกต์ HDR ในโหมด Panorama Night ช่วยให้คุณถ่ายภาพในที่แสง backlight และ low-light ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้แต่ภาพ Portrait ก็ยังโดดเด่น เพราะเลนส์ทางยาวโฟกัส 50 มม. และอัลกอริธึมการลดสัญญาณรบกวนแบบหลายเฟรม จึงให้ภาพถ่ายฉากกลายคืนที่สวย คมชัด ไม่แพ้กล้อง DSLR  

Blue ice

Black & Gold

Green Orange

Cyberpunk

Dark Red

Blue Orange

Silver Orange

เพื่อประสบการณ์ถ่ายภาพแม้ในคืนที่มืดสนิท X60 Pro จึงอัปเกรดฟังก์ชั่น Extreme Night Vision 2.0 และอัลกอริธึมการลดนอยส์โดย AI ที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับสภาพแวดล้อมที่มืดมาก ช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนเป็นเรื่องง่าย ขาตั้งกล้องไม่ใช้ก็สวยได้

โหมดกลางคืนนี้ยัง (มีลูกเล่นสนุกๆ) อีกยาวไกล

ถ้าคุณคือสายปาร์ตี้หรือมนุษย์ที่ชื่นชอบยามราตรี X60 Pro ยังมีลูกเล่นให้คุณสนุกอีกมากมาย อย่าง Long-Exposure Mode ที่นำเอาเทคนิคการถ่ายภาพที่เน้นการลากความเร็วชัตเตอร์ให้นานสูงสุด 32 วินาที มาช่วยให้คุณสนุกไปกับการเล่นแสงไฟที่มีอยู่รอบตัวยามค่ำคืน เพียงแตะครั้งเดียว สรรค์สร้างภาพถ่ายให้สวยแปลกตาราวกับช่างภาพมือโปรด้วยรูปแบบสนุกๆ ทั้งเส้นทางจราจร กราฟิตี้กลางคืน น้ำตก หมอกควัน ดอกไม้ไฟ และเส้นแสงดาว หรือจะเขียนตัวอักษรด้วยแสงไฟก็ทำได้อย่างง่ายดาย

สายโรแมนติกที่อยากเก็บภาพดวงดาวเต็มฟ้า เลือก Astro Mode แต่อาจจะต้องใช้ขาตั้งกล้องมาช่วยเนื่องจากกล้องจะเปิดชัตเตอร์นาน 2 นาที โหมดอัจฉริยะนี้จะช่วยเก็บภาพท้องฟ้าและดวงดาวระยิบระยับได้งดงามสวยไม่แพ้กล้อง DSLR เลยทีเดียว และห้ามพลาดโหมด Super Moon ซูมพระจันทร์ดวงโตให้อยู่ใกล้สายตาสวยจับใจเชียวล่ะ 

นอกจากโหมดเจ๋งๆ ทั้งหมดที่บอกไป ยังมีโหมดถ่ายภาพอื่นๆ ที่คุณจะได้ทดสอบประสิทธิภาพความเจ๋งของเลนส์ ZEISS และเทคโนโลยีอันชาญฉลาดไม่ว่าจะเป็น Super macro ถ่ายภาพระยะใกล้พร้อมระบบออโต้โฟกัสที่ถ่ายได้ใกล้สุดๆ ถึง 2.5 ซม. โหมด Live Photo ถ่ายภาพนิ่งพร้อมเก็บภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ ทำให้ภาพถ่ายดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น โหมด Slow-Mo จับทุกอิริยาบถสูงสุด 240 เฟรมต่อวินาที หรือสนุกกับการติดสปีดวิดีโอด้วยโหมด Time-Lapse และโหมด Doc  ถ่ายภาพเอกสาร ทำให้ตัวอักษรชัดเจนอ่านง่ายขึ้น

Super macro

บันทึกทุกการเคลื่อนไหวแบบไม่สั่นไหวด้วย Cinematic Master

คอนเทนต์ครีเอเตอร์ไม่ควรพลาดฟีเจอร์นี้ เพราะ Cinematic Master รองรับวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K และวิดีโอที่มีอัตราส่วนกว้างยาว 2.35: 1 พร้อมไมโครโฟนระบบ 3-Mic Spatial Audio Recording รองรับการซูมเสียงและติดตามทิศทางเสียงด้วยการตั้งค่าไมโครโฟนสามตัวใน X60 Pro พร้อมซอฟต์แวร์ช่วยลดเสียงรบกวน เสียงลม ขณะบันทึกวิดีโอ เพื่อให้เสียงของผู้พูดชัดเจนยิ่งขึ้น  และยังได้เทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว Gimbal Stabilization 2.0 ช่วยให้กล้องหลังของ Vivo X60 Pro 5G ถ่ายวิดีโอได้อย่างราบรื่น ถ่ายภาพเคลื่อนไหวนิ่งเหมือนใช้ขาตั้งกล้อง 

ฟีเจอร์ดี สเปกจัดเต็ม ต้องมาพร้อมความแรงเต็มสปีดเชื่อมต่อ 5G พลัสด้วยระบบประมวลผลระดับแฟล็คชิพ Qualcomm® Snapdragon ™ 870

น่าเสียดายแย่ถ้าคุณมีฟีเจอร์สุดเจ๋งที่ช่วยสร้างสรรค์ภาพระดับโปรแต่ทำได้แค่เก็บไว้ดูคนเดียว X60 Pro จึงเตรียมความพร้อมรองรับ 5G ทุกเครือข่ายให้คุณใช้งานได้ทันทีไม่ต้องรออัปเกรด เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และยังรองรับการเชื่อมต่อ WiFi ความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz 

พร้อมอัปความแรงยิ่งขึ้นด้วยหน่วยประมวลผลระดับ Qualcomm® Snapdragon ™ 870 5G Octa-core 3.2 GHz ทั้งเร็วและแรง เพิ่มประสิทธิภาพของ CPU 10% และประสิทธิภาพของ GPU อีก 10% ส่วนหน่วยความจำ (RAM) 12 GB + 3GB จากตัว ROM ทำให้ RAM โดยรวมอยู่ที่ 15GB จึงใช้แอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล พร้อมพื้นที่หน่วยความจำ (ROM) 256 GB และเทคโนโลยี UFS 3.1 สามารถอ่านเขียนข้อมูลได้เร็วทันใจ ดูหนังได้เพลินๆ ไม่มีสะดุด แม้แต่การอ่านไฟล์ขนาดใหญ่ที่มีความละเอียดสูงพิเศษก็ทำได้อย่างดี ทั้งหมดนี้ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด รับรอง HDR10+ เพื่อคุณภาพวิดีโอที่น่าทึ่ง อีกทั้งยังได้รับการรับรอง SGS Eye Care Display และ SGS Seamless เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้คุณได้เพลิดเพลินกับการใช้หน้าจอแสดงผลที่ชัดเจนและสบายตายิ่งขึ้น ถ้าภาพเจ๋งเบอร์นี้ก็ต้องได้เสียงระดับ Hi-Res ถึงจะทำให้ประสบการณ์ความบันเทิงของคุณสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง   

เฉดสี Shimmer Blue ความหรูหราที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก “ดอกไม้ฤดูร้อน”

ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของ X60 Pro ทั้งหมดที่กล่าวมา อยู่ภายใต้ภาพลักษณ์ที่เรียบหรูมีระดับของตัวเครื่องที่บางเพียง 7.69 มม. และเบาเพียง 179 กรัม เผยโฉมในสี Shimmer Blue ไล่เฉดสีฟ้า-ม่วง เมื่อสะท้อนกับแสงในมุมต่างๆ ได้แรงบันดาลใจมาจากธีมสี “ดอกไม้ฤดูร้อน” สัมผัสถึงความหวังอันเป็นนิรันดร์ของพระอาทิตย์ขึ้นของเฉดสีฟ้าและสีม่วงอ่อนๆ ที่มองผ่านทะเลหมอกในยามเช้า

หรูหรายิ่งขึ้นด้วยดีไซน์โค้งมน หน้าจอ 3D Curved Ultra O Display 6.56 นิ้ว แสดงผลแบบ Flexible screen ที่ให้สีสันสมจริง มองเห็นได้ชัดเจนแม้อยู่กลางแจ้ง แสดงผลด้วยอัตรารีเฟรชเรท 120

Hz ซึ่งสูงกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปที่ทำได้เพียง 60 Hz จึงทำให้การแสดงผลภาพ หรือการเลื่อนหน้าจอทำได้อย่างลื่นไหล เพิ่มความคมชัดและความละเอียดด้วย FHD+ (1080 x 2376 พิกเซล) พร้อมเทคโนโลยีหน้าจอสัมผัส 240 HZ RESPONSE RATE ทำให้การแตะสั่งงานตอบสนองรวดเร็วกว่าเดิม สายเกมต้องถูกใจสิ่งนี้  

และนี่เป็นครั้งแรกของ vivo ที่ดีไซน์กล้องหลังสไตล์  “Dual-Tone Step” ไล่ระดับ 2 ชั้นให้นูนขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมโลโก้ ZEISS อยู่มุมบนขวามือของกล้อง ส่วนกล้องหน้าดีไซน์ไว้ด้านบนกลางจน เล็กเพียง 3.96 มิลลิเมตร เพื่อให้เอฟเฟกต์ภาพมีความสมดุลมากขึ้น และทำให้การถ่ายเซลฟี่ด้านหน้าได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน

เพื่อให้สมาร์ทโฟนของคุณใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน vivo ยังให้อแดปเตอร์ VIVO FLASHCHARGE 2.0 ชาร์จเร็วทันใจด้วยไฟ 33 วัตต์ พร้อมแบตฯ ความจุ 4200 mAh และเทคโนโลยี VEG (vivo Energy Guardian) ช่วยให้การทำงานของระบบและแอพพลิเคชั่นต่างๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่นและยาวนาน เมื่อชาร์จจาก 0-60% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที  และหากชาร์จจนเต็ม 100% ใช้เวลาเพียง 65 นาทีเท่านั้น  

สรุปสเปกโดยรวมของ vivo X60 Pro 5G

• หน้าจอ AMOLED 56 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรท 120Hz ความละเอียด FHD+ 2376×1080
• กล้องหน้าความละเอียด 32MP f/45
• กล้องหลังเลนส์ ZIESS 3 ตัว ความละเอียด 48 + 13 + 13 พิกเซล
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 870
• RAM 12GB + ROM UFS3.1 ขนาด 256GB
• รองรับ Dual 5G
• แบตเตอรี่ 4,200 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W
• รันมาบน Android 11 ครอบด้วย Funtouch OS 1

 
เคาะราคาขายที่ 24,999 บาท ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเลนส์ ZIESS ที่ใส่มาพร้อมฟีเจอร์การถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม และอีกหลากหลายฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งาน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยม สมกับเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่จะมาสร้างนิยามใหม่ของการถ่ายภาพระดับมืออาชีพอย่างแท้จริง

[Advertorial]