Nokia เปิดตัว 5.1, 3.1 และ 2.1 มือถือที่มีดีหลายเรื่องแต่ไม่ต้องจ่ายแพง

หลังจากที่มีการเผยวันเปิดตัวมือถือใหม่สำหรับ HMD Global ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ Brand มือถือโนเกีย ก็พร้อมเปิดตัว 3 รุ่นจัดเต็มมาสานต่อกลุ่มคุ้มค่าราคาไม่แพง ทั้ง Nokia 5.1, 3.1 และ 2.1

Nokia 5.1

Nokia 5.1

เป็นน้องรองจาก Nokia 6 ซึ่งเป็นมือถือที่มีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วอัตราส่วน 18:9 ตามสมัยนิยม และได้ความละเอียด Full HD+ พร้อมกับกระจกนิรภัย Corning Gorilla Glass

ขุมพลังที่เลือกใช้เป็น MediaTEK Heilo P18 แบบ Octa Core, RAM 2 – 3 GB, ความจำในตัว 16 – 32GB พร้อมเพิ่มความจำในตัว 128GB จาก Micro SD ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Android One) พร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 2990 mAh

กล้องของ Nokia 5.1 ด้านหลังมีกล้องเดียวพร้อมกับ 16 ล้านพิกเซล พร้อมกับระบบ Phase Detection Auto Focus, มี LED Flash คู่ และใช้กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการทำงาน ทั้งกล้องหน้าและหลังพร้อมกัน หรือ Bothie ด้วย คาดว่าเครื่องรุ่นนี้จะพร้อมขายในเดือน กรกฏาคม ปีนี้ คาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ 218 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 6,900 บาท

Nokia 3.1

Nokia 3.1

หลังจากรุ่นที่แล้วเป็น Nokia 3 รุ่นที่แล้วประสบความสำเร็จอย่างดี ทำให้ HMD Global พร้อมขายรุ่นต่อไป โดยมีอัตราส่วนหน้าจอ 18:9 พร้อมกับความละเอียด HD+ เป็นจอที่สามารถป้องกันรอยนิ้วมือได้อย่างดี

ขุมพลังของเครื่องเลือกใช้ MediaTEK 6750 Octa Core ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม 50%, RAM 2GB จะได้ความจำ 16GB, RAM 3GB จะได้ความจำ 32GB สามารถเพิ่มความจำได้เช่นเคย

พร้อมขาย 2 สีแบบ True Tone คือ Blue/Copper และ Black/Chrome  พร้อมขายในราคา 160 ดอล่าร์สหรัฐ หรือ 5,040 บาท พร้อมขายในเดือนมิถุนายน นี้

Nokia 2.1

Nokia 2.1

ยังคงเน้นจุดเด่นในเรื่องของการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น และรุ่นใหม่ก็เช่นกัน ด้วยยังคงใช้หน้าจอแบบ 5.5 นิ้วเหมือนเดิม พร้อมกับลำโพงที่อยู่ด้านหน้า

ขุมพลังของเครื่องรุ่นนี้ใช้ Qualcomm Snapdragon 425, RAM 1GB ความจำในตัว 8GB และสามารถเพิ่มความจำได้สูงสุด 128GB ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Android One)

และมาพร้อมกันทั้งหมด 3 สีคือ Blue/Copper, Blue/Silver และ Grey/Silver คาดว่าจะเริ่มขายในเดือน กรกฎาคม โดยยังไม่เปิดเผยราคาออกมา

ซึ่งเมื่อดูข้อมูลทั้งหมดแล้ว Nokia ทั้ง 3 รุ่นอาจจะเปิดตัวในประเทศไทยภายในเวลาไม่เกิน 2 เดือนนี้ สุดท้ายแล้วในประเทศไทยจะเลือกความจุไหนเข้ามาขายคงต้องรอดูกันต่อไป