การพ่ายแพ้ให้กับ เชลซี เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ช่องว่างระหว่างคะแนนลดลงมาเหลือแค่ 2 เท่านั้น

นั่นหมายถึงคะแนนที่ แมนฯยูไนเต็ด ตามหลัง แมนฯซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก

ว่ากันว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ แมนฯยูไนเต็ด สามารถขึ้นไปยืนสูดอากาศอยู่บนจุดสูงสุดของตารางแล้ว พวกเขาจะลงมายากเหลือกำลัง

ที่สำคัญเมื่อโอกาสเปิดเพียงเล็กน้อย ในยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พวกเขามีโอกาสแบบนี้บ่อยครั้ง และทำได้แทบจะทุกครา

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็เช่นกัน

ยูไนเต็ด ได้โอกาสที่จะขึ้นไปยืนอยู่บนยอดดอยหัวตารางอย่างน้อยๆ ก็ 4 ชั่วโมง แล้วพวกเขาก็ไม่ทำให้โอกาสนั้นเสียไป

น่าสนใจก็คือ การจัดตัวของ เซอร์อเล็กซ์ ในเกมนี้

11 ผู้เล่นตัวจริงของแมนฯ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย ดาวิด เด เกอา, คริส สมอลลิ่ง, จอนนี่ อีแวนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟร่า, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล คาร์ริค, ฟิล โจนส์, หลุยส์ นานี่, เวย์น รูนี่ย์ และแดนนี่ เวลเบ็ค

หน้าตาคุ้นมากๆ เลยทีเดียว

แน่นอน...เพราะชุดนี้คือ 11 ตัวจริงจากเกมที่แล้วที่ไล่ถล่ม วูล์ฟส์ 4-1 ในเกมซับน้ำตาหลังจากตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก

ยิ่งมาได้ประตูออกนำก่อนยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ ใครที่ดูเกมนี้บางคนยังต้มมาม่าเดินไม่ถึงหน้าจอด้วยซ้ำ เพราะแค่ 53 วินาทีแรกก็ได้ประตูนำไปแล้ว

แม้จะถูกปฏิเสธประตูที่ใสสะอาดของ แดนนี่ เวลเบ็ค ในนาทีที่ 23 แต่พวกเขาก็มาได้ประตูเช็กบิลจากมนุษย์ไม้อย่าง ไมเคิล คาร์ริค ที่เลี้ยงไปเข้าไปยิงซึ่งๆ หน้า แบบกองหลังควีนส์ปาร์ค น่าจะสมควรเรียกมาด่ารายตัว

อันนี้น่าสนใจมาก เพราะพวกเขาทำได้อีกแล้ว

แม้ว่าก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้น แมนฯยูไนเต็ด จะถูกทดสอบสมาธิ เมื่อมีลุ้นได้กลับไปเล่นในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้งในฤดูกาลนี้ ถ้าหากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มีคำสั่งแบนสมาคมฟุตบอลสวิตเซอร์แลนด์จากการแข่งขันทุกระดับ หลังจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจากองค์กรลูกหนังโลกภายในกำหนด

หากสมาคมฟุตบอลสวิสถูกแบนจริง บาเซิล ก็จะหมดสิทธิลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อกเอาต์โดยปริยาย และจะเปิดช่องให้ "ปิศาจแดง" ซึ่งคอหักตกรอบด้วยน้ำมือทีมแชมป์ลีกแดนนาฬิกาได้รับสิทธิเข้าเล่นเดี๋ยวนี้

พร้อมกับเข้าไปดวลกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค แห่งเยอรมนี

ส่วนในศึกยูโรป้า ลีก ไอแอ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม คู่แข่งของ ยูไนเต็ด ได้บายผ่านเข้ารอบต่อไปแบบไม่ต้องเหนื่อยเลยก็ได้

อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นในตอนนี้ในวงการลูกหนัง เช่นเดียวกับสมาธิของอีกหนึ่งแห่งแมนเชสเตอร์ อย่าง “ซิตี้”

พวกเขาจะ “สุขภาพจิต” ดีขนาดไหน เมื่อต้องเสียบัลลังก์ฝูงไปก่อนเกมใหญ่กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล

พรุ่งนี้มาชำแหละกันอีกที!

เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"

คอลัมน์ may i come in please นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์

อัลบั้มภาพ วัดใจ‘แมนเชสเตอร์’ ภาพที่ 3 / 36

วัดใจ‘แมนเชสเตอร์’

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

"ซาลาห์" ซัดโทษกู้ชีพ! ลิเวอร์พูล บุกเจ๊า แมนฯ ยูฯ สุดมัน 2-2 แต้มทาบจ่าฝูง

ต้านไม่ไหว! ไทย เปิดบ้านแพ้ เกาหลีใต้ 0-3 คัดบอลโลก 2026

เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถาน 1-2 ร่วง 16 ทีมสุดท้าย เอเชียน คัพ 2023

"ศุภชัย" ซัดเบิ้ล! ไทย ทุบ คีร์กีซสถาน 2-0 เก็บสามแต้มประเดิมเอเชียน คัพ 2023