ไล่ออก รองสารวัตรฯ สน.ลุมพินี ให้ผู้ต้องหาเกาหลีดื่มเหล้า-ช็อกตายคาห้องขัง

ไล่ออก รองสารวัตรฯ สน.ลุมพินี ให้ผู้ต้องหาเกาหลีดื่มเหล้า-ช็อกตายคาห้องขัง

ไล่ออก รองสารวัตรฯ สน.ลุมพินี ให้ผู้ต้องหาเกาหลีดื่มเหล้า-ช็อกตายคาห้องขัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(1 เม.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช.น. เป็นประธานการประชุม ร่วมกับ พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ลุมพินี และพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี

เพื่อคลี่คลายกรณี นายกอน อิล ฮวาง อายุ 28 ปี นักธุรกิจเกี่ยวกับหุ้นชาวเกาหลีใต้ ซึ่งถูกจับกุมคดีอนาจาร เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา เสียชีวิตในขณะถูกควบคุมตัวในห้องขัง สน.ลุมพินี โดยมีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย และตัวแทนญาติผู้เสียชีวิต ร่วมรับฟังรายงานความคืบหน้าคดีด้วย

พล.ต.ต.ชัยพร เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่จากสถานทูตเกาหลีใต้และตัวแทนญาติผู้เสียชีวิต มารับฟังความคืบหน้าทางคดี เนื่องจากมีข้อสงสัยเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนรายละเอียดคดี ผู้ต้องหารายนี้ถูกนำตัวมาสน.ลุมพินี ระหว่างถูกควบคุมตัวเกิดอาการเครียด หงุดหงิด นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายเหมือนจะฆ่าตัวตาย และขอล่าม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญล่ามอาสาสมัครมา โดยล่ามแจ้งว่า ชายชาวเกาหลีรายนี้ไม่อยากรับประทานข้าว อยากจะดื่มสุรา ด้วยความหวังดี ร้อยเวร ซึ่งเป็นนายตำรวจยศ ร.ต.อ. ตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) จึงนำสุรามาให้ผู้ต้องหารายนี้ดื่มภายในห้องพนักงานสอบสวน โดยตัวร้อยเวรและล่ามได้นั่งอยู่ด้วยในช่วงเวลาเที่ยงคืน

จนถึงเวลา 04.00 น. ผู้ต้องหาจึงกลับเข้าห้องขังโดยไม่ได้นอนหลับ กระทั่งตอนเช้ามีคนมาพบผู้ต้องหาคนดังกล่าวหมดสติ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ก็เสียชีวิต ทั้งนี้การที่ร้อยเวรให้ผู้ต้องหานั่งดื่มสุราบนโรงพัก ถือว่าเป็นข้อบกพร่องอย่างมาก อีกทั้ง เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดในโรงพักก็ปรากฏภาพว่ามีการนั่งดื่มสุรากันจริง ทางคณะกรรมการสอบสวนจึงได้ไล่ร้อยเวรคนนี้ออกจากราชการแล้ว แม้จะทำไปเพื่อให้ผู้ต้องหาผ่อนคลาย แต่เป็นทางออกที่ไม่ถูกต้อง

พล.ต.ต.ชัยพร เปิดเผยอีกว่าเบื้องต้น แพทย์ชันสูตรพบว่า สาเหตุการเสียชีวิตของผู้ต้องหา เกิดจากหัวใจล้มเหลว และมีหลอดเลือดเส้นหนึ่งตีบ 60% แต่ญาติแจ้งว่าผู้ตายไม่มีโรค เมื่อแพทย์ตรวจละเอียดก็พบว่า ในกระเพาะอาหารและในกระแสเลือด มีสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนอยู่ด้วย

ซึ่งการพบสารเสพติดในกระเพาะอาหาร คงต้องรับประทานเข้าไป ถ้าเป็นฉีดจะเข้ากระแสเลือดอย่างเดียว ส่วนการสูบจะมีอยู่ที่ปอด ทางญาติจึงมีข้อสงสัยว่า ยาเสพติดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตด้วยหรือไม่ ใครเป็นผู้มอบยาเสพติดให้ผู้ตาย และยาเสพติดเข้าไปอยู่ในตัวผู้ตายได้อย่างไร

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องไปสอบถามแพทย์เพิ่มเติม และจะชี้แจงกับสถานทูตฯ รวมถึง ญาติผู้ตายให้ทราบ ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างยุติธรรมให้มากที่สุด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook