พี่ชายคนรอง "บูม จิรัชพิสิษฐ์" วอนพี่คนโตมอบตัว พ่อแม่เครียดจนล้มป่วย

พี่ชายคนรอง "บูม จิรัชพิสิษฐ์" วอนพี่คนโตมอบตัว พ่อแม่เครียดจนล้มป่วย

พี่ชายคนรอง "บูม จิรัชพิสิษฐ์" วอนพี่คนโตมอบตัว พ่อแม่เครียดจนล้มป่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายปริญญา จารวิจิต 

จากกรณีกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) บุกจับกุมตัว บูม-จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต อายุ 27 ปี นักแสดงหนุ่ม ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน หลังพบหลอกนักธุรกิจหนุ่มชาวฟินแลนด์ให้ลงทุนในธุรกิจเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอเรนซี่ สกุลบิทคอยน์ มูลค่าเกือบ 800 ล้านบาท ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหาถูกออกหมายจับทั้งหมด 3 คน เป็นพี่น้องกัน ประกอบด้วย นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือบูม ได้ประกันตัวแล้ว ยืนยันไม่รู้เรื่อง , น.ส.สุพิชย์ฌา พี่สาว เข้ามอบตัวและได้ประกันแล้ว ปฏิเสธไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกัน และนายปริญญา พี่ชายคนโต หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ

โดยล่าสุด นายปริญญา ได้ยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอเอกสารทางคดี ซึ่งตำรวจก็รับรู้ว่าติดต่อไป ยืนยันว่าจะกลับมาสู้คดีแน่นอน ส่วนพ่อแม่ บูม และพี่สาวไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ในครอบครัวมีเพียงตัวนายปริญญา และน้องชายอีกคนชื่อธนสิทธิ์ ที่รู้เรื่องทั้งหมด

>> พี่ชาย "บูม จิรัชพิสิษฐ์" ร่อนหนังสือแจง ไม่ได้หนีคดีโกงไปต่างประเทศ

ความคืบหน้าทางคดีทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 8 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจนและพร้อมจะแจ้งข้อกล่าวหาในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ ประกอบด้วย นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือ บูม ดารานักแสดงหนุ่ม , นายปริญญา จารวิจิต พี่ชายของนายบูม ที่ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินไปแล้วก่อนหน้านี้ ,นายธนสิทธิ์ จารวิจิต น้องของนายปริญญา ,นายชาคริส อาห์มัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เอ็กเปย์ จำกัด และ นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เจ้าพ่อตลาดหุ้นเมืองไทย

ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง เป็นกลุ่มที่จะต้องเรียกมาสอบปากคำก่อน คือ พ่อแม่ของนายบูม ที่รับโอนเงินเข้าบัญชี 90 ล้านบาท ให้เข้ามาให้ปากคำในวันที่ 27 ส.ค.นี้ และนายธรรมนัส อดีตทหาร ที่รับโอนหุ้นจากพี่ชายบูม ซึ่งจะต้องเรียกเข้ามาสอบปากคำในวันที่ 28 ส.ค.นี้

ขณะที่ตำรวจได้รับการประสานจาก นายธนสิทธิ์ จารวิจิต พี่ชายคนรองของนายบูม ว่าจะรีบเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาโดยเร็วที่สุด แต่ขอเตรียมเอกสารรวบรวมพยานหลักฐาน โดยขณะนี้กำลังพยายามเกลี้ยกล่อมให้นายปริญญา พี่ชายคนโต ที่ถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันฟอกเงินให้เข้ามอบตัวพร้อมกัน และกลับมาเคลียร์ปัญญาครอบครัวที่เกิดขึ้น เพราะคดีนี้ทำให้พ่อแม่รู้สึกเครียดและจนล้มป่วย

ด้านพันตำรวจเอกชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม ยืนยันว่าไม่ได้รับติดต่อจากนายปริญญาแต่อย่างใด แต่ส่งข้อความมาทางไลน์ ซึ่งใช้ไม่ได้ จะต้องเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook