"เบลล์ นิภาดา" ทิ้งชีวิต ม.ปลาย มาขายลูกคอ มั่นใจเลือกถูกแล้ว

เบลล์ นิภาดา ที่แจ้งเกิดกับการเป็นนักร้องเต็มตัวกับ เพลง "ให้เคอรี่มาส่งได้บ่" ที่เพิ่งปล่อยเพลงแชทในป่าช้า ออกมาเป็นผลงานล่าสุดต่อจาก เพลง "กล่องของขวัญ" ขับร้องร่วมกับ ต่าย อรทัย ศิลปินไอดอลในดวงใจ เปิดเผยกับ Sanook.com ว่า หลังจาก Grammy Gold ค่ายเพลงลูกทุ่งชั้นนำโอบกอดเข้ามาเป็นศิลปินในสังกัด ได้ลาออกจากโรงเรียนกลางคัน ขณะกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

เบลล์ ในวัย 18 ปี บอกต่อว่า เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจทิ้งชีวิต ม.ปลาย เพราะอยากมาเอาดีกับการเป็นนักร้อง เดินสายขายลูกคอหารายได้ดูแลครอบครัวได้อย่างเต็มที่

"หนูอยากเป็นนักร้องอาชีพ ตั้งแต่ได้เป็นตัวแทนโรงเรียนประกวดร้องเพลงในระดับประถมศึกษา พอมาเรียนมัธยมฯ ก็เป็นนักร้องประจำวงโปงลางโรงเรียน ขยันทำคลิปคัฟเวอร์เพลงลงโซเชียล โชคดีที่ Grammy Gold อ้าแขนรับมาเป็นศิลปินในสังกัด"

นักร้องคลื่นลูกใหม่ ชาว อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เล่าโมเมนต์หลังจากตัดสินใจทิ้งชีวิต ม.ปลาย ช่วงแรกๆ มีผู้ใหญ่ทักท้วงเหมือนกันว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่ก็ได้อธิบายให้เข้าใจ ด้วยครอบครัวยากจน เมื่อมีโอกาสได้เดินตามฝัน จำเป็นต้องเลือกทำงานก่อน อีกทั้งการตัดสินใจทิ้งชีวิต ม.ปลาย ไม่ได้หมายความว่าทิ้งการเรียน เธอได้สมัครเรียน กศน. ควบคู่กันไปด้วย

"เมื่อมีโอกาสดีๆ ก็ต้องคว้าไว้ ครอบครัวหนูยากจน เดิมทีพ่อแม่ทำนา พอผลผลิตทางการเกษตรไม่ค่อยดี ก็หันมารับจ้างทำรางน้ำ เร่ไปเสนอทำรางน้ำทั่วภาคอีสาน พ่อแม่ก็เอาหนูติดรถกระบะเก่าๆ ไม่มีแอร์ไปด้วยตั้งแต่อายุได้ 1-2 ขวบ วันไหนไม่ได้งานก็ต้องคิดแล้วว่าทางที่จะผ่านไปมีบ้านญาติคนไหนบ้าง เพื่อไปขอข้าวเขากิน และก็อาศัยนอนตามปั๊มน้ำมัน วัด ถ้าเขาไม่ให้นอนก็อาศัยจอดรถนอนข้างถนน เลือกทำเลที่ไม่เปลี่ยว"

"ตอนเรียน จบ ป.6 ไปสอบเข้า ม.1 ที่บ้านไม่มีเงินเลย พ่อก็ไปยืมญาติมาให้เป็นค่ารถเดินทางไปโรงเรียนซึ่งอยู่ห่างจากบ้าน 13 กิโลฯ หนูรู้สึกสงสารท่านมากที่ยังต้องทำงานหนัก คิดตั้งแต่ตอนนั้นว่าอยากทำงานหาเงินเลี้ยงพ่อแม่ให้ได้เร็วๆ ท่านอายุมากแล้วอยากให้ท่านได้พัก หนูเป็นลูกหลงห่างจากพี่สาวเป็นสิบปี พ่ออายุเกือบจะ 60 ปี แม่อายุกว่า 50 ปี"

อย่างไรก็ตามมา เบลล์ มั่นใจว่า เธอตัดสินใจถูกแล้ว เพราะมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน และภูมิใจหลังจากประสบความสำเร็จเพลงให้เคอรี่มาส่งได้บ่ มีคอนเสิร์ต มีเพลงออกมาต่อเนื่อง มีรายได้นำมาปลดหนี้ก้อนโตให้พ่อแม่ วันนี้พ่อแม่ไม่ต้องตรากตรำทำงานหนักเมือนที่ผ่านมา ฐานะของครอบครัวก็ดีขึ้น

"หนูก็มีเป้าหมายชัดเจนคือ อยากประกอบอาชีพนักร้อง เมื่อได้รับโอกาสก็พยายามหาทางออกให้เอื้อกันมากที่ ถึงแม้ไม่ได้เรียน ม.4 ม.5 ม.6 เหมือนเพื่อน แต่สิ่งที่ได้รับคือประสบการณ์ใหม่ๆ เวลาทำงาน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นต้นทุนเรา ยังไงก็ต้องทำงานในสายอาชีพนี้อยู่แล้ว"

"เหมือนหนูย้ายโรงเรียนนอกจากมาเรียน กศน. ก็ยังมาเรียนที่แกรมมี่ด้วย ซึ่งเปรียบเสมือนสถาบันชั้นนำของวงการบันเทิง ที่ผลิตศิลปินผลิตความบันเทิงออกสร้างความสุขให้กับผู้คน เป็นสถาบันสอนทักษะ และประสบการณ์ ตรงตามอาชีพที่เราตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งหนูโชคดีที่ได้รับโอกาสนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย"