“อาทิตย์อับแสง” “เทวาพาคู่ฝัน” เพลงพระราชนิพนธ์หวานซึ้ง จากในหลวง ร.9 ถึงพระราชินี | Sanook Music

“อาทิตย์อับแสง” “เทวาพาคู่ฝัน” เพลงพระราชนิพนธ์หวานซึ้ง จากในหลวง ร.9 ถึงพระราชินี

“อาทิตย์อับแสง” “เทวาพาคู่ฝัน” เพลงพระราชนิพนธ์หวานซึ้ง จากในหลวง ร.9 ถึงพระราชินี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อาจไม่ได้ถูกเปิดเผยมากนัก นอกไปจากเสียว่าประชาชนชาวไทยหลายคนทราบว่า ทั้งสองเริ่มชอบพอกันตั้งแต่ที่พระองค์ทั้งคู่พบกันที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส และหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร (ในขณะนั้น) ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าเยี่ยมพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 จากอุบัติเหตุรถยนต์เป็นประจำจนกระทั่งหายจากอาการประชวร อันเป็นเหตุที่ทำให้ทั้งสองพระองค์มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แต่จะมีใครทราบบ้างหรือไม่ว่า ในหลายๆ เพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เกี่ยวกับความรักนั้น ได้รับแรงบันดาลพระทัยจากองค์ราชินีของพวกเรานั่นเอง

 

 

ในระหว่างที่ทั้งสองพระองค์กำลังชอบพอกันอยู่ มีเหตุให้ทั้งสองพระองค์ต้องห่างไกลกัน เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจำประทับตากอากาศที่เมืองดาฟอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากรนั้นพำนักอยู่ที่เมืองโลซานน์ จึงทรงประพันธ์ทำนองเพลง “อาทิตย์อับแสง” (Blue Moon) และ “เทวาพาคู่ฝัน” (Dream of Love Dream of You) ขึ้น แล้วโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย จากบันทึกส่วนพระองค์ ที่บันทึกไว้ว่า ยามที่พระองค์ต้องจากกันก็เหมือน “อาทิตย์อับแสง” และในพระราชหฤทัยนั้นหวังอยากให้ “เทวาพาคู่ฝัน” มาให้

เพลงพระราชนิพนธ์ “อาทิตย์อับแสง” นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ทรงใช้ฮาร์โมนิก ไมเนอร์สเกล (harmonic minor scale) อันเป็นสเกลเสียงที่แสดงถึงความหม่นหมอง เศร้าสร้อย คล้ายสำเนียงเพลงบลูส์ แม้ว่าสเกลนี้จะมีอารมณ์เพลงคล้ายบลูส์สเกล แต่จะแตกต่างตรงมีความละเมียดละไม นุ่มนวลกว่า ไม่รู้สึกแปร่งหู ดังนั้นแม้ว่าเพลงนี้จะถูกนำไปเรียบเรียงให้เข้ากับจังหวะลีลาศ แต่จะยังคงได้ความรู้สึกที่อ้างว้าง เดียวดาย และเศร้าสร้อย

เนื้อร้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีความหมายใกล้เคียงกัน โดยกล่าวถึงความรักเปรียบเทียบกับธรรมชาติ ยามที่ได้อยู่เคียงคู่กัน ท้องฟ้าดูสดใส ยามไกลกันดังอาทิตย์อับแสง แต่ก็แฝงความหวังไว้ในตอนท้าย ดังที่มีรับสั่งเอาไว้ว่า ในเพลงพระราชนิพนธ์ทุกเพลง ต้องทิ้งท้ายไว้ด้วยความหวังให้กับชีวิตที่ว่า 

“จวบจนทิวาเรืองงาม สบความรักยามคืนคง”
“Again the sun will shine. That day I’ll make you mine”

 


เพลงพระราชนิพนธ์ "เทวาพาคู่ฝัน" เป็นเพลงจังหวะวอลทซ์ ปกติแล้วเพลงพระราชนิพนธ์ก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่มีความยาวประมาณ 32 ห้อง แต่ก็น้อยกว่าเพลง "เทวาพาคู่ฝัน" ซึ่งมีความยาวถึง 96 ห้อง เหตุที่เพลงนี้ยาวก็เพราะมีลักษณะเป็นเพลงประเภทพรรณนาเนื้อหา ซึ่งอาจจะเทียบได้กับเพลงแนวบัลลาด (Ballad) ของดนตรีตะวันตก แนวเพลงนี้นิยมกันมากในการบรรเลงเพลงประเภทแจ๊สมาตรฐาน อันเป็นแบบอย่างของดนตรีแจ๊สที่เปิดโอกาสให้นักร้องสามารถแสดงอารมณ์ และความรู้สึกไปตามเนื้อร้องและทำนองเพลง และยังได้แสดงความสามารถในการใช้เสียงในเทคนิควิธีเฉพาะตัว และปฏิภาณไหวพริบในการจัดกลุ่มคำร้อง (Phrasing) อีกด้วย

เนื้อร้องภาษาไทยพรรณนาถึงความงามของธรรมชาติโดยโยงเข้ากับความรักที่ “ย้อมชีวิตให้ยืนยง” และความเปล่าเปลี่ยวที่ต้อง “อยู่เดียว” แต่ในตอนท้ายยังมีความหวังที่จะ “พบความรักดังใจมั่น เหมือนเดือนตะวันกลางหล้า” 

ส่วนเนื้อร้องภาษาอังกฤษรำพึงรำพันถึงคนรักที่อยู่ห่างไกล แม้จะเป็นความอ้างว้างแต่ก็มีความสุขจากความฝันและจินตนาการ อารมณ์เพลงจากเนื้อร้องภาษาอังกฤษจึงดูเบาสบาย และโปร่งอารมณ์กว่าในภาษาไทย

 

ในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2492 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 และหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ทรงร่วมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดของหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงลอนดอน หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ทรงขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ “Blue Day” และเพลง “Dream of Love Dream of You” หลังพระกระยาหารค่ำ ก่อนที่ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 จะพระราชทานพระธำมรงค์หมั้นในวันนั้น

 

____________________

 

อาทิตย์อับแสง (คลิกเพื่อฟังเพลง)

ขับร้องโดย อรวี สัจจานนท์

 

ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช

คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ

 

 

เคยชม 

ร่วมภิรมย์ใจ

ด้วยความรักจริงยิ่งใหญ่

ผูกพันหัวใจเรามั่น 

รักเอย เคยอยู่เคียงกัน

ร่มเย็นมิเว้นวายวัน

ด้วยความสัมพันธ์ยืนยง 

 

ทิวางาม 

ยามอยู่เคียงคง

สุริยาแสงส่ง

ปวงชีวิตในโลกดำรงเริงใจ 

ร้างกัน วันห่างไปไกล

มืดมนหมองมัวปานใด

เยือกเย็นเข็ญใจรัญจวน 

 

ไกลกัน

พาพรั่นใจครวญ

ร่างกายทรุดโทรมทุกส่วน

จิตใจร้อนรวนแรงอ่อน 

รักเอย เลยกลับอาวรณ์

ค่ำคืนฝืนใจไปนอน

ยิ่งดูเหมือนฟอนไฟลน

 

ทิวาทราม

ยามห่างดวงกมล

สุริยาหมองหม่น

ปวงชีวิตในโลกอับจนเสื่อมทราม 

หวังคอย คอยเฝ้าโมงยาม

จวบจนทิวาเรืองงาม

สบความรักยามคืนคง 

 

 

____________________

 

 

Blue Day

 

Music: H.M.K. Bhumibol Adulyadej

Lyric: H.H. Prince Chakrabandh Pensiri 

 

 

Blue day 

There’s no sunshine 

Why must you go away, 

Leaving me here alone

 

My own,

How I miss you 

With loving heart so true

That’s why I feel so blue 

 

Dear one,

What’s the good of

Days without the sun, 

Or peaceful nights 

Without the moon? 

 

But soon

No more blue day

Whenever I meet you 

Then all my dreams come true. 

 

Blue day

Gloomy blue day,

When you are far away,

Why must we be apart?

 

Sweetheart,

Dear, I love you

With all my heart, I do.

That’s why I feel so blue

 

My love,

Skies are so grey,

Cloudy up above,

Dear won’t you please

Come back to me?

 

There’II be

No more blue day.

Again the sun will shine.

That day I’ll make you mine.

 

 

____________________

 

 

เทวาพาคู่ฝัน (คลิกเพื่อฟังเพลง)

ขับร้องโดย สวลี ผกาพันธุ์

 

ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช

คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ

 

 

ช่างงามทัศน์ทิวเขตคามงดงามน่าดู

ทั้งมวลล้วนมีเป็นคู่ชิดชูเชยชมรมย์รื่น

แต่ฉันดวงใจผูกพันใฝ่ฝันทุกคืน

เฝ้าปองเคียงครองคู่ชื่นให้รื่นเริงใจ

โลกนั้นดังเมืองสวรรค์เทวัญสร้างไว้

พิศดูเป็นคู่ทุกสิ่งล้วนมีรักจริงยิ่งใหญ่

อันธรรมชาติไซร้ใช้แรงความรักความใคร่

ย้อมชีวิตให้ยืนยง

อยู่เดียวเปลี่ยวใจหทัยใฝ่ฝัน

เดชกามเทพพันผูกใจให้หลง

แม้เคยทำคุณบุญส่ง

ฟ้าคงปรานีดีอยู่

โปรดจงประทานความเอ็นดู

ให้มียอดชู้เป็นคู่ชูใจ

จวบวันทิวาเฉิดฉันตะวันสดใส

ฟ้าดลบันดาลรักให้สมดังดวงใจมุ่งมั่น

เฝ้าวอนพระทรงเสกพรไหว้วอนทุกวัน

โศกทรวงดวงใจอัดอั้นตื้นตันอุรา

จวบวันราตรีเฉิดฉันดวงจันทร์แจ่มฟ้า

พบความรักดังใจมั่นเหมือนเดือนตะวันกลางหล้า

สมพรจากฟ้าพระทรงประทานปวงข้า

ชีวิตในหล้ายืนยง

 

 

____________________

 

 

 

Dream of Love Dream of You

 

Music: H.M.K. Bhumibol Adulyadej

Lyric: H.H. Prince Chakrabandh Pensiri

 

 

Each day, I dream of love, I dream of you.

You're like an angel dear, 

For heaven sends you here. 

With joy, I feel your kiss, 

Your lovelight gleams. 

But then, I find each bliss, 

Only in dreams. 

Each night, I yearn for love, I long for you

You bring me ecstasy

Now you're for saking me. 

So heaven, please

Please don't let me just dream

Please make my dream come true. 

In Wonderland of love with you. 

The rainbow gleams and roses bloom. 

You are the lovely bride

And I, the happy groom. 

But the wonderland of love

Is just a dream of love for you. 

Each day, I dream of love, I dream of you. 

Your eyes are heaven's bless; 

Your smile brings happiness. 

I find a cosy room, 

A home for two

With roses all in bloom, and lovely you. 

In my kingdom of dreams, 

You are my queen

The joy is waking me; 

I'm lost in reverie. 

So heaven, please

Please don't let me just dream. 

Please make my dream come true. 

 

 

Sources : Wikipedia, แพรร่ำ Bloggang, "งานช่างของในหลวง" โดยมหาวิทยาลัยศิลปากรและ "ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์" โดยโรงเรียนจิตรลดา
Story : Jurairat N.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook