Daily View - บล.กสิกรไทย
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060

    Daily View - บล.กสิกรไทย

    2012-09-05T19:16:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ถือหุ้นลุ้นผลประชุม ECB   แนวโน้มตลาด: หุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปิดผันผวนโดยตลาดรอการประชุมของ ECB ซึ่งเราคาดว่าตลาดน่าจะได้รับปัจจัยบวก หาก ECB มีการออกมาตรการซื้อพันธบัตรและยุโรปมีความคืบหน้าในเรื่องการกำกับดูแลภาคธนาคารรวมถึงการจัดตั้งกองทุน ESM ซึ่งความชัดเจนและข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นข้างต้นจะออกมาในช่วง 6-12 ก.ย. เราคงมุมมองลุ้นตลาด sideway up ทั้งนี้ ผลจากการที่ไทยถูกต่างชาติOverweight มานาน จะทำให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้าเพิ่มเติมอยู่ในระดับจำกัด แต่ตลาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกตามตลาดต่างประเทศ ด้านปัจจัยในประเทศ กนง.มีมติ 3:2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3% ส่งผลดีต่อหุ้นเน้นการบริโภค ส่วนหุ้นเช่าซื้อไม่ได้ถูกขายทำกำไรอย่างที่เราคาด เนื่องจากคณะกรรมการค่าจ้างมีมติให้ ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท/วัน ใน 70 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีผลวันที่ 1 ม.ค. 56 และให้คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่ปี 2557-58 ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและส่งผลดีรวมถึงน่าจะทำให้มีแรงเข้าเก็งกำไรใน หุ้นเช่าซื้อ หุ้นบัตรเครดิต และหุ้นค้าปลีก (แต่ค้าปลีกจะมีประเด็นต้นทุนที่เพิ่มด้วย) กลยุทธ์การลงทุน: SET Index ยังอยู่ในกรอบ 1227-1243 ยังลุ้นข่าวดีจากยุโรปพาตลาดฟื้นตัวขึ้นสู่ 1250-1290 ซึ่งน่าใช้เป็นจังหวะลดพอร์ตบางส่วน กนง.คงดอกเบี้ยและลุ้นยุโรปอาจทำให้เกิดแรงซื้อกลับในกลุ่มธนาคารใหญ่ แต่ถ้านักลงทุนไม่อยากเสี่ยงหุ้นใหญ่ให้เน้นหุ้นกึ่ง defensive (ไฟฟ้าลุ้นค่า Ft, สาธารณูปโภค)หรือหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีประเด็นบวกแทน หุ้นแนะนำ SC MINT BECL สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: เมื่อ 15 มิ.ย. เราเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก 10% เป็น 60% และยังเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสมได้แก่ TICON TCAP KK TISCO EGCO RATCH PS AP SIRI QH PF PTTGC PTT KTB NMG RS   หุ้นแนะนำวันนี้ - SC (ปิด 15.70 เป้าระยะสั้น 16.70 ขายเมื่อหลุด 14.60) เตรียมเปิดโครงการใหม่ 5 แห่ง 3Q55 และอีก 5 แห่งใน 4Q55 + กำไร 2H55 จะเร่งตัวขึ้นจากการโอนคอนโด 3 โครงการ 1.8 พันล้านบาท ใน 4Q55 + SAA Concensus มองราคาปัจจุบันที่เพียง 7.5x PER และให้ปันผลถึง 5.3% - MINT (ปิด 15.40 เป้าระยะสั้น 16.40 ขายเมื่อหลุด 14.60) การปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท อีก 70 จังหวัด ตั้งแต่ 1 ม.ค.56 ส่งผลดีต่อธุรกิจอาหาร + ผลการดำเนินงานกำลังเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่ในช่วง 3Q55-1Q56 การเข้าซื้อกิจการรายได้ต่างประเทศขึ้นเป็น 40% จาก 25% ในปัจจุบัน + มีโอกาสปรับประมาณการเพิ่มจากดีลเทคโอเวอร์ซึ่งจะแล้วเสร็จทันในปีนี้ อย่างน้อย 1 แห่ง - BECL (ปิด 29.00 เป้าระยะสั้น 31.00 ขายเมื่อหลุด 27.50) ครม.อนุมัติเส้นทาง”ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก”อย่างเป็นทางการ ระยะเวลา 30 ปี + จำนวนรถที่เพิ่มจากโครงการรถคันแรกหนุนปริมาณการใช้ทางด่วน + จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.62 บาท XD 17 ก.ย. - หุ้นเช่าซื้อ (เก็งกนง.ลดดอกเบี้ย 5 ก.ย.) THANI ASK GL - หุ้นไป Opportunity day 6 ก.ย. DRT GUNKUL ROBINS QTC UAC - หุ้นกลุ่มยานยนต์ STANLY AH LHK IHL TKT - หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง STEC CK ITD /โรงแรม MINT ERW CENTEL - ทยอยสะสม Commodity: PTTGC IVL TOP SCC/ LANNA KSL KBS   Today’s Best Trades   ประเด็นการลงทุนหุ้น Today’s Best Trades HOLD TICON ราคาหุ้นในปัจจุบันเป็นโอกาสซื้อที่ดี + ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 พลิกกลับมามีกำไรจากการขายโรงงานเข้ากองทุนอสังหาสริมทรัพย์ และไตรมาส 2 จะเร่งตัวขึ้นมาก + ราคาปัจจุบัน 6.6x PER ถูกสุดกลุ่มนิคม + ผลตอบแทนเงินปันผล 9.6% สงสดในกล่มนิคม + ห้นมีโอกาสถก concensus ปรับประมาณการขึ้น KSL เข้าสู่ช่วง high season ผลประกอบการไตรมาส 2 (ก.พ.-เม.ย.55) + ก.ค.เป็นเดือนที่ราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-8% ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา + แม้ราคาส่งออกน้ำตาลลดลง 5% QoQ แต่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 25% QoQ และ 30% YoY กำไรจึงมีแนวโน้มดีขึ้น + ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER 10.2 เท่า ให้ผลตอบแทนปันผล 4.1% (concensus) CENTEL ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรขึ้น 15% และ 14% ในปี 2555 และ 2556 + นักท่องเที่ยวต่างชาติ 5M55 เพิ่มขึ้น 7% YoY นักท่องเที่ยวจากเอเชียชดเชยจากยุโรปที่ลดลง + ไตรมาส 2/55 อัตราการเข้าพักสูงถึง 65% (+7% YoY) รายได้ QH กระแสกังวล่ คอน่ โดชะลอทำให้มีแรง switching มายัง QH ที่มีสัดส่วนโครงการแนวราบสูง + คาดกำไรปี 2555  เพิ่มขึ้น 67% YoY + ราคายังถูก PER เพียง 6.1x และมี yield ถึง 8.4% + เตรียมขาย 3 อสังหาริมทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาฯ ไตรมาส 3 SCC สเปรดปิโตรเคมีผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและน่าจะดีขึ้นชัดเจนใน 2H55 + ธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐ + ปันผลระหว่างกาล 4.50 บาท (XD 9 ส.ค.) AAV ผลประกอบการผ่าน soft season ไตรมาส 2 อย่างแข็งแกร่ง คาด low season ไตรมาส 3 ดีกว่าปกติ และเริ่มเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่ (4Q55-1Q56) + การย้ายฐานมายังดอนเมืองช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไร + แผนเพิ่มฝูงบินจาก 24 เป็น 48 ลำใน 5 ปี คาดช่วยรักษาการเติบโตของรายได้ที่ปีละ 20-25% ได้ PTTEP ราคาสะท้อนผลประกอบการ 2Q55 ที่ย่ำแย่แล้ว + ราคาที่ Underperform หุ้นอื่นมานานเพราะกังวลเพิ่มทุน ช่วยจำกัด downside risk + โอกาสซื้อลงทุนที่ดี โดยไม่ต้องกังวลราคาน้ำมัน 3Q55 อ่อนตัว SOLAR ธุรกิจ Turnaround กำไรเริ่มมีเสถียรภาพ + ชนะประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์แห่งที่ 4 ของ BCP ขนาด25MW ที่อยุธยามูลค่า 620 ล้านบาท แล้วเสร็จ ม.ค.56 + ราคาปัจจุบันยังต่ำมูลค่าทางบัญชีที่ 2.44 บาท/หุ้น + การเปิดอนญาต/ประมลพลังงานแสงอาทิตย์รอบใหม่เป็นบวกกับธรกิจ   ปัจจัยที่ต้องติดตาม - 06 ก.ย. EU: Euro-Zone GDP - 06 ก.ย. EU: ECB Announces Interest Rates - 06 ก.ย. US: ADP Employment Report - 06 ก.ย. US: Jobless Claims - 06 ก.ย. US: ISM Non-Mfg Index - 07 ก.ย. US: Employment Situation - 09 ก.ย. China: Consumer Price Index - 09 ก.ย. China: Industrial Production - 09 ก.ย. China: Retail Sales - 10 ก.ย. China: Trade Balance - 11 ก.ย. US: International Trade - 12 ก.ย. EU: Euro-Zone Industrial Production - 12 ก.ย. US: Import and Export Prices - 13 ก.ย. US: Jobless Claims - 13 ก.ย. US: Producer Price Index - 13 ก.ย. US: FOMC Meeting Announcement - 14 ก.ย. EU: Euro-Zone CPI - 14 ก.ย. US: Consumer Price Index - 14 ก.ย. US: Retail Sales - 14 ก.ย. US: Industrial Production - 14 ก.ย. US: Consumer Sentiment   บทวิเคราะห์วันนี้ - เศรษฐกิจ: ตัวเลขส่งออกไปจีน ก.ค.55 หดตัวครั้งแรกในรอบปี แต่คาดทั้งปีโต 6-10% - ส่งออกไทยไปจีน ก.ค.55 หดตัว -7.5%YoY ครั้งแรกในรอบปี เนื่องจากฐานเปรียบเทียบในปีก่อนหน้าที่ค่อนข้างสูง ขณะที่การส่งออกไทยไปจีนในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2555 ยังคงเติบโต +5.1%YoY แต่ต่ำกว่าระดับที่เคยคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของการส่งออกของไทยไปจีนในปี 2555 ลงมาเหลือเพียง +6-10% จากเดิมที่ +10-15% (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประมาณการอัตราการเติบโตของการส่งออกไทยปี 2555 เติบโต +7.0%) ทั้งนี้ KS มองว่ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ยางพาราและเคมีภัณฑ์ อาจได้รับแรงกดดันในระยะสั้น หลังจากรายงานยอดส่งออกไปจีนหดตัวลงในเดือนก.ค.55 อย่างไรก็ตาม KS ยังคงเชื่อว่า กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (+KCE, +DELTA,+HANA) และกลุ่มเคมีภัณฑ์ (+PTTGC, +IVL) มีความน่าสนใจในการลงทุน เนื่องจากคาดว่าธนาคารกลางจีนจะผ่อนคลายการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตขา งหน้านี้ ซึ่งน่าจะกระตุ้นให้อุปสงค์ในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเคมีภัณฑ์ของจีนฟื้นตัวกลับขึ้นมาในช่วง 4Q55 - IRPC (ซื้อ ปิด 3.78 พื้นฐาน 4.60 +31.7%) ปรับลดมูลค่าปัจจัยพื้นฐาน แต่คง   คำแนะนำซื้อ - ปรับลดมูลค่าปัจจัยพื้นฐาน แต่คงคำแนะนำซื้อ IRPC เป็นหุ้นที่เราเนะนำซื้อ แต่ราคาหุ้นอ่อนตัวมากที่สุดของกลุ่มในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา โดยผลประกอบการที่น่าผิดหวังใน 1H55 ส่งผลให้กำไรฟื้นตัวล่าช้า ขณะที่ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจระดับมหภาคและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพิ่มแรงกดดันต่อ sentiment เราจึงปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้น (ปรับลด 36%,16% และ 20% ในปี 2555-57 เพื่อสะท้อนความล่าช้าในการเปิดดำเนินงานโครงการ ประมาณการโพรพีนที่ระมัดระวังมากขึ้นและค่าใช้จ่ายพิเศษต่าง ๆ) และราคาเป้าหมายของ IRPC (จาก5.2 บาท เป็น 4.6 บาท) แต่ยังคงมองว่า IRPC ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่า รวมถึงเรายังคงมองว่าIRPC เป็นสินทรัพย์ปิโตรเคมีปลายน้ำชั้นดีในประเทศไทยจากการประเมินทำเลที่ตั้งความสามารถในการเพิ่มศักยภาพและการขยายกำลังการผลิต นอกจากนี้ เรายังมองว่า IRPC เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับการเป็นคลังเก็บน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ของประเทศ และยังเป็นตัวเลือกในการควบรวมกิจการภายในกลุ่มปตท. ในระยะยาว คงคำแนะนำซื้อ - สาเหตุผลกำไรอ่อนตัวใน 1H55 นอกจาก IRPC จะรายงานกำไรต่ำกว่าคาดใน 1H55 เราเห็นปัจจัยลบที่เป็นสาเหตุให้กำไรของบริษัทอ่อนตัวลงเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วยขาดทุนจากการทำสัญญา hedging คดีความกับ supplier รวมถึงขาดทุนจากเงินลงทุนและอัตรา แลกเปลี่ยน นอกจากนี้ IRPC ยังมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร อีกทั้งมีผลกำไรไม่สม่ำเสมอซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน - ความล่าช้าของโครงการ IRPC เลื่อนกำหนดการของโครงการโพรพีลีน กำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปีจากเดิมในเดือนพฤษภาคมเป็นเดือนกันยายน โดยโครงการนี้คาดจะมีส่วนแบ่ง EBIT สูงถึง 25 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี นอกจากนี้ ประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับจากโครงการโรงไฟฟ้าที่ก่อสร้างเสร็จใน 1H54 ยังเห็นได้ไม่ชัดเจนในช่วงที่ผลกำไรผันผวน - แนวโน้มค่าการกลั่น และราคาโอเลฟิน ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3Q55 ขณะที่มาร์จินของโอเลฟินอยู่ภายใต้แรงกดดัน อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าค่าการกลั่นในเอเชียจะลดลง YoY แต่จะยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ส่วนสเปรดผลิตภัณฑ์โอเลฟินประเภทหลักจะทยอย เพิ่มสูงขึ้นจากจุดต่ำสุดในปัจจุบัน - ปัจจัยผลักดันยังคงเป็นเงินลงทุน ผู้บริหารของ IRPC ให้แนวทางว่าส่วนแบ่ง EBIT จากเงินลงทุนใน 2H54-2555 จะอยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านบาท ขณะที่เรามองว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเป็น600-1,000 ล้านบาทภายในปี 2556 โดยในระยะกลาง เราเห็น upside จากโรงไฟฟ้า SPP 2 โครงการ (2 x 110MW) รวมถึงการขยายท่าเรือและการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม   ข่าวที่มีผลกระทบต่อตลาด   ข่าวบริษัท - กลุ่มโรงพยาบาล : ราคาหุ้นที่ปรับตัวแรงคาดมาจากงบไตรมาสสามที่น่าจะออกมาดี,BGH (ซื้อ ปิด 108 พื้นฐาน 114 +5.55%), BH (ขาย ปิด 81.5 พื้นฐาน 69 -15.34%), BCH (ถือ ปิด 9.55 พื้นฐาน 10 +4.7%) - แนะนำซื้อ BGH เราชอบ BGH มากที่สุดในกลุ่ม และแนะนำซื้อ โดยเราแนะนำขายสำหรับ BHและแนะนำถือ BCH โดยสำหรับ PE regional peer ของกลุ่มโรงพยาบาลซื้อขายที่ 27.5 เท่า ปี 56โดยถ้ามองราคาหุ้นทั้งสามตัวซื้อขายที่ PE ระดับเดียวกันจะได้ราคาเหมาะสมสำหรับ BGH ที่ 123 บาท และ BH ที่ 77 บาท สำหรับ BCH จะได้ที่ 12 บาท (ซึ่งเรามองว่า BCH ไม่เหมาะสมที่จะได้ราคาเท่านี้เนื่องจากยังมีขนาดเล็กและการโตของกำไรยังค่อนข้างต่ำ) - คาดราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มจากการคาดการณ์ผลประกอบการ 3Q55 จากราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเมื่อวานนี้ที่ปรับขึ้นมาแรง (BGH +1%, BH, BCH +5%) เราได้สอบถามคาดว่าไม่มีประเด็นข่าวใหม่ แต่น่าจะเป็นการเก็งกำไรผลประกอบการ 3Q55 ที่คาดจะออกมาดี เนื่องจากเป็น ช่วง high season ของกลุ่มโรงพยาบาล สำหรับคาดการณ์กำไร 3Q55 ของเราคาด BH จะโตสูงสุด165% YoY แต่ถ้าไม่รวมกำไรพิเศษจากการขาย BCH จะโต 37% YoY สำหรับ BGH คาดกำไร 3Q55 โต 49% YoY สำหรับ BCH คาดโต 30% YoY - คาดกำไร 4Q55 BGH โตสูงสุด สำหรับกำไร 4Q55 คาด BGH โตสูงสุดที่ +43% YoY สำหรับ BH คาด +19% (BH ไม่มีส่วนแบ่งกำไรจาก BCH อีกต่อไป) และ BCH คาดกำไร +8% YoY (มีขาดทุนจาก WMC)   สรุปภาวะตลาด - DJIA ปิด 13,047.48 จุด +11.54 จุด (+0.09%) S&P500 ปิด 1,403.44 จุด -1.50 จุด (-0.11%) Nasdaq ปิด 3,069.27 จุด -5.79 จุด (-0.19%) ดัชนีส่วนใหญ่ของสหรัฐปรับตัวลงท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ผันผวน โดยดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ช่วงเย็นวันนี้ - NYMEX ส่งมอบ ต.ค. อยู่ที่ USD95.36/bbl +0.06(+0.1%) สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบ ธ.ค. อยู่ที่ USD1,694.0/ounce -2.0(-0.12%) สัญญาราคาสินค้าโภคภัณฑ์เคลื่อนไหวอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเพื่อรอดูผลการประชุมของ ECB ช่วงเย็นวันนี้     สรุปข่าวประจำวัน   ต่างประเทศ - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สองของประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้นเกินคาด 2.2% และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 1.5% ในไตรมาส 2/55 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ประสิทธิภาพการผลิตจะเพิ่มขึ้น 1.8% ในไตรมาส 2/55 หลังเพิ่มขึ้น 1.6% ในการประมาณการครั้งแรก และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยจะเพิ่มขึ้น 1.5% ในไตรมาส 2/55 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในการประมาณการครั้งแรก (รอยเตอร์) - Markit รายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI Composite) ของยูโรโซนเดือนส.ค.55 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 46.3 จุด จากระดับ 46.5 จุด ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 46.6 จุด ขณะเดียวกันดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคบริการ (PMI Service) เดือนเดียวกันปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 47.2 จุด จาก 47.9 จุด ในเดือนก.ค.55 ทั้งนี้PMI ที่ระดับต่ำกว่า 50 จุด ถือเป็นสัญญาณการหดตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (Market Watch) - สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (Eurostat) รายงาน ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.55 ในยูโรโซนปรับตัวลง 0.2%MoM หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วง 2 เดือนติดต่อกัน และหากเทียบรายปียอดค้าปลีกร่วงลง 1.7%YoY ในเดือนก.ค.55 ทั้งนี้ ข้อมูลค้าปลีกของยูโรโซนในเดือนก.ค.55 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชะลอการจับจ่าย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความมั่นคงด้านหน้าที่การงาน (อินโฟเควสท์)   ข่าวบริษัท - JAS ลดทุนหุ้นซื้อคืน กำไรต่อหุ้นเพิ่ม1.5% งบ Q3 แจ่ม! ลูกค้าบรอดแบนด์ 1.1 ล้านราย JAS เตรียมนำหุ้นซื้อคืน 106.85 ล้านหุ้น มาลดทุนจดทะเบียนภายในสิ้นปีนี้ ส่งผลจำนวนหุ้น JAS เหลือ 7,137.75 ล้านหุ้น จากเดิม 7,244.25 ล้านหุ้น หรือประมาณ 1.5% แย้มงบไตร มาส 3 แจ่ม ไม่หวั่น 3 จีเกิด เหตุการใช้งานต่างกัน ระบุลูกค้าใหม่ไหลเข้าเดือนละ 3 หมื่นรายล่าสุดมีในมือแล้ว 1.1 ล้านราย (ข่าวหุ้น) - TRC เพิ่มรายได้ ปีนี้แตะ4พันล้าน มีแบ็กล็อกล้นมือ TRC ปรับเป้ารายได้ปีนี้เป็น 4,000 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 3,000 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้จากงานในมือที่มีอยู่ 4,400 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง 50% คาดได้งานใหม่ 1,000-1,500 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ ดันแบ็กล็อกสิ้นปีทะลุ 5,500 ล้านบาท (ข่าวหุ้น) - ITD คว้าสายสีแดงสัญญา2 เฉือนชนะCKเพียง448ล้าน \"ร.ฟ.ท.\" เปิดซองประกวดราคาสร้างรถไฟสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต สัญญา 2 \"อิตาเลียนไทย\" เสนอราคาต่ำสุดที่ 24,102 ล้าน บาท เฉือน \"ช.การช่าง\" ที่เสนอราคามา 24,550 ล้านบาท เพียง 448 ล้านบาท (ข่าวหุ้น) - IFS ปีนี้กำไรพุ่ง70% IFS ปีนี้โตกระฉูดกำไรพุ่ง 70% ยอดเก็บหนี้ลูกค้าสูง 2 หมื่นล้านบาทมากสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วน Q3 ไฮซีซัน (ข่าวหุ้น) - RS ตั้งTCC ดูแลลิขสิทธิ์ ย้ำใช้ลาลีกาเชิงพาณิชย์ ต้องจ่ายเงิน10,000บาท RS คุมเข้มละเมิดลิขสิทธิ์บอลเสปน พร้อมตั้ง TCC เข้าจัดการ ย้ำหากใช้เชิงพาณิชย์ต้องชำระค่าลิขสิทธิ์ 10,000 บาท (ข่าวหุ้น) - SGP ครึ่งปีหลังกำไรงาม ขานรับราคา LPG ขยับขึ้น Q3 พลิกโชว์กำไร SGP แย้มกำไรปี นี้ใกล้เคียง 994 ล้านบาท หลังราคา LPG ผันผวนมาก แม้ยอดขายสูง ส่วนครึ่งปีหลังยอดขาย-กำไรดีขึ้นตามแนวโน้มราคา LPG ตลาดโลกสูงขึ้น ด้านไตรมาส 3/55 พลิกเป็นกำไรจากไตร มาส 2/55 ขาดทุน 454 ล้านบาท เหตุไม่มีขาดทุนสต๊อก (ข่าวหุ้น) - HOTPOT ขายไอพีโอ 2.80บาท มั่นใจเทรดเอ็มเอไอ18กันยานี้ “ฮอท พอท” ขายหุ้นIPO 101.98 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.80 บาท ดิสเคาต์ 20% ระบุยอดความต้องการหลักทรัพย์สูงถึง 4 เท่า เปิดจองวันที่ 7 ก.ย.และวันที่ 10-11 ก.ย.พร้อมจ่อเทรดวันที่ 18 ก.ย.นี้ คาดนัก ลงทุนสนใจ มองปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ขยายสาขาต่อเนื่อง “สกุณา” มั่นใจปีนี้รายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 25-30% (ข่าวหุ้น) - MILL การันตีปีนี้กำไรนิวไฮ เดินเครื่อง\"กรีนมิลล์\" ดันกำไรขั้นต้นพุ่ง8-9% MILL ฟุ้งปีนี้กำไรทุบสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท หลังเดินเครื่องโครงการกรีนมิลล์ ดันกำไรขั้นต้นแตะ 8- 9% จากปีก่อน 4-5% ลั่นปีนี้รายได้เป้าเข้า 2 หมื่นล้านบาท แย้มไตรมาส 3/55 รายได้ ใกล้เคียงไตรมาส 2/55 ด้านราคาเหล็กครึ่งปีหลังส่งสัญญาณราคาผันผวน (ข่าวหุ้น) - NWR การันตีรายได้5พันล้าน แบ็กล็อกล้น 1.4 หมื่นล้าน บุ๊คครึ่งหลัง 2.78 พันล้าน NWR การันตีรายได้ปีนี้ 5,000 ล้านบาท หลังตุนงานในมือกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท จ่อบุ๊ครายได้ครึ่งปีหลังกว่า 2,782 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานเพิ่มอีก 25 โครงการ มูลค่ารวม 2.1 หมื่นล้านบาท คาดได้งานอย่างน้อย 5-10% (ข่าวหุ้น) - บ.ย่อย RATCHคว้างานใหม่ บำรุงรักษาโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 มูลค่า 460 ล้านบาท “ราช- ลาว เซอร์วิส” บริษัทย่อย RATCH รับงานบำรุงรักษาใหญ่โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 เป็นเวลา 7 ปี ตั้งแต่ปี 2555-2561 มูลค่าประมาณ 460 ล้านบาท ก่อนว่าจ้าง กฟผ.รับเหมาช่วงต่อ เพื่อรักษา ประสิทธิภาพสูงสุดในการผลิตไฟฟ้า เสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ (ข่าวหุ้น) - SKR ราศีจับ \"BGH\" จ่อเทกจุดดึงดูดพี/อี ต่ำ-ปันผลเร้าใจ ลือหึ่ง BGH จ่อเทกโอเวอร์ SKR แย้มซุ่มศึกษาเชิงข้อมูล เชื่อ 1-2 สัปดาห์รู้ผลหวังขึ้นแท่น Medical Hub ในประเทศไทย รับ AEC ด้าน \"วิชัย ทองแตง\" รับหากมีโอกาสและเหมาะสมเทกโอเวอร์ชัวร์ (ทันหุ้น) - GLOW ร้อนรับปรับค่า 'Ft' บุกลาวลงทุนโรงไฟฟ้า 2 พันล. GLOW ลุ้นวันนี้ขึ้นค่า Ft ผู้บริหาร \"สุทธิวงศ์ คงสิริ\" มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังฟื้นรับโครงการเก็คโค่-วัน เดินเครื่อง แย้มแผนลงทุนโรงไฟฟ้าในลาว 2 แห่ง มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท ขนาดกำลังผลิต 200 เมกะวัตต์ คาดปลายปีหน้าเดินเครื่อง ฟากโบรกประเมินหากขึ้น Ft 10 สตางค์ ดันรายได้เพิ่ม 400 ล้านบาท (ทันหุ้น) - BECL จ่อเซ็นทางด่วนศรีรัชยันรายได้โต 5% BECL จ่อเซ็นสัญญาก่อสร้างทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก มูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท คาดภายในเดือนกันยายนนี้ หลังครม.ไฟเขียวขณะที่ธุรกิจใน Q3/2555 เข้าไฮซีซันมั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 4-5% จากปีก่อนอยู่ที่ 7,660.46 ล้านบาท (ทันหุ้น) - PRIN ผลงานปีนี้ฟื้นตัวแรงเล็งยอดขาย-กำไรทะลุเป้า PRIN มั่นใจกำไรปี 2555 โตก้าวกระโดด ขณะที่ยอดขายคาดว่าทะลุเป้าที่ 3,200 ล้านบาทได้ไม่ยากเพราะมีงานในมือครึ่งปีหลังรอรับรู้รายได้อีก 1,700 ล้านบาท ช่วยหนุน พร้อมเล็งรับมีโอกาสปรับเพิ่มสัดส่วนคอนโดมิเนียม จากดีมานด์ตลาดที่ขยายตัวสูง (ทันหุ้น) - PREB ปีนี้รายได้เข้าเป้าประมูลงานใหม่ 6 พันล้าน PREB ฝันครึ่งปีหลังผลงานโตก้าวกระโดดหนุนทั้งปีรายได้เข้าเป้า 4 พันล้านบาท ตุนงานในมือ 5.1 พันล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมเริ่มทยอยรับรู้รายได้ บวกยังมีการประมูลงานใหม่ 5-6 พันล้านบาท คาดรู้ผลใน 1- 2 เดือนนี้ (ทันหุ้น)   ข่าวเศรษฐกิจ / อุตสาหกรรม - เสียงแตกคงดอกเบี้ย3% นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน และในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง. มีมติ 3 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3% เนื่องจากภาวะการเงินเริ่มที่ผ่อนปรนเพียงพอที่จะคอยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามกนง. ยังติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะยุโรปที่เข้าสู่ภาวะถดถอยและการจับจ่ายใช้สอยในประเทศอย่างใกล้ชิด และพร้อมดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมตามความจำเป็นทั้งนี้ ในการประชุมครั้งนี้มีกรรมการ 2 ท่าน ติดภารกิจในต่างประเทศจึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ (เดลินิวส์) - ประชานิยมพ่นพิษกดรายได้วูบคลังทำใจอาจหลุดเป้า3-4หมื่นล. คลังใจสั่น หลังประเมินแนวโน้มจัดเก็บรายได้ปีงบ 55 มีลุ้นหลุดเป้า 3-4 หมื่นล้านบาทสรรพสามิตอ่วมลดภาษีดีเซลรายได้หายปีละแสนล้าน ด้านสรรพากรหืดจับ ลดภาษีตามนโยบายรัฐ (ไทยโพสต์) - กลุ่ม ICT: กสทช.เคาะ16ต.ค.ประมูล3จี พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กทค. วันที่ 5 กันยายนมีมติกำหนดวันจัดประมูลใบอนุญาต 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จานวน 45 เมกะเฮิรตซ์เป็นวันที่ 16-18 ตุลาคม (มติชน) - กลุ่มพลังงาน: \"อารักษ์\" เล็งทบทวนราคาดีเซล ให้สะท้อนเศรษฐกิจจริง หลังใช้ลิตรละ 30 บาท อ้างอิงต้นทุนขนส่งมานาน นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า มีแนวคิดในการทบทวนการกำหนดราคาดีเซลที่เหมาะสม เพื่อให้สะท้อนอัตราการเติบโตทาง เศรษฐกิจมากขึ้น จากปัจจุบันที่ใช้ตัวเลขดีเซลลิตรละ 30 บาท เป็นราคาอ้างอิง เพื่อคำนวณต้นทุนสินค้าและขนส่งมาเป็นเวลานาน โดยจะเชิญนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ตลอดจนหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องมาร่วมให้ความเห็นซึ่งผลที่ออกมาอาจได้ตัวเลขที่ต่ำหรือมากกว่าลิตรละ 30 บาทก็ได้ (โพสต์ทูเดย์) - กลุ่มไฟฟ้า: เคาะค่าไฟวันนี้-ลุ้นไม่เกิน20สตางค์ต่อหน่วย นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 ก.ย.2555 คณะกรรมการพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) จะพิจารณาค่าเอฟทีสุดท้ายของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค. 2555) ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าต้นทุนค่าไฟพิจารณาจากราคาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันเตาย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ในระดับสูงบวกกับค่าเงินบาทอ่อนค่า ทำให้ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นพุ่งไปถึง 68 สตางค์/หน่วย อย่างไรก็ตาม กกพ. จะพิจารณาเกลี่ยต้นทุนดังกล่าวให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ ไทย (กฟผ.) ช่วยรับภาระแต่จะไม่เกิน 14,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับเอฟที งวดที่ผ่านมา (พ.ค.-ส.ค.2555) และจะให้ประชาชนรับภาระน้อยที่สุด หรือเรียกเก็บประมาณ 20 สตางค์/หน่วย ทั้งนี้เอฟทีงวดถัดไป (ม.ค.-เม.ย.2556) คาดว่าต้นทุนค่าเอฟทีจะลดลงมาก เพราะราคาพลังงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ในระดับต่ำ แต่จะต้องติดตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอีกครั้ง (ข่าวสด)   กิจพล ไพรไพศาลกิจ Kitpon.p@kasikornsecurities.com +662 696-0057 ปณิธิ จิตรีโภชน์ Paniti.j@kasikornsecurities.com, +662 696-0053   โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 6 ก.ย. 2555