ผู้เชี่ยวชาญเผย คาดการณ์ โควิด-19 “ระลอกสอง” ยาก เหตุเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/1638/8192238/000_1ts5h5.jpgผู้เชี่ยวชาญเผย คาดการณ์ โควิด-19 “ระลอกสอง” ยาก เหตุเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่

    ผู้เชี่ยวชาญเผย คาดการณ์ โควิด-19 “ระลอกสอง” ยาก เหตุเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่

    2020-06-23T11:37:58+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    นักระบาดวิทยาหลายคนเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา “ระลอกที่สอง” จะเกิดขึ้นหรือไม่ เกิดขึ้นเมื่อไร และจะรุนแรงกว่าการระบาดในรอบแรกหรือไม่ เนื่องจากพฤติกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา ต้นเหตุของโรคโควิด-19 นั้น เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และไม่เหมือนกับโรคติดเชื้ออื่นๆ ที่โลกเคยประสบมาในอดีต ทั้งนี้ กรณีที่เป็นไปได้สูงคือ คลื่นการระบาดลูกแรกจะกระเพื่อมขึ้นลง โดยมีตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตมากขึ้นและน้อยลงในแต่ละพื้นที่ จนกว่าประชากรโลกจะมีภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งเกิดจากวัคซีน

    อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากรูปแบบของโรคติดเชื้อในทางเดินหายใจในอดีต เช่น การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่เมื่อปี 1918 พบว่าการระบาดระลอกที่สองมักจะรุนแรงมากกว่าระลอกแรก

    คริสติน จอห์นสัน มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ศาสตราจารย์และนักวิจัยด้านระบาดวิทยา กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่มักจะเกิดขึ้นตามฤดูกาล แพร่กระจายในอากาศเย็นและแห้ง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่อยู่กันอย่างแออัดในพื้นที่ปิดในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ ไวรัสไข้หวัดใหญ่กลายพันธุ์ได้ง่าย แต่ละปีจะมีการค้นพบรูปแบบใหม่ๆ ของเชื้อไข้หวัดใหญ่ และการระบาดระลอกที่สองและสามในแต่ละช่วงเวลาจะเกิดจากสายพันธุ์ที่ต่างจากระลอกแรก

    จอห์นสันระบุว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ง่าย ดังนั้น ในฤดูร้อน ที่คนเราสามารถอยู่ในพื้นที่กลางแจ้งได้ ควรรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อลดการแพร่เชื้อ ส่วนในฤดูหนาว ที่คนมักจะอยู่แต่ในบ้าน ก็อาจจะทำให้เชื้อไวรัสสามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่ปิด การปิดโรงเรียนและธุรกิจต่างๆ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิสามารถแยกผู้คนออกจากกันได้ แต่การกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง ก็จะทำให้คนมารวมตัวกันเหมือนเดิม และจะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น

    อย่างไรก็ตาม เจนนิเฟอร์ ฮอร์นีย์ นักระบาดวิทยาภัยพิบัติและผู้อำนวยการโครงการระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยเดลาแวร์ กล่าวว่า การคาดการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่โดยใช้พื้นฐานจากความเสี่ยงของโรคอื่นๆ ในอดีตอาจจะไม่ถูกต้องนัก เนื่องจากโรคระบาดใหญ่อย่างไข้หวัดนก หรือ H1N1 เกิดขึ้นหลายระลอก ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและวิธีการแพร่เชื้อ และท้ายที่สุดแล้ว เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ก็มีรูปแบบพฤติกรรมของตัวเอง เพียงแต่มันเป็นไวรัสที่ค้นพบใหม่ และยังไม่มีข้อมูลว่าไวรัสชนิดนี้จะมีลักษณะอย่างไรกันแน่

    นอกจากนี้ ยังไม่มีข้อมูลว่าเชื้อไวรัสโคโรนาจะตอบสนองต่ออากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างไร และยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้จะมีพฤติกรรมการตอบสนองเหมือกับไข้หวัดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เชื้อไวรัสโคโรนาได้มีการกลายพันธุ์แล้ว แต่ไม่รวดเร็วและน่าตกใจเท่ากับไข้หวัดใหญ่

    จอห์นสันกล่าวว่า ก่อนที่ “คลื่นลูกที่สอง” จะเกิดขึ้น จำเป็นต้องมีการควบคุมคลื่นลูกแรกให้สำเร็จก่อน และจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต้องใกล้เคียงกับศูนย์เป็นเวลาหลายสัปดาห์ต่อเนื่องกัน

    ความจริงก็คือ เราไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แม้ว่าจะสามารถสร้างแบบจำลองการระบาดหรือการคาดการณ์ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างเกี่ยวกับโควิด-19 ที่เรายังไม่รู้ เนื่องจากโรคระบาดใหญ่อย่างโควิด-19 ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ใช้แนวทางอย่างการรักษาระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากาก และล้างมือบ่อยครั้งเพื่อจำกัดการระบาดของโรค

    ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ COVID-19 ได้ที่นี่

    ขอขอบคุณ

    ข้อมูล :Huffpost

    ภาพ :AFP