เรื่องโดย Localita

ดอกไม้บานสะพรั่งกลางไทม์สแควร์ในมหานครนิวยอร์คเพิ่งโรยราไปไม่กี่วัน พาเหรดแฟชั่นวีคก็เคลื่อนทัพสู่ยุโรปอีกครั้ง คราวนี้เราจะร่อนลงจอดกลางรันเวย์แห่งมหานครลอนดอน แดนดินถิ่นแฟชั่นที่ความขรึมคือมนต์ขลัง แต่พลังความบ้าดีเดือดของแฟชั่นที่นี่ก็ไม่คยเป็นสองรองใคร เพื่อเป็นการชาร์จไฟในตัวก่อนจะถึงมิลาน และปารีส เป็นสถานที่ปิดท้ายสำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนนี้

ดูเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นในลอนดอน แฟชั่นวีค จะฉีกแนวจากนิวยอร์คไปเสียสิ้น ขณะที่งานของดีไซเนอร์ทางฝั่งอเมริกันเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง แต่ที่ลอนดอน มันคือการระบายความเก็บกดของแนวคิดที่ถูกตีกรอบ แม้เอกลักษณ์ของงานฝั่งลอนดอนจะไม่เคยทอดทิ้งความเข้ม ขรึม หรูแบบหยิ่งๆ ที่เห็นได้ชัดเจนยิ่งในทุกๆ คอลเลคชั่นไฮสตรีท สไตล์ ของ เบอร์เบอร์รี (Burberry) แต่ด้วยความขบถในสายเลือด เราจึงเห็นพาเหรดคอลเลคชั่นที่ล้ำเกินคาดคิดของดีไซเนอร์หน้าใหม่ๆ ออกมาเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง ดังเช่นที่ผ่านมาทุกปี

อีกประเด็นหนึ่งที่แฟชั่นนิสต้ากำลังถกเถียง (ความจริงก็ถกเถียงกันมานาน แต่ไม่ค่อยมีใครเริ่มลงมือทำจริงจัง) คือความพยายามของดีไซเนอร์หัวก้าวหน้าบางกลุ่มที่ชอบ "คิดแล้วทำ" ดังตัวอย่างจากคอลเลคชั่นล่าสุดของดีไซเนอร์หนุ่ม มาร์ค ฟาสท์ ที่ทำตัวขานรับกระแส และปล่อยผลงานตอบโจทย์ทั้งสาวไซส์เอสและไซส์บวกไปพร้อมๆ กัน

ในขณะที่ความเพี้ยน หลุดโลก ชนิดเข้าขั้น ที่เลื่องลือมานานบนรันเวย์แห่งนี้ ก็ยังคงดำเนินต่อไป ส่วนผลงานของใครจะสร้างสรรค์ถูกตา-ถูกใจ แค่ไหน คงต้องใช้สายตาและหัวใจตัดสินกันเอาเอง

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Getty Images

แปลก-แตกต่าง คือทางของ London Fashion Week Spring/Summer 2010

แปลก-แตกต่าง คือทางของ London Fashion Week Spring/Summer 201011 / 38

Bora Aksu