คำถามก็คือ แล้วจะโทษอะไรดี? และมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร? จากการสำรวจผู้ใหญ่ 1,500 คน พบว่า 87% จะดูโทรทัศน์ 1 ชั่วโมงก่อนนอน 47% มีเพศสัมพันธ์ก่อนนอน และ 64% อ่านหนังสือก่อนนอน ในจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจนั้น มีเพียงส่วนน้อยที่บอกว่า พวกเขานอนหลับสบายตลอดคืน ทำให้สรุปได้ว่า คนอเมริกันส่วนใหญ่นอนหลับไม่เพียงพอ นอกจากนั้น ยังพบข้อมูลอีกว่า เกือบ 1 ใน 4 ของผู้ที่แต่งงานแล้วมีเพศสัมพันธ์กันน้อยลง หรือไม่สนใจในเรื่องนี้เลย เพราะรู้สึกง่วงนอนมากเกินไป ทาง National Sleep Foundation จึงแนะนำว่า ผู้ใหญ่ควรได้รับการนอนอย่างพอเพียง ระหว่าง 7-9 ชั่วโมงในแต่ละคืน ขณะที่ผลการสำรวจพบว่า เวลานอนโดยเฉลี่ยของคนอเมริกันอยู่ที่ 6.9 ชั่วโมง ในรายงานยังระบุอีกว่า 60% ของผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะ ยอมรับว่าพวกเขาง่วงนอนระหว่างการขับขี่ และ 4% บอกว่าเคยประสบอุบัติเหตุหรือเกือบจะประสบอุบัติเหตุ เพราะเหนื่อยและง่วงขณะขับรถ เกือบ 30% ของพนักงานรับจ้างบอกว่า เคยทำงานพลาดเพราะความง่วงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และ 77% บอกว่าคู่นอนมีปัญหาในการนอนและการกรน ดร. ไมเออร์ ครีเกอร์ (Dr.Meir Kryger) ผู้อำนวยการของ Sleep Disorders Center ที่ศูนย์วิจัยโรงพยาบาล St.Boniface บอกว่า เมื่อคู่สมรสต้องการจะแยกกันนอน สาเหตุมักเป็นเพราะปัญหาการนอนของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งการกระทำเช่นนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้าย และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งคู่ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการศึกษาพบอีกว่า มากกว่า 3 ใน 4 ของชาวอเมริกันนอนหลับไม่ดีเลย และมันก็เริ่มส่งผลต่อความสัมพันธ์ของคู่สมรส เพราะพวกเขารู้สึกง่วงเกินกว่าจะมีกิจกรรมใดๆ ก่อนนอน โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ ขณะที่มีเพียง 8% เท่านั้น บอกว่าพวกเขานอนหลับสบายดี และมีเพศสัมพันธ์กันตามปกติ รู้อย่างนี้แล้วขอให้ทุกคนนอนหลับอย่างเพียงพอ เพื่อการมีเพศสัมพันธ์อย่างพอเพียง รวมทั้งการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทางรถยนต์