เค้กทีรามิสุ สูตรเด็ดจาก พล ตัณฑเสถียร

 

เค้กที่ได้แรงบันดาลใจมาจากทีรามิสุ ขนมยอดฮิตของอิตาลี โดยตัวเค้กมีลักษณะเป็นสปันจ์เค้กของอิตาลีที่เรียกว่า Genoise ส่วนตัวครีมก็เป็นคัสตาร์ดครีมวานิลา แต่มีชีสมาสคาโฟเน่ผสมเข้าไปด้วย นอกจากนั้นก็ยังพรมด้วยกาแฟผสมเหล้าหวานเช่นเดียวกับทีรามิสุ

ส่วนประกอบ

น้ำตาลทราย 125 กรัม
ไข่ไก่ 4 ฟอง
ไข่แดง 1 ฟอง
วานิลา 1 ช้อนชา
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 125 กรัม
เนย ละลาย 45 กรัม
มาสคาโฟเน่คัสตาร์ด
นม 300 มิลลิลิตร
ไข่แดง 2 ฟอง
ฝักวานิลา 1 ฝัก
น้ำตาลทราย 40 กรัม
แป้งข้าวโพด 20 กรัม
ชีสมาสคาโฟเน่ 125 กรัม
อื่นๆ
เหล้าคาลัวร์ 4 ช้อนโต๊ะ
ผงกาแฟเข้มข้น 2 ช้อนชา
ไซรัปกลิ่นฮาเซลนัท 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำร้อน 1 ช้อนโต๊ะ
ถั่วฮาเซลนัทอบ 60 กรัม
ไอซิ่ง โรยหน้า

 

วิธีทำ

1. ตั้งเตาอบที่ 180 องศาเซลเซียส

2. เตรียมพิมพ์เค้ก ขนาด 9 นิ้ว ถ้าเป็นแบบห่วงก็ไม่ต้องทาเนย ถ้าเป็นแบบเข็มขัดก็ทาเนย

3. ทำเค้ก โดยใส่ไข่ทั้งหมดกับน้ำตาล และวานิลลาในชามผสมที่ทนความร้อนได้

4. ใส่น้ำลงในหม้อ ไม่ต้องสูงมาก นำไปตั้งไฟ พอน้ำเริ่มเดือด ก็นำส่วนผสมไปตั้งไฟ ใช้ที่ตีไข่แบบมือถือ ตีส่วนผสมไปเรื่อยจนได้ 46 องศาเซลเซียส ก็นำออกมาตีต่อจนได้ Ribbon Stage ซึ่งจะสังเกตได้เมื่อยกหัวตีขึ้น แล้ววาดส่วนผสมเป็นเส้น ส่วนผสมจะทรงตัวอยู่ที่ผิวเล็กน้อยก่อนที่จะจมลงช้าๆ

5. ร่อนแป้งเอนกประสงค์ลงไป ตะล่อมเบาๆ ให้เข้ากัน ตามด้วยเนยละลายที่เย็นดีแล้ว ตะล่อมให้เข้ากันเช่นกัน

6. เทส่วนผสมลงในพิมพ์ อบประมาณ 25 นาที จนสุกดี

7. พักเค้กจนเย็น ผ่าครึ่ง พักไว้

8. ทำมาสคาโฟเน่คัสตาร์ด โดยขูดวานิลลาจากฝักแล้วนำไปตั้งไฟ

9. ในชามผสมอีกใบ ตีไข่แดงกับน้ำตาล ตามด้วยแป้งข้าวโพดให้เข้ากันดี เทส่วนผสมนมครึ่งหนึ่งใส่ส่วนผสมไข่ คนให้เข้ากัน แล้วเทกลับใส่ไปผสมกับนมที่เหลือ นำกลับไปตั้งไฟ ใช้ตะกร้อตีจนสุกและข้นขึ้น ยกออกจากความร้อน

10. ถ่ายคัสตาร์ดใส่ชามผสมอีกใบ ปิดฟิล์มที่ผิวหน้า พักจนเย็นลง

11. ตีครีมที่เย็นลงอีกครั้งให้เนื้อเนียน ใส่ชีสมาสคาโฟเน่ลงไปผสม พักไว้

12. ละลายผงกาแฟกับน้ำร้อน พอละลายดีก็ใส่เหล้าคาลัวร์และน้ำเชื่อมกลิ่นฮาเซลนัทลงไป พักให้เย็นลงเล็กน้อย ใช้แปรงทาที่ด้านในของตัวเค้กทั้งสองชิ้น ทาครีมที่พักไว้ลงไปให้ทั่ว แล้วนำเค้กประกบกัน เหลือครีมไว้ส่วนหนึ่งเพื่อปาดด้านข้างบางๆ เล็กน้อย

13. บดถั่วฮาเซลนัทหยาบแล้ว ใช้มือกดให้ติดด้านข้างเค้ก โรยน้ำตาลไอซิ่งที่หน้าขนม ตัดเสิร์ฟได้ทันที

 

ที่มา: พลพรรคนักปรุง
สูตรโดย : พล ตัณฑเสถียร