ถ้าคุณหลงใหลในเสน่ห์ของผืนผ้า ชอบมองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ จากงานศิลปะ แถมยังเป็นนักช้อปที่ชอบเดินทางเสาะหาของดีมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร กรีนซีซั่นนี้เราจะมาชวนคุณเหนือไปสัมผัสสายหมอกและฟังเสียงกี่ทอผ้าเสนาะหูด้วยกันให้ถึงถิ่นกำเนิดผ้าน่าน ชมวิธีการทอและตัดเย็บสุดพิถีพิถัน พร้อมแนะนำที่กิน ที่พัก คาเฟ่ชิลล์ๆ ตามเส้นทางสวยๆ ใน 4 อำเภอ บอกเลยว่า ตามรอยผ้าน่านทริปนี้ ไม่เพียงแค่สบตา แต่ยังได้สัมผัสความเป็นน่าน จนอยากจะอยู่นานๆ เลยแหละ

1.วัดภูมินทร์

แลนด์มาร์กสำคัญกลางเมืองน่านที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะเวียนมาเสมอ ทั้งจากความเก่าแก่ของวัดที่มีอายุกว่า 400 ปี สร้างในสมัยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครองนครน่าน รวมไปถึงสถาปัตยกรรมโดดเด่นที่สร้างเป็นวิหารทรงจตุรมุขคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัว รวมไปถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วาดในสมัยปลายรัชกาลที่ 4 ฝีมือหนานบัวผัน โดยเฉพาะภาพกระซิบรัก หรือภาพของปู่ม่านย่าม่าน ที่หลายคนรู้จักดี แต่ถ้าให้มองลึกลงไปในรายละเอียด โดยเฉพาะสายนักออกแบบและคนรักผ้า ก็จะได้พบกับรายละเอียดเครื่องแต่งกายของคนล้านนาเมื่อร้อยกว่าปีก่อนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะวิธีการทอผ้า และลวดลายบนซิ่น ซึ่งช่วยเชื่อมโยงวิถีการทอผ้าน่านในอดีตกับปัจจุบันได้เป็นอย่างดีด้วย

ที่ตั้ง : ถ.สุริยพงษ์ อ.เมืองน่าน จ.น่าน

เวลาเปิด-ปิด : 06:00-18:00 น. เปิดทุกวัน

โทร. : 054 771 897

2.บ้านซาวหลวง

หลักๆ ที่นี่จะทอทั้งผ้าฝ้ายและผ้าฝ้ายสลับไหม เติมดิ้นเงินดิ้นทองเพิ่มความสวยงาม ลวดลายเอกลักษณ์คือ ลายบ่อสวก ซึ่งแกะลวดลายมาจากปากไหที่ค้นพบที่แหล่งเตาโบราณบ้านบ่อสวก ประกอบด้วย ลายอินธนู ลายนกฮูก ลายอินคำแสง ฯลฯ นอกจากนี้ก็ยังมีลายอื่นๆ อย่าง น้ำไหล หย่อมตีนหมา จันทร์แปดกลีบ ต้นทอง และอื่นๆ มาผสมผสานกลายเป็นซิ่นผืนยาว มีทั้งซิ่นป้อง ซิ่นม่าน ใครอยากได้ผ้าผืนงามๆ แนะนำให้สั่งออเดอร์มาล่วงหน้า ส่วนใครที่แวะมาเยี่ยมชมถึงถิ่น นอกจากจะมีการทอผ้าให้ชมแล้ว ยังมีการสอนอีดฝ้าย ปั่นฝ้าย รวมทั้งมีช็อปจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือแบบต่างๆ ให้เลือก แถมราคาไม่แพงด้วย

ที่ตั้ง : บ้านซาวหลวง ต.บ่อสวก อ.เมืองน่าน จ.น่าน

เวลาเปิด-ปิด : 08:00-18:00 น. เปิดทุกวัน

โทร. : 061 316 0733

3.ร้านฝ้ายเงิน

นอกจากจะเป็นร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าทอโดยเฉพาะเครื่องแต่งกายที่มีให้เลือกหลายสไตล์ แถมราคาก็ไม่แพงแล้ว ร้านฝ้ายเงินยังเป็นแหล่งรวบรวมผ้าทอหลากลวดลายตั้งแต่ของใหม่ลายประยุกต์และแบบดั้งเดิม สีสันสวยงามเตะตา ไปจนถึงผ้าโบราณล้ำค่า ซึ่งทางร้านได้จัดพื้นที่ส่วนหนึ่งในร้านเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมให้ผู้ที่สนใจติดต่อล่วงหน้ามาเข้าชมกันได้ จัดแสดงทั้งชุดชนเผ่าต่างๆ ซิ่นชนิดต่างๆ เอกลักษณ์คืออะไร ทอลวดลายอะไรบ้าง รวมทั้งหมอนและย่ามเก่าแก่ พร้อมข้อความให้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของผ้าพื้นเมืองน่านด้วย

ที่ตั้ง : อ.เมืองน่าน จ.น่าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน

โทร. : 054 681 163

4.โฮงเจ้าฟองคำ

เรือนแฝดโบราณอายุกว่าร้อยปีที่ตกทอดมาจาก เจ้าศรีตุมมา ผู้สืบเชื้อสายเจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 11 ที่ไม่เพียงจะเปิดบ้านที่ทรงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมล้านนานี้ให้เข้าชมเพื่อย้อนอดีตเท่านั้น แต่ยังสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของคนน่านผ่านการสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่นต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและลองฝึกที่ใต้ถุนบ้านด้วย โดยเฉพาะภูมิปัญญาที่เกี่ยวกับผ้าทอ ซึ่งมีทั้งการสาธิตอีดฝ้าย ปั่นฝ้าย ทอผ้า โดยลายเอกลักษณ์ที่มีที่นี่ที่เดียวคือ ผ้าลายน้ำไหลหยดน้ำ ซึ่งเป็นลายที่พัฒนามาจากลายน้ำไหลของไทลื้อ แต่ให้มีความอ่อนช้อยและร่วมสมัยมากขึ้นราวกับสายน้ำไหลจริงๆ ใครชมแล้วอยากซื้อกลับก็มีช็อปเล็กๆ จำหน่ายผ้าทอมือพื้นเมืองลายต่างๆ ให้เข้าไปเลือกซื้อเช่นกัน

ที่ตั้ง : ถ.สุมนเทวราช ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน

เวลาเปิด-ปิด : 09:00-17:00 น. ปิดวันจันทร์และอังคาร

โทร. : 054 710 537

5.วราภรณ์ผ้าทอ

นอกจากจะเป็นร้านจำหน่ายผ้าทอพื้นเมืองแบบต่างๆ แล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจในกระบวนการทอผ้าตั้งแต่เริ่มจนจบด้วย เรียกว่าเป็นเวิร์ครูมที่สามารถเดินเข้าไปพูดคุยกับพี่ป้าน้าอา และชมกระบวนการผลิตได้อย่างใกล้ชิด และที่สำคัญ ที่นี่ยังปลุกลมหายใจจากภาพซิ่นบนจิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์ ให้กลับมามีชีวิตจริงๆ บนผืนผ้า โดยการออกแบบของคุณสมพิศ เทพศิริ เจ้าของคนปัจจุบัน โดยเรียกลายผ้าลิขสิทธิ์เฉพาะของทางร้านนี้ว่า ลายปล้องหนานบัวผัน และลายม่านหนานบัวผัน ซึ่งกว่าที่จะประสบความสำเร็จออกมาก็ต้องผ่านการลองผิดลองถูกอยู่หลายปีเลยทีเดียว ใครที่อยากแวะมาชมให้เห็นกับตา หรือจะแวะมาซื้อผลิตภัณฑ์ และพูดคุยเรื่องการออกแบบลายผ้าพื้นเมือง ที่นี่ยินดีต้อนรับเสมอ

ที่ตั้ง : ต.กลางเวียง อ.เวียงสา จ.น่าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน

โทร. : 083 322 1885

6.วัดบุญยืน

วัดเก่าแก่คู่เมืองสา หรืออำเภอเวียงสาในปัจจุบัน กล่าวกันว่าเป็นวัดที่เจ้าเมืองน่านในอดีตมาประกอบพิธีบวงสรวงยามเกิดภัยพิบัติ และประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาต่อหน้าองค์พระประธานปางประทับยืนในพระวิหาร เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชน โดยองค์พระประธานมีลักษณะคล้ายปางเปิดโลก เพียงแต่ปล่อยพระหัตถ์ไว้ที่ข้างๆ ไม่แบออกเหมือนทั่วไป ด้านหน้ายังมีบานประตูวิหารไม้แกะสลักลวดลายสามชั้น เป็นภาพพระอินทร์ประทับบนดอกบัว และพระพรหมประทับอยู่บนช้างเจ็ดเศียร มีอายุมากกว่า 200 ปี ส่วนด้านหลังพระวิหารก็มีพระเจดีย์โบราณศิลปะล้านนาให้ชมด้วย

ที่ตั้ง : ต.กลางเวียง อ.เวียงสา จ.น่าน

เวลาเปิด-ปิด : 09:00-17:00 น. ทุกวัน

โทร. : 054 781 872

7.บ้านดอนมูล

เป็นกลุุ่มทอผ้าไทลื้อที่มีเวิร์ครูมตัดเย็บกันง่ายๆ ใต้ถุนบ้าน ท่ามกลางความอบอุ่นของกลุ่มชาวบ้านเชื้อสายไทลื้อที่สืบทอดภูมิปัญญาในการย้อมสี ทอผ้า เย็บผ้า แล้วต่อยอดโดยคนรุ่นใหม่อย่างคุณศุภมาศ วงศ์ไทย จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์จากผ้าทอหลากหลายรูปแบบจัดหน่ายในช้อป ตั้งแต่ผ้าซิ่นแบบดั้งเดิม ไปจนถึงเสื้อผ้า กางเกง เดรส กระเป๋า ดีไซน์โดนใจคนรุ่นใหม่ แต่ยังได้กลิ่นอายชาวเหนือแบบร่วมสมัย เรียกว่าเป็นการนำผ้าทอจากผืนใหญ่ๆ ที่ใช้ได้ไม่กี่รูปแบบ มาตัดเย็บเพิ่มมูลค่าจนตอนนี้มีออเดอร์เข้าสู่กลุ่มแทบผลิตไม่ทันกันเลย

ที่ตั้ง : บ้านดอนมูล อ.ท่าวังผา จ.น่าน

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน

โทร. : 091 052 1322, 080 852 1399

8.จันทร์สมการทอ

คนรักผ้าทอน่าจะรู้จักผ้าทอลายน้ำไหลที่ขึ้นชื่อของชาวไทลื้อเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นลายที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษไทลื้อตั้งแต่อาศัยอยู่ในดินแดนสิบสองปันนา โดยจินตนาการลักษณะน้ำไหลลงไปบนผืนผ้าอย่างสวยงาม และแม้ว่าจะอพยพย้ายถิ่นมาอยู่ในไทยก็ยังมีการทอผ้าลายนี้สืบทอดมานานนับร้อยปี โดยคนที่ริเริ่มทอผ้าลายนี้ออกจำหน่ายเป็นรายแรกก็คือคุณป้าจันทร์สม พรหมปัญญา คนนี้นี่เอง โดยในปัจจุบันป้าจันทร์สมยังได้ประยุกต์ลายเพิ่มเติมขึ้นมา เช่น ลายจรวด ลายแมงมุม ลายปลาหมึก ลายเล็บมือนาง เป็นต้น หากใครมีโอกาสแวะมาถึงแหล่งผลิตก็จะได้ชมกระบวนการทอผ้าอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีช็อปจำหน่ายผ้าทอมือให้เลือกซื้ออีกหลากหลายลายด้วย

ที่ตั้ง : บ้านหนองบัว ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน

โทร. : 054 685 222

9.แพวผ้าฝ้าย

ริเริ่มโดยคุณแพว คำภานุช และชาวไทลื้อบ้านเฮี้ย รวมตัวกันนำภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยเฉพาะศิลปะการทอ ผ้าหลบ ซึ่งแต่เดิมใช้เป็นเพียงผ้าปูที่นอน มาประยุกต์ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย เพิ่มมูลค่าได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น ซิ่นแบบดั้งเดิม เสื้อผ้า กางเกง กระโปรง กระเป๋า ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าม่าน ไปจนถึงรองเท้า มีหลากรูปแบบ หลายระดับราคาให้เลือกซื้อ เรียกว่าผลิตเองขายเองตั้งแต่ต้นถึงปลายน้ำ จนมีออเดอร์เข้ามาทั้งในไทยและต่างประเทศ แถมยังดีไซน์ชุดเก๋ๆ ล้ำๆ จนเป็นที่รู้จักในวงการแฟชั่นอีกด้วย

ที่ตั้ง : บ้านเฮี้ย อ.ปัว จ.น่าน

เวลาเปิด-ปิด : 08:00-17:00 น. ทุกวัน

โทร. : 089 851 8918

10.ป้าหลอม

ชมวิวทุ่งนามุมสูงบนวัดภูเก็ตกันแล้ว เดินลงบันไดสู่ถนนเลียบทุ่งนาจะพบกับแหล่งภูมิปัญญาผ้าทอไทลื้อที่น่าแวะเยี่ยมชมนั่นคือ กลุ่มทอผ้าไทลื้อบ้านเก็ต ที่มีหัวเรือหลักคือ ป้าหลอม ปราชญ์ท้องถิ่นที่เคยได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติครูช่างศิลป์จากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศมาแล้ว โดยป้าหลอมมีความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้เรื่องการทอผ้าให้คนรุ่นหลัง จึงได้เปิดพื้นที่ในร้านจำหน่ายผ้าพื้นเมืองของกลุ่ม จัดแสดงข้อมูลและอุปกรณ์ทอผ้าต่างๆ หรือจะมาลองนั่งอีดฝ้าย ปั่นฝ้าย พูดคุยขอความรู้จากป้าหลอมที่แสนใจดีก็ได้เช่นกัน ส่วนสินค้าภายในร้านก็มีหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นซิ่น ชุดพื้นเมือง กระเป๋า ผ้าคลุมไหล่ ฯลฯ จำหน่ายในราคาไม่แพงเลย

ที่ตั้ง : บ้านเก็ต ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน

เวลาเปิด-ปิด : 07:00-19:30 น. ทุกวัน

โทร. : 081 180 2964

11.อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

มาถึงอ.ปัว ขาดไม่ได้เลยคือการได้ขับรถไต่ถนนคดเคี้ยวขึ้นเขาบนเส้นทางปัว-บ่อเกลือ เข้าสู่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โดยมีจุดที่น่าสนใจบนเส้นทางทั้งต้นเต่าร้างยักษ์ ต้นชมพูภูคา ศาลพญาภูคา และจุดชมวิวที่ระดับความสูง 1715 แถมยังได้เพลิดเพลินไปกับวิวทิวเขาสลับซับซ้อนและหมู่บ้านชาวเขาเป็นหย่อมๆ ยิ่งถ้ามาในช่วงฤดูฝน-หนาว ก็จะได้สัมผัสกับสายลมเย็นๆ รวมทั้งสายหมอกลอยละล่องอยู่ในอากาศ เรียกว่าเป็นบรรยากาศน่าหลงใหลชวนถ่ายรูปจนลืมเวลากันเลย

ที่ตั้ง : ต.ภูคา อ.ปัว จ.น่าน

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน

โทร. : 054 731 623, 082 194 1349

12.วัดภูเก็ต

ไม่ได้อยู่ที่จังหวัดภูเก็ตและมีที่มาของคำแตกต่างกันคนละเรื่องเลย โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่บ้านเก็ต อ.ปัว จึงมีชื่อเรียกตามที่ตั้งง่ายๆ ตรงตัวว่า วัดภูเก็ต นั่นเอง ภายในวัดมีอุโบสถทรงล้านนาประยุกต์ ประดิษฐานหลวงพ่อแสนปัว ให้ชาวพุทธได้มาสักการะบูชากัน และประดับภาพจิตรกรรมฝาผนังงดงามโดยรอบ นอกจากจะเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวบ้านแล้ว ทำเลที่ตั้งของวัดก็กลายเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมีชื่อเสียงของอ.ปัวด้วย เพราะสามารถมองเห็นได้ทั้งขุนเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง และทุ่งนาเขียวขจีที่แผ่กว้างไปจรดทิวเขาเบื้องหน้า กลายเป็นภาพงดงามน่าชมมากๆ

ที่ตั้ง : ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน

โทร. : 089 552 4503, 084 046 9745

** วันนี้ - 22 สิงหาคมนี้ ททท. น่าน ชวนนักท่องเที่ยวรับคู่มือท่องเที่ยว “สบตา สัมผัสผ้าน่าน” แล้วเดินทางท่องเที่ยวไปตามรอย ซื้อผ้าน่านจากชุมชนให้ครบตามยอดที่กำหนด จากนั้นประทับตรา แล้วนำมาแลกรับของที่ระลึกได้เลย มีทั้ง Card Flash Drive กระเป๋าเดินทางลายผ้าตาโก้ง Limited Edition แถมยังมีโอกาสลุ้นรับตั๋วเครื่องบินไปกลับ ดอนเมือง - น่าน 2 ที่นั่ง จำนวนหนึ่งรางวัลอีกด้วย

สามารถดาวน์โหลดคู่มือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://drive.google.com/open?id=1R0XxpifKm1JrwqO0HARzqVbS_nko0MPb

สอบถามเพิ่มเติมที่ ททท. สำนักงานน่าน โทร. 054 711 217-8 หรือ Facebook : TATNAN

12 พิกัดสวยสบตาเมืองน่าน สัมผัสสายหมอก ขุนเขา และเสน่ห์แห่งผืนผ้างาม

12 พิกัดสวยสบตาเมืองน่าน สัมผัสสายหมอก ขุนเขา และเสน่ห์แห่งผืนผ้างาม12 / 49