ผลงานระห่ำทรวงของทีมชาติไทย หลังจัดการบุกไปตบหน้าทีมชาติจีน 1-0 จากประตูโทนของ เจ ชนาธิป ทำให้เราได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่อง ที่คุณภาพมันมากกว่าเกมอุ่นเครื่อง

เครื่องหมายคำถามที่มีต่อ "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ว่าสมควรได้ไปต่อ หรือพอแค่นี้ เริ่มชัดเจนในผลงานครั้งนี้

จริงอยู่ทีมชาติจีนเปลี่ยนแปลงผู้เล่นเกินครึ่งทีมจากชุดชิงแชมป์เอเชียเมื่อต้นปี แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ทีมชาติไทยของเราจะบุกไปควักชัยชนะได้ง่ายๆ ซะที่ไหนล่ะ

ยิ่งเล่นในบ้าน กับทัวร์นาเมนต์ที่มีความหมายต่อพวกเขา มันคือผลงานอันเอกอุที่น่าชื่นชม และแน่นอน ทีมช้างศึกได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เพื่อวัดฝีเกือกของผู้ชนะระหว่าง อุซเบกิสถาน หรือ อุรุกวัย

90 นาทีของเกมเมื่อวาน ต้องบอกว่าทีมชาติไทย ต่อกรกับเจ้าถิ่นได้อย่างสนุก มันทำให้เราเห็นอะไรที่แปลกใหม่

ผมเชื่อว่าแฟนบอลหลายคน ยินดีที่ได้เห็นแผนการเล่น ที่มีแผงมิดฟิลด์ที่แฟนบอลอยากเห็น นั่นคือการได้เล่นร่วมกันของ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ สารัช อยู่เย็น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกลับมายืนแพ็คกลางของ สารัช มันทำให้เห็นว่า เจ้าตัง คู่ควรกับทีมชาติไทยมากขนาดไหน

การคัมแบ็คของเขา ทำให้เกมของทีมชาติไทยในกลางสนาม ดูมีความสมดุลมากขึ้น ให้บอลง่าย ให้บอลสั้นได้ดี และที่สำคัญ เขายังเติมเกมขึ้นไปสร้างสรรค์เกมรุกได้สวยๆ หลายครั้งในเกมเมื่อวาน

สิ่งที่เขาได้รับมอบหมาย มันทำให้คนที่ได้รับประโยชน์และเล่นได้ง่ายขึ้นเป็นทวีคูณคือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เพราะ เจ้านิว สามารถเติมเกมรุกได้แบบไม่ต้องพะวงเกมรับ เพราะมีทั้งสารัช และ ธนบูรณ์ คอยเก็บกวาดให้

ประตูขึ้นนำตอกย้ำความชัดเจนว่า เมื่อ ฐิติพันธ์ ได้เล่นเกมรุก เขามีความอันตรายมากขนาดไหน และที่มาของประตูชัย ก็มาจากการประสานงานที่ยอดเยี่ยม จาก อดิศักดิ์ ไปที่ ฐิติพันธ์ และไปจบที่การยิงชนิดคมกริบของ ชนาธิป สรงกระสินธ์

ชัยชนะของทีมชาติไทย นอกจากจะทำให้เราผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ไชนา คัพ 2019 แล้ว ยังส่งผลให้เราเก็บแต้มจากเกมฟีฟ่าเดย์ได้ด้วย และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ความมั่นใจ

"ความมั่นใจ" ที่มีมากขึ้น กับการได้เล่นกับทีมที่เหนือกว่า ด้วยตัวผู้เล่นที่ลงตัวขึ้นเรื่อยๆ มันพอจะมองไปข้างหน้าถึงทิศทางของทีมชาติไทยได้ชัดเจนมากขึ้น

อย่าลืมว่าทีมช้างศึกมีโปรแกรม ศึกฟุตบอลคิงส์คัพ 2019 ช่วงกลางปี และปลายปีก็จะเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่สุด นั่นคือการลงเล่นในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รออยู่อีก

เครื่องหมายคำถามตัวโต จึงถูกส่งผ่านไปถึงสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ยังไม่ชัดเจนในการตั้งกุนซือถาวรซะที

จริงอยู่ที่ตอนนี้คูณสมบัติของแก ยังขาดการผ่านการอบรมโค้ชโปรไลน์เซ่น แต่เชื่อเถอะว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่

เอาให้ชัดครับ ว่า จะเอาโค้ชโต่ย หรือจะเอาใครกันแน่ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจน เลยได้แต่ รอ รอ รอ ต่อไป

เราหวังกับวันข้างหน้า เราหวังกับผลงานที่ยอดเยี่ยมของทีมชาติไทย แต่ตอนนี้ทีมชาติไทยยังขาดความชัดเจนในเรื่องตัวกุนซือถาวร

เอาล่ะเหตุผลที่ทางสมาคมต้องตระหนักในเรื่องนี้ อาจจะยังไม่ชัดเจน แต่ความชัดเจนอย่างหนึ่งคือผลงานของโค้ชโต่ย ในเวลานี้

เขาไม่ใช่กุนซือโปรไฟล์อลังการอะไรมากนัก แต่สิ่งที่แกมีคือ "หัวใจ" ที่อยากทำงานนี้

โค้ชบ้านๆ ผู้นอบน้อม, โค้ชที่พูดไม่เก่ง และขยาดกับการให้สัมภาษณ์ กำลังทำผลงานเพื่อประเทศเกิดของเขา

นอกจากนี้การได้ใจจากนักเตะ การยอมรับในตัวของโค้ชแบบเขา นี่คือข้อสำคัญที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีว่าทำไมเขาถึงสมควรได้ทำงานตรงนี้ต่อ

ผมคนหนึ่งล่ะที่เอาใจช่วย และอยากเห็นแกได้นั่งกุนซือแบบถาวรซะที

สู้ๆครับ "โค้ชโต่ย" โค้ชไทบ้านของจริง!!!

"ฟุตบอลแห่งความฝัน" ของโค้ชไทบ้าน ที่ชื่อ "โต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย

"ฟุตบอลแห่งความฝัน" ของโค้ชไทบ้าน ที่ชื่อ "โต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย1 / 32