การเเข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2556 เป็นการพบกันระหว่าง

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

เริ่มเกมไปได้ 5 นาที ลิเวอร์พูล เปิดฉากบุกก่อนเมื่อ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง แย่งบอลจาก เบอร์นัว อัสซู-เอก็อตโต้ ได้ตรงกลางสนามก่อนที่บอลจะมาเข้าทาง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กระชากเข้าเขตโทษทางฝั่งขวาแล้วซัด แต่บอลก็เกินข้ามคานออกไปแบบไม่ต้องลุ้น

น.12 "สเปอร์ส" มาได้โอกาสจากฟรีคิกหน้าเขตโทษ แกเร็ธ เบล รับหน้าที่ซัด บอลส่ายไปมาหาประตู ทำให้ แบร๊ด โจนส์ ต้องทุบออกข้างไปแบบหวุดหวิด

น.21 ในที่สุดแฟนๆ ในแอนฟิลด์ก็ได้เฮเสียที เมื่อ ฟิลิปป์ คูตินโญ่ ส่งบอลให้ โฆเซ่ เอ็นริเก้ ก่อนที่เจ้าตัวจะแทงต่อให้ หลุยส์ ซัวเรซ ที่เติมเข้ามาได้โอกาสซัดผ่านตัว อูโก้ โยริส ทางเสาแรกเข้าไป ลิเวอร์พูล ขึ้นนำไปก่อน 1-0

น.37 ทีมเยือนพลาดโอกาสตีเสมอแบบน่าเสียดาย จากจังหวะที่ แกเร็ธ เบล ตอกส้นที่หน้าเขตโทษให้ กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน ที่เติมมาตรงกลางได้จังหวะโล่งๆ แต่เจ้าตัวกลับซัดผ่านเสาออกหลังไปแบบเหลือเชื่อ

ช่วงท้าย "สเปอร์ส" มาตามตีเสมอได้สำเร็จ เมื่อ เบล ได้โอกาสเปิดจากทางฝั่งขวา บอลลอยมาถถึงหน้าประตูโดยเป็น แยน แฟร์ตองเก้น ได้เทกตัวโหม่งระยะประชิดบอลผ่านมือ แบร๊ด โจนส์ เข้าไป เกมกลับมาเท่ากันเป็น 1-1

จากนั้นไม่มีจังหวะอะไรเพิ่มเติมหมดครึ่งแรก ทั้งคู่เสมอกันไปก่อน 1-1

กลับมากันต่อในช่วงครึ่งหลัง โดยที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีการเปลี่ยนตัวสำรองลงสนามกันแต่อย่างใด

น.53 แต่กลายเป็นว่าเจ้าถิ่นต้องเสียประตูจากลูกฟรีคิก เบล โยนไปทางเสาไกล เจมี่ คาร์ราเกอร์ โหม่งสกัดไม่ดีบอลขลุกขลิกไปมาในเขตโทษก่อนจะเข้าทาง แฟร์ตองเก้น ที่อยู่ยืนอยู่จัดการง้างเท้าซัดด้วยซ้ายข้างถนัด บอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปชนิดที่ แบร๊ด โจนส์ ไม่ต้องป้องกัน "สเปอร์ส" พลิกขึ้นนำเป็น 2-1

น.57 "สเปอร์ส" น่าจะได้ประตูที่สามแบบสุดๆ เมื่อ เบล แตะผ่าน ลูคัส เลว่า ก่อนกระชากหนี สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ไปถึงเส้นหลัง ก่อนจะเปิดข้ามไปทางเสาไกลตกมาเข้าเท้า ซิกูร์ดสัน จับแล้วซัดไปติดเซฟ แบร๊ด โจนส์ ก่อนจะบอลจะพุ่งชนเสาออกหลังไป

จากนั้นเจ้าถิ่นต้องแก้เกมส่ง โจ อัลเลน ลงสนามมาเป็นคนแรก โดยเป็น ฟิลิปป์ คูตินโญ่ ที่โดนถอดออกไป

น.66 "หงส์แดง" มาได้ประตูตีเสมอแบบมีโชคเล็กน้อย จากการคืนหลังไม่ดีของ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่ส่งโด่งจนเกินไป ทำให้ โยริส กะจังหวะสกัดจากนอกเขตโทษพลาดถูก สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง แย่งไปได้ ก่อนที่จะเจ้าตัวซัดแบบแป๊กๆ บอลพุ่งลอดขา แยน แฟร์ตองเก้น เข้าไป ช่วยทีมไล่กลับมาได้สำเร็จเป็น 2-2

น.82 "หงส์แดง" มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ เบอร์นัว อัสซู-เอก็อตโต้ ไปขวาง ซัวเรซ จนล้มลงไป ผู้ตัดสินไม่รอช้าชี้เป็นลูกโทษทันที และเป็น เจอร์ราร์ด รับหน้าที่แปเข้าไปไม่มีพลาดให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2

ทีมเยือนแก้เกมบ้างส่ง ลูวิส โฮลท์บี้ ลงไปเสริมเกมรุก โดยถอดเอา เจค ลิเวอร์มอร์ ออกไป

"หงส์แดง" ตัดสินใจถอด แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ออกแล้วส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาเสริมแดนกลาง ขณะที่ "ไก่เดือยทอง" ส่ง โทมัส คาร์โรลล์ ลงมาแทน เบอร์นัว อัสซู-เอก็อตโต้

ช่วงทดเจ็บท้ายเกมไม่มีจังหวะทำประตูกันอีก หมดเวลาเป็นทาง ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปได้สำเร็จ 3-2 พร้อมมีเพิ่มเป็น 45 คะแนน แซงหน้า เอฟเวอร์ตัน ด้วยผลประตูได้-เสียที่ดีกว่า ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 6 แต่ลงสนามมากกว่า 1 เกม เรียบร้อย

รายชื่อผู้เล่น ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) :
แบร๊ด โจนส์ - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ลูคัส เลว่า - สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟิลิปป์ คูตินโญ่ (โจ อัลเลน น.59) - แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.89)
ผู้เล่นสำรอง
ปีเตอร์ กูลาสซี่ - มาร์ติน สเคอร์เทล - อังเดร วิสดอม - จอนโจ เชลวี่ย์ - ราฮีม สเตอร์ริ่ง

รายชื่อผู้เล่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (4-2-3-1) :
อูโก้ โยริส - ไคล์ วอล์คเกอร์, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, แยน แฟร์ตองเก้น, เบอร์นัว อัสซู-เอก็อตโต้ (โทมัส คาร์โรลล์ น.90) - เจค ลิเวอร์มอร์ (ลูวิส โฮลท์บี้ น.84) , สก็อตต์ พาร์เกอร์- มุสซ่า เดมเบเล่, แกเร็ธ เบล, กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน - เจอร์เมน เดโฟ
ผู้เล่นสำรอง
แบร็ด ฟรีเดล - วิลเลี่ยม กัลลาส - ไคล์ นอห์ตัน - สตีเว่น คอลเกอร์ - ทอม ฮัดเดิลสตัน

ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

ลิเวอร์พูล 3 - 2 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พรีเมียร์ลีก

อัลบั้มภาพ เจิดซัดโทษ!หงส์พลิกแซงไก่สุดหืด3-2+คลิป ภาพที่ 26 / 30

เจิดซัดโทษ!หงส์พลิกแซงไก่สุดหืด3-2+คลิป

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

"โด้" มาเเล้วลงครึ่งเดียว เเมนฯ ยู เจ๊า ราโยฯ 1-1 (ภาพ)

คมกว่าเยอะ! แมนฯ ยูฯ ถล่ม ลิเวอร์พูล 4-0 แดงเดือดนัดประวัติศาสตร์ในไทย (ภาพ)

"ลินการ์ด" พลาด! ผี 10 คน บุกโดน ยัง บอยส์ เเซงทดเจ็บ 2-1 ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก

"เอลเลียตต์" ขาหัก! ลิเวอร์พูล บุกอัด ลีดส์ 10 ตัว 3-0 นำฝูงร่วม 10 แต้ม