"ซาลาเปา" ทำให้คนป่วยมะเร็งสูงขึ้นจริงหรือ? เตือน 4 อาหารเช้า ผู้ร้ายก่อโรคตัวจริง!

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

กินอะไรเสี่ยงมะเร็ง? ไขข้อเท็จจริง “ข่าวลือซาลาเปาก่อมะเร็ง” พร้อม 4 อาหารเช้าเสี่ยงสูงที่ควรเลี่ยง

จากกระแสข่าวลือว่า “ซาลาเปาทำให้เป็นมะเร็ง” สร้างความกังวลในสังคม แต่แท้จริงแล้วข้อมูลนี้ไม่ถูกต้อง ซาลาเปาไม่ได้เป็นต้นเหตุของโรคมะเร็งโดยตรง แต่ความเสี่ยงอยู่ที่วิธีการปรุงและพฤติกรรมการกินร่วมกับอาหารอื่นต่างหาก

ข้อมูลจาก ศูนย์มะเร็งแห่งชาติของจีน (ปี 2025) ระบุว่า แต่ละปีมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่กว่า 4 ล้านราย โดยมีอาหารบางประเภทที่หากรับประทานเป็นประจำในมื้อเช้า อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งโดยไม่รู้ตัว

1. อาหารทอด: แหล่งสะสมสารก่อมะเร็งจากความร้อนสูง

อาหารเช้าอย่างปาท่องโก๋หรือแผ่นแป้งทอด มักผ่านกระบวนการทอดด้วยอุณหภูมิสูง ซึ่งสามารถผลิตสาร อะคริลาไมด์ และ กรดไขมันทรานส์ ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง พบว่า ผู้ที่รับประทานอาหารทอดมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้นถึง 2.6 เท่า

2. เนื้อแปรรูป: ภัยเงียบจากสารไนไตรต์

แฮม เบคอน และไส้กรอก ที่หลายคนมักทานในมื้อเช้า ถูกจัดให้เป็นกลุ่มอาหารก่อมะเร็งระดับ 1 โดยองค์การอนามัยโลก เพราะมีส่วนผสมของ สารไนไตรต์ ซึ่งเมื่อเข้าสู่กระเพาะอาหารจะเปลี่ยนเป็นสารไนโตรซามีน ที่มีฤทธิ์ก่อมะเร็ง

ข้อมูลจากโรงพยาบาลปักกิ่งเซี๋ยเหอ ระบุว่า การกินเนื้อแปรรูปวันละ 50 กรัม เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ถึง 18%

3. อาหารเช้าหวานจัด: ตัวกระตุ้นการอักเสบเรื้อรัง

ขนมปังหวาน ชานม หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างกายหลั่งอินซูลินมากผิดปกติ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิด การอักเสบเรื้อรัง และการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์

งานทดลองจากมหาวิทยาลัยเจียวทง เซี่ยงไฮ้ พบว่า อาหารที่มีน้ำตาลสูงสามารถกระตุ้น IGF-1 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในเต้านมและตับ

4. อาหารหมักดอง: เกลือ + ไนไตรต์ = เสี่ยงสูง

อาหารหมักดองอย่างผักดองหรือเนื้อเค็ม มีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหาร และยังมีไนไตรต์ที่เปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งในสภาวะกรด

ศูนย์ควบคุมโรคแห่งประเทศจีน แนะนำให้จำกัดปริมาณเกลือ ไม่เกินวันละ 5 กรัม เพื่อป้องกันโรคมะเร็งกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร

กินมื้อเช้าอย่างไรให้ห่างมะเร็ง?

ทางเลือกอาหารเช้าที่ดีควรประกอบด้วย ธัญพืชเต็มเมล็ด โปรตีนคุณภาพ และผักผลไม้สด เช่น ข้าวโอ๊ตต้มกับไข่ต้มและบลูเบอร์รี่ หรือหมั่นโถวมัลติเกรนกับเต้าหู้และซุปผัก

วิธีปรุงก็สำคัญไม่แพ้วัตถุดิบ ควรหลีกเลี่ยงการทอดหรือดอง และเลือกวิธี นึ่ง ต้ม หรือตุ๋น แทน

ข่าวลือเรื่อง “ซาลาเปาก่อมะเร็ง” ไม่เป็นความจริง จุดสำคัญอยู่ที่ การเลือกอาหารเช้าอย่างชาญฉลาด ต่างหาก การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็งสะสม และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สามารถช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งในระยะยาวได้

ทุกมื้อเช้าคือโอกาสในการดูแลสุขภาพ และวางรากฐานการป้องกันโรคร้ายในอนาคต