ตำรวจสืบสวนภาค 4 ดวลปืนกับผู้ต้องหาร่วมปล้นทองห้างดังของบึงกาฬ กวาดทองคำน้ำหนักกว่า 90 บาท ขณะเตรียมจะเอาไปปล่อยขาย

กรณีคนร้ายบุกเดี่ยวใช่อาวุธปืนปลอมเข้าไปจี้ชิงทองที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาบึงกาฬ ภายในศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ตั้งอยู่บนถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-นครพนม ใกล้บริเวณสี่แยกไฟแดงบึงกาฬ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เมื่อค่ำวานนี้ (2 ส.ค.) ช่วงเวลา 19.30 น. คาดว่าได้ทองรูปพรรณ ทั้งสร้อยคอ สร้อยข้อมือไปกว่า 90 บาท หรือเป็นเงินราว 2.7 ล้านบาท เพราะยังมีบางส่วนที่ตกหล่นขาดอยู่ตามพื้นภายในร้านและในตู้กระจก

ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนทั้งภาค 4 สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬสืบสวน ภูธรจังหวัดบึงกาฬ ตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้คือ นายเฉลิมพงศ์ หรือ เสือ อายุ 20 ปีส่วนทองอ้างว่าให้กับนายรังสรรค์ อายุ 32 ปี และภรรยาชาวอำเภอโซ่พิสัย ไปหมดเพื่อนำทองไปขายที่ จ.ปทุมธานี แล้วจะโอนเงินกลับมาให้

ล่าสุด วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สืบสวน ภาค 4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธร ภาค 4 นำหมายศาลจังหวัดบึงกาฬ ออกติดตามจับกุมตัว นายรังสรรค์ อายุ 32 ปี และ นางสาวศศิธร ภรรยา ผู้ร่วมขบวนการปล้นทองที่ห้าง และกำลังหลบหนีมากบดานในเขต จ.ขอนแก่น เพื่อหาจังหวะขายทองที่ปล้นมาประมาณ 90 บาทออกไป

และได้มาพบกับกับนายรังสรรค์ หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการปล้นร้านทองออกจากที่พัก โดยมีอาวุธปืนขนาด 9 มม.และทองรูปพรรณที่ปล้นมาได้จำนวนหนึ่งพบติดตัวมาด้วย อยู่ถนนหน้า รพ.กรุงเทพฯ ขอนแก่น จึงเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น ทำให้นายรังสรรค์ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการโคม่า หลังยิงปะทะกันเสร็จนายรังสรรค์ถูกยิงนอนคว่าหน้าจมกองเลือดอยู่บนทางเท้า มีอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่และในกระเป๋ามีทองรูปพรรณจำนวนมาก

ส่วนที่ ห้างที่เกิดเหตุ ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ได้ควบคุมตัว นายเฉลิมพงศ์ หรือ เสือ ผู้ต้องหาคนแรกที่เข้าไปใช้อาวุธปืนจี้ชิงทองในร้านทอง โดยมีพนักงานสาว 5 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุเป็นคนชี้ตัว ซึ่งในการทำแผนวันนี้ทางตำรวจไม่ได้แจ้งสื่อมวลชนให้รับทราบแต่อย่างใด

สุดระทึก ดวลปืนสนั่นขอนแก่นคนร้ายร่วมปล้นทอง 90 บาท จากห้างดังบึงกาฬ

สุดระทึก ดวลปืนสนั่นขอนแก่นคนร้ายร่วมปล้นทอง 90 บาท จากห้างดังบึงกาฬ2 / 10