จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคขึ้นปราศรัย โดยกล่าวว่า แม้ปชป.จะเป็นฝ่ายค้านมา 8 ปี แต่พี่น้องประชาชนก็ยังสนับสนุนปชป.อยู่ตลอดเวลา ขณะนี้ตนเข้าใจว่า พี่น้องมีความกังวลอยู่ 2 เรื่อง หนึ่ง เรื่องการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ซึ่งเสียงฝ่ายตนน้อยกว่า 5 ต่อ 4 ซึ่งไม่เป็นไร เพราะตามกฎหมายคนที่มิสิทธิเสนอชื่อผบ.ตร.ได้มีแต่นายกฯคนเดียวเท่านั้น แม้วันนี้ยังไม่เรียบร้อย แต่อีกไม่านก็จะเรียบร้อย ที่สำคัญปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนสำคัญกว่าใครจะมาเป็น ผบ.ตร. ผมจะเดินแก้ไขปัญหาหลายเรื่องๆพร้อมกัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สอง ที่มีข่าวว่าตนทะเลาะกับรองนายกฯสุเทพ ตนขอบอกว่าตั้งแต่อยู่จ.สุราษฎร์ธานีมา ทะเลาะกับนายสุเทพตลอด เพราะชาวบ้านบอกว่าหล่อ ตนก็ทะเลาะกับนายสุเทพว่า ชาวบ้านหมายถึงใคร ซึ่งตนก็คิดว่าตัวเองได้เปรียบ เพราะเด็กกว่า แต่นายสุเทพก็บอกว่าเข้มกว่า แต่ยืนยันว่าตนกับนายสุเทพไม่มีปัญหา เพราะการทำงานกับคนหมู่มากก็ย่อมมีเรื่องถกเถียงกันเป็นธรรมดา สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้าพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรค ก็พบปัญหาเช่นเดียวกัน แต่จริงๆแล้วการถกเถียงเป็นรูปแบบการทำงานในแบบประชาธิปไตย
ผมกับนายสุเทพส่วนใหญ่ก็เห็นตรงกัน บางเรื่องเห็นไม่ตรงกันก็เป็นเรื่องปกติ บางอย่างที่ไม่เห็นด้วยใช้เหตุใช้ผลคุยกัน สุดท้ายก็หาข้อยุติได้ และสิ่งที่ทำให้ได้ข้อยุติเสมอ คือผมเป็นนายกฯ ส่วนท่านสุเทพเป็นรองนายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา ตนเห็นใจนายสุเทพ เพราะทำงานหนักที่สุด เป็นทั้งรองนายกฯที่ดูแลความมั่นคงของประเทศ และเลขาธิการพรรคที่ดูแลความมั่นคงของพรรค โดยหลักที่นายสุเทพใช้ คือการรักษามารยาท ประคับประคองการเป็นรัฐบาลผสม แต่เราต้องไม่ลืมผลประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งภาวะแบบนี้ทำให้ทำงานลำบาก เพราะยังมีคนบางกลุ่มอยากให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ตนอยากให้ทุกคนให้กำลังใจนายสุเทพให้ทำงานได้ดีที่สุด ไม่อยากใหเสียกำลังใจ
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการดำเนินนโยบายต่างๆของรัฐบาล ทั้งเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยอสม. เรียนฟรี 15 ปี ซึ่งเป็นการทำในสิ่งที่ปชป.เคยหาเสียงไว้กับประชาชน รวมถึงนโยบายต่างๆตามแผน 99 วันทำได้จริง ตนไม่เคยลืมที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นตามที่เคยหาเสียงไว้
ถ้าแพ้การเลือกตั้งครั้งนี้ สื่อมวลชนก็จะไปลงว่า ประชาชนไม่มั่นใจในคะแนนของรัฐบาล แต่ถ้ากาเบอร์หนึ่ง ไม่เพียงแต่ได้คุณธานีเป็นส.ส. ให้ไปยกมือในสภาเท่านั้น แต่เป็นคะแนนให้กำลังใจกับรบ.ว่าการทำงานที่ผ่านมานั้นอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง นายอภิสิทธิ์ กล่าว ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ใช้เวลาในการปราศรัยประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเดินทางกลับ แต่ปรากฏว่า ระหว่างนั้นเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี ได้บุกเข้าถึงตัวนายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นหนังสือขอที่ดินทำกิน ก่อนสลายตัวกลับ ส่วนบนเวทีปราศรัย ยังคงมีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนายชวน หลีกภัย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นพูด แต่บรรยากาศกลับไม่คึกคักเท่าที่ควร เพราะประชาชนบางส่วนได้เดินทางกลับ หลังนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับกรุงเทพฯ ขณะที่หลายคนบอกว่า บรรยากาศครั้งนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับหลายครั้งที่ผ่านมา