เจ้าหน้าที่บุกจับแพพักหรูในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ปลูกสร้างกว่า 20 หลัง มูลค่า 10 ล้านบาท พบรุกพื้นที่ป่าอุทยาน

(27 พ.ค.) นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานฯเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี สืบทราบว่ามีนายทุนลักลอบบุกรุกก่อสร้างแพพักแพบริการ บริเวณท่าน้ำหลังที่ว่าการอำเภอศรีสวัสดิ์ หมู่ 3 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จึงได้ประสานสนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทหารร้อย รส. มทบ.17 (อ.ศรีสวัสดิ์ ) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.13 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 รวมกว่า 30นาย ร่วมเดินทางเข้าตรวจสอบ บริเวณท่าน้ำหลังที่ว่าการอำเภอศรีสวัสดิ์ หมู่ 3 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์

จากการตรวจสอบพบเป็นพื้นที่พิกัด 0511105 E 1613604 N บริเวณท่าน้ำหลัง ที่ว่าการอำเภอศรีสวัสดิ์ ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นคุ้งน้ำมีต้นไม้ใหญ่หนาแน่น บดบังหลบสายตาผู้คนที่สัญจรไปมา พบมีการก่อสร้างแพพัก แพบริการแบบหรูหรา ใหม่เอี่ยมติดแอร์ทุกหลัง จำนวน 22 หลัง

รวมทั้งแพทุ่นที่ใช้วางต้นไทรเกาหลีกั้นระหว่างแพแต่ละหลัง อีกจำนวน 37 แพทุ่น แพลากจูง 1 หลัง พร้อมวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างอีกจำนวนมาก มูลค่ารวมประมาณ 10 ล้านบาท ขณะตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบ นายธนพัฒน์ อายุ 22 ปี นายสมนึก อายุ 34 ปี ผู้ดูแล และต่อมา น.ส.สาคร อายุ 45 ปี ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่และแสดงตัวเป็นเจ้าของ

น.ส.สาครให้การรับสารภาพว่า แพที่ก่อสร้างทั้งหมดเป็นของตนเอง ชื่อ แพเจ็ดหลัก ที่ดำเนินการก่อสร้าง เพราะไม่ทราบว่าเป็นพื้นที่อุทยานฯ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ ดำเนินคดีข้อหาฐานยึดถือหรือครอบครองที่ดิน ในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต

รวมทั้ง ฐานกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ต่อไป ส่วนของกลางแพทั้งหมดลากจูงไปเก็บรักษาไว้ที่อุทยานฯเขื่อนศรีนครินทร์

นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจยึดแพพักในครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 64/2557สั่ง ณ วันที่ 14 มิถุนายน2557 เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และคำสั่งที่ 66/2557 สั่ง ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2557 เรื่องเพิ่มเติมหน่วยงานสำหรับการปราบปรามหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และนโยบายการปฏิบัติงานเป็นการชั่วคราวในสภาวการณ์ปัจจุบัน

สำหรับเจ้าของแพคือ น.ส.สาคร ส่วน นายธนภัทร เป็นลูกชายและเป็นผู้ดูแลควบคุมคนงานก่อสร้างที่มีนายสมนึก เป็นช่างก่อสร้าง สำหรับสถานที่ที่ใช้ก่อสร้างมีสภาพเป็นคุ้งน้ำเว้าลึกปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ทำให้บดบังสายตา จึงยากแก่การพบเห็นของเจ้าหน้าที่

พื้นที่บริเวณดังกล่าวสามารถคำนวณเนื้อที่ได้ 11 ไร่ 2 งาน 2 ตารางวา ส่วนค่าเสียหายของรัฐอยู่ในระหว่างการดำเนินการทางวิชาการตามระเบียบของทางราชการ ส่วนแพพักรวมทั้งอุปกรณ์ก่อสร้างที่ตรวจยึดเอาไว้ทั้งหมดคาดว่ามีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาท

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอดูหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ในพื้นที่บริเวณที่ตรวจพบแพทั้งหมดปรากฏว่า ทั้ง 3 คน ไม่สามารถนำหลักฐานใดๆมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ได้ แสดงว่าการกระทำของนายธนพัฒน์ น.ส.สาคร และนายสมนึก เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินคดีต่อบุคคลทั้ง 3 ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 และเป็นอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ. ศ. 2504 เนื่องจากการเข้ามาก่อสร้างแพทั้งหมดเป็นการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ การบุกรุก ยึดถือ ครอบครอง พื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวว่า การสร้างแพหรูให้บริการนักท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และมีการคิดค่าบริการที่พักในราคาค่อนข้างแพง บางแห่ง 5,000-10,000 บาท ซึ่งเสมือนการสร้างโรงแรมที่พักในอ่างเก็บน้ำและให้บริการเปิดเป็นโรงแรมที่พักรายวัน บางแห่งก็ไม่มีใบอนุญาติประกอบกิจการโรงแรม

รีสอร์ทที่พักริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์บางแห่งได้ถูกกรมป่าไม้จับกุมดำเนินคดี มานานกว่า 2 ปี ก็ยังมีการประกอบกิจการและให้บริการนักท่องเที่ยวเหมือนปกติ และบางแห่งปลูกสร้างใหม่ในทำเลสวยงาม ก็สามารถเปิดให้บริการในเขตพื้นที่ป่า ในบางแห่งก็มีการซื้อขายเปลี่ยนมือเปลี่ยนชื่อแล้วปรับปรุงก็เปิดให้บริการทั้งที่ยังอยู่ในการดำเนินคดี เหมือนการเปิดให้บริการตามปกติเหมือนไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาก่อน

อัลบั้มภาพ บุกจับแพรีสอร์ทหรู เขื่อนศรีนครินทร์ ทุ่มสร้าง 10 ล้านแต่รุกป่าอุทยาน ภาพที่ 3 / 4

บุกจับแพรีสอร์ทหรู เขื่อนศรีนครินทร์ ทุ่มสร้าง 10 ล้านแต่รุกป่าอุทยาน