อุทยานแห่งชาติเยลโลสโตนกลายเป็นสถานที่ที่หลายคนรู้จักขึ้นมาทันที เนื่องจากเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ หลังมีการเผยแพร่คลิปกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย เข้าไปในพื้นที่ “อันตราย” ของอุทยานแห่งชาติที่ผู้ถ่ายพยายามจะบอกให้กลุ่มนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เพราะมีป้ายเตือนห้ามเข้า

>>>สร้างชื่อเสีย! ทัวร์ไทยบุกเขตหวงห้าม “Yellowstone” เพจดังจวกยับ

“อุทยานแห่งชาติเยลโลสโตน” นับเป็นอุทยานแห่งแรกของโลกและสหรัฐอเมริกา อยู่เขตติดต่อ 3 รัฐได้แก่ ไวโอมิง มอนแทนา และไอดาโฮ มีเนื้อที่ 8,992 ตารางกิโลเมตร ภายในอุทยานประกอบไปด้วยที่ราบสูงและภูเขาสูงมีหน้าผาชัน และทะเลสาบ เยลโลว์สโตนเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีบ่อน้ำร้อน และน้ำพุร้อน มากกว่า 10,000 แห่ง และ 250 แห่งเป็นบ่อน้ำพุร้อน เป็นแมกมาใต้ดินที่พุ่งออกมา มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างเดินทางมาท่องเที่ยวยังที่แห่งนี้ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่จบชีวิตลงที่นี่

ภายในอุทยานแห่งนี้จึงมีป้ายเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังบริเวณบ่อน้ำพุร้อนหรือแหล่งที่มีความร้อนภายในอุทยานแห่งชาติเยลโลสโตน โดยมีข้อความระบุว่า บริเวณพื้นดินดังกล่าวอาจเกิดการยุบตัว เนื่องจากชั้นผิวดินจะบางกว่าพื้นที่อื่น และบางแห่งพบว่าใต้ดินเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ มีความเป็นกรดตกหรือสัมผัสก็จะมีอันตรายต่อผิวหนัง ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการฝ่าฝืนเข้าไปยังบริเวณดังกล่าวหลายร้อยคน และการเดินเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามถือว่าผิดกฎของอุทยาน

ขณะที่ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงอันตรายถึงบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ โดยระบุว่า สถานที่แต่ละแห่งหากมีพื้นที่อันตรายก็จะมีคำเตือนเพื่อเดินตามเส้นทางที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย เช่นเดียวกับสถานที่แห่งนี้เพื่อกันไม่ให้เดินเข้าไปในบริเวณที่เป็นเปลือกของดินโคลน ซึ่งแตกหักง่าย และหากตกลงไป ก็จะเจอกับน้ำร้อนอุณหภูมิสูงมากเกือบถึงจุดเดือด รวมถึงก๊าซพิษ ที่มีอยู่ในบริเวณนั้นและอาจเผลอสูดดมเข้า และเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดที่ทนความร้อนและก่อโรคได้ สังเกตว่าน้ำที่นี้มีสีสันสวยงามเป็นพิเศษ ก็สาเหตุเพราะแบคทีเรียพวกนี้ด้วย

รศ.ดร.เจษฎา บอกเพิ่มว่า นอกจากที่มีคนบาดเจ็บอยู่เรื่อยๆ ทุกปีจากการไปโดนน้ำร้อนลวกที่เยลโลสโตน ก็ยังมีกรณีของชายคนหนึ่งที่ได้ตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อนและ “ละลาย” ไปในภาย 24 ชั่วโมง จากข้อมูลที่พบเมื่อเขาตกลงไปในนาทีแรก ผิวหนังทั่วร่างกายของเขาจะถูกต้มจนสุกด้วยน้ำร้อนกว่า 93 องศาเซลเซียส ร่างกายจะรู้สึกเจ็บปวดจนระบบประสาททนไม่ไหวก่อนจะหยุดเจ็บ ใช้เวลาเพียง 1-2 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้น ผิวหนังชั้นนอก (หนังกำพร้า) ก็จะสลายตัวออก หลอดเลือดทั่วบริเวณใต้ผิวหนังจะฉีกขาดหมด ทำให้เสียเลือดอย่างรวดเร็ว ผิวหนังชั้นล่าง (หนังแท้) จะสูญเสียน้ำ ไหม้เกรียมเป็นสีดำ ชั้นไขมันข้างใต้นั้น ก็จะพุพอง ระเบิดออก ทั้งหมดนี้ก็เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงนาที

จากนั้น อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา อธิบายเพิ่มว่า ระบบประสาททั้งหมดจะเสียการทำงาน อวัยวะต่างๆ จะล้มเหลว และก็จะเสียชีวิตด้วยเวลารวมทั้งหมดแค่ประมาณไม่เกิน 3 นาที จากนั้นร่างก็จะถูกความเป็นกรดของน้ำพุร้อน ย่อยสลาย ด้วยทั้งความร้อนและความเป็นกรดสูงนี้ กระดูกก็จะทนไม่ไหวอีกต่อไป แล้วในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ร่างของก็จะสลายหายไป ไม่เหลืออะไรเลย จึงอยากจะฝากเตือนนักท่องเที่ยวว่า เวลาไปไหนควรจะเชื่อคำเตือนของแต่ละแห่งจะได้ท่องเที่ยวได้อย่างสนุกและปลอดภัย

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์

อัลบั้มภาพ สวยแต่อันตราย! บ่อน้ำพุร้อน “เยลโลว์สโตน ” พร้อมสลายร่างกายภายใน 24 ชม. ภาพที่ 3 / 6

สวยแต่อันตราย! บ่อน้ำพุร้อน “เยลโลว์สโตน ” พร้อมสลายร่างกายภายใน 24 ชม.