(23 พ.ย.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า กระทรวงไอซีที ได้ขอความร่วมมือไปยังเฟซบุ๊ก สำนักงานใหญ่ เพื่อขอให้ปิดหน้าเฟซบุ๊ก (URL) ที่เป็นต้นตอการโพสต์รูป และข้อความที่หมิ่นสถาบันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการโพสต์ข้อมูลดังกล่าว เป็นการกระทำจากต่างประเทศ ทำให้การปิดเว็บดังกล่าวเป็นไปด้วยความลำบาก แต่กระทรวงไอซีที ก็ได้สั่งปิดไปกว่า 10,000 ยูอาร์แอลแล้ว

ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมาเพียงระยะเวลา 2-3 วัน เว็บหมิ่นสถาบันการกระจายรวดเร็วมาก เพราะมีการเชื่อมโยงในกลุ่มเพื่อน เช่นในเฟชบุ๊ก 1 คน มีเพื่อน 10,000 คน ก็จะได้เห็นและได้รับทราบข้อความนั้นทันที ฉะนั้นวอนประชาชนอย่ากด Like หรือประณาม ให้แจ้งยูอาร์แอลต่อกระทรวงไอซีทีทันที ถ้าหากร่วมกด Like ด้วย จะเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์พ.ศ.2550

สำหรับกรณีที่มีการสอบถามว่า เหตุใดการสืบเสาะหาผู้กระทำผิดการใช้ทวิตเตอร์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงเป็นไปด้วยความรวดเร็ว แต่การปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นสถานบันถึงเป็นไปด้วยความล่าช้า น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า การเข้าไปใช้บัญชีทวิตเตอร์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ แตกต่างจากการโพสต์รูป และข้อความ เปรียบเสมือนเมื่อโจรเข้าบ้าน ก็สามารถจับโจรได้ แต่การโพสต์ข้อความและรูปนั้น ตัวตนของผู้กระทำความผิดอยู่ต่างประเทศ

นอกจากนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาแถลงข่าว และนำำภาพของนายณัฐวุฒิ ด้วงนิล ซึ่งเป็นบุคคลที่เคยถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมในข้อหาเป็นผู้โพสต์สื่อออนไลน์หมิ่นสถาบัน และกล่าวว่าตนเป็นคนแต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ในกระทรวงไอซีที ว่า บุคคลดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงไอซีที ส่วนภาพถ่ายที่ถูกนำมาเผยแพร่นั้น เป็นวันที่มีกลุ่มผู้ชุมชนมาเรียกร้องให้ไอซีทีจัดการกับเว็บหมิ่นอย่างจริงจัง และนายณัฐวุฒิ ก็เดินมาใกล้ๆ จนกลายมาเป็นภาพดังกล่าวขึ้นมา"

อัลบั้มภาพ รมว.ไอซีที รับปราบเว็บหมิ่นยาก ชี้ต้นตออยู่ต่างประเทศ ภาพที่ 2 / 2

รมว.ไอซีที รับปราบเว็บหมิ่นยาก ชี้ต้นตออยู่ต่างประเทศ