หลังจากสัปดาห์ก่อนสิ่งที่กลายเป็นความเหวอขั้นสุดของรายการในซีซั่นนี้ คือการที่เมนทอร์บีใช้วิธีการให้ผู้เข้าแข่งขันอย่างฮาน่าและมินต์ ใช้ดวงในการตัดสินตัวเองว่าใครจะได้อยู่ในรายการต่อและใครจะต้องเดินออกจากรายการไปด้วยวิธีการเป่ายิ๊งฉุบ และผลลัพธ์ที่ออกมา กลายเป็นว่าดวงของฮาน่าสู้มินต์ไม่ได้ เธอจึงต้องเดินออกไปจากรายการอีกครั้ง

มุมที่ 1: WOMAN ON TOP
ชั้นเรียนมาสเตอร์คลาสประจำสัปดาห์นี้ เมนทอร์ลูกเกดได้มาสอนวิธีการถ่ายแบบและตีโจทย์ในธีม Woman on Top ซึ่งว่าด้วยวิธีการใช้พลังอำนาจของผู้หญิงในการถ่ายภาพและแสดงอินเนอร์เพื่อข่มผู้ชายให้อยู่ภายใต้อาณัติของตน
ที่เราเคยว่ากันไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าขนาดน้ำมะพร้าวยังสามารถเข้ามาไทน์อินในช่วงมาสเตอร์คลาสได้ ทำไมประกันชีวิตอย่างกรุงไทยแอ็กซ่า จะทำแบบนั้นบ้างไม่ได้ ทั้งที่เอาเข้าจริงแล้วธีมถ่ายแบบ Woman on Top กับประกันที่คุ้มครองชีวิตนั้น เหตุผลมันไปด้วยกันไม่ได้เลยก็ตามที แต่เอาเถอะอย่างน้อยเราจึงได้เห็นวิธีการตีความของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนในการถ่ายทอดอารมณ์ ในการถ่ายภาพนิ่งให้ออกมาได้ดูดีและโดดเด่นแตกต่างกันไป

มุมที่ 2: HEAVEN HELPS ME
ขอให้สวรรค์ช่วยคุณ แต่สวรรค์ก็คงช่วยให้ทีมไหนชนะไม่ได้ ถ้าผู้เข้าแข่งขันไม่มีความสามารถเพียงพอ ความน่าสนใจในการทำแคมเปญในสัปดาห์นี้คือ แต่ละทีมถูกเลือกให้ถ่ายภาพสินค้าเครื่องดื่ม Slim Drink มีด้วยกันสามสี สามรสชาติอันประกอบไปด้วยสีเขียว – อารมณ์ของภาพที่ลูกค้าต้องการคือความสตรอง สีม่วง – ต้องการอารมณ์ของภาพที่มีความผ่อนคลาย สีชมพู – ต้องการอารมณ์ภาพที่มีความเซ็กซี่และร้อนแรง
มินต์ผู้ชนะในมาสเตอร์คลาสจึงเลือกคอนเซปให้แต่ละทีมดังนี้ ร้อนแรง – ทีมคริส ผ่อนคลาย – ทีมลูกเกด สตรอง – ทีมบี ซึ่งจะว่าไปแล้วตัวมินต์เองก็มีวิธีการเลือกที่จัดได้ว่าฉลาดไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะเลือกได้เหมาะกับคาแรกเตอร์ของทีมตัวเอง ง่ายต่อการทำงาน แต่ท้ายที่สุดแล้วการทำงานของแต่ละทีมในสัปดาห์นี้ เห็นได้ชัดเลยว่าทีมไหนทำงานเป็นอย่างไร มีความพยายามมากแค่ไหน และใครชนะเพราะดวงช่วย!

มุมที่ 3 ทีมคริสกับห้องดำ
ทันทีที่ทีมคริส ทราบผลของการทำแคมเปญ จูลี่ก็ถึงกับร้องไห้ (อีกแล้ว) ว่าทำไมทีมคริสถึงไม่ชนะ คริสยังฝากบอกจูลี่ว่ารูปของเธอเป็นหนึ่งในรูปที่ลูกค้าชื่นชม ส่วนรูปของเกรซอาจจะมีข้อบกพร่องค่อนข้างเยอะเมื่อรูปของเธอประสบปัญหาเรื่องการ “เผยอปาก” เป็นส่วนใหญ่
ท้ายที่สุดเมนทอร์คริสก็ตัดสินใจให้จูลี่เข้าห้องดำ และจูลี่ก็ร้องไห้อีกรอบ อย่างไรก็ตามคริสก็สอนให้จูลี่พูดอธิบายเหตุผลว่าทำไมเธอจึงสมควรได้อยู่ต่อ และจากวันนั้นถึงวันนี้เธอมีพัฒนาการจากคำสอนของพี่เกดมากแค่ไหน วิธีการเลือกใครสักคนเข้าห้องดำของทีมคริส จึงเป็นวิธีการคิดแบบ “คิดเผื่อ” ชัยชนะ เพราะสัปดาห์ถัดไปคือสัปดาห์ที่เมนทอร์จะต้องเลือกลูกทีมไปเดินไฟนอลวอล์ค นั่นหมายความว่าเธอต้องเลือกคนที่ “มีโอกาส” ทำให้ทีมชนะมากกว่านั่นเอง

มุมที่ 4 การจากไปของจูลี่
นี่คือการเข้าห้องดำครั้งที่ 3 ของทับทิม และครั้งที่ 2 ของจูลี่ แต่ละคนมีโอกาสได้อธิบายเหตุผลของตัวเอง ทับทิมเธอถูกส่งเข้ามาในห้องนี้เพราะรูปของเธอนั้นไม่สตรองพอกับคอนเซป ในขณะที่จูลี่บอกว่ารูปของเธอเป็นรูปที่ดี แม้ว่าเธอจะไม่ชนะ แต่เธอเชื่อว่าเธอมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก อย่างไรก็ตามเมนเทอร์ลูกเกดก็เห็นพัฒนาการของทั้งสองที่มีมากขึ้น แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอสำหรับสองคนที่ยังไม่เคยทำให้ทีมคว้าชัยชนะได้เลยสักครั้ง
ท้ายที่สุดเมนทอร์ลูกเกดบอกว่า เธอเป็นคนที่พูดจริง ว่าถ้าหากเธอเจอจูลี่ในห้องดำ เธอจะโดนตัดออก แต่อย่าลืมว่าจริงๆแล้วลูกเกดเองก็เคยพูดเอาไว้เหมือนกันว่า “อย่าให้เจอเกรซในห้องดำเด็ดขาด ตัดออกแน่นอนคนนี้น่ากลัว” เมื่อหลายตอนที่แล้วเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว ณ เวลานี้ทีมที่มีผู้เข้าแข่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือทีมคริสนั่นเอง

มุมที่ 5 ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับสปอยล์หลุดก่อนรายการออนแอร์
2 คนสุดท้ายของทีมคริส ไม่แตกต่างอะไรเลยจากซีซั่นที่ 2 ที่ทีมคริสเหลือแค่ กวางและเจสซี่ เธอถูกคัดลูกทีมออกจนเหลือคนเดียวก่อนรอบไฟนอลวอล์ค ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน เธอเหลือแค่เพียงเกรซคนเดียวเท่านั้น แต่คนเดียวที่เหลืออยู่ในปีนี้ก็ดูมีศักยภาพที่มีโอกาสจะได้เป็นเดอะเฟสไทยแลนด์ในปีนี้อยู่เหมือนกัน เมื่อลูกทีมอีก 3 คนของทีมบีและทีมลูกเกด ก็ยังดูไม่มีใครโดดเด่นเพียงพอที่จะคว้าตำแหน่ง “ที่สุด” ของรายการในปีนี้

อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ทำให้อรรสรถของ EP11 ลดลงกระจุย คือรูปภาพสปอยล์ที่หลุดมาก่อนรายการจะออนแอร์และแพร่ระบาดไปในโลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว จนคนดูเกิดคำถามตามมาว่า ทำไมไม่เป็นทับทิมที่ออกจากรายการแต่เป็นจูลี่!
ทว่ากระแสของ EP11 ก็ดูจะเงียบงันกว่าตอนอื่นๆ เพราะออนแอร์ในช่วงที่คนดูส่วนมากยังออกไปเล่นน้ำสงกรานต์กันอยู่ ทำให้รายการดูไม่เป็นที่พูดถึงนัก และกว่ารายการจะเป็นกระแสว่าจูลี่ออกไปจากรายการเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างก็ดูจะล่วงเลยมาสักระยะ

สัปดาห์หน้า ใครจะเป็น 3+1 ที่จะได้มีโอกาสไปเดินไฟนอลวอล์คบ้าง เราคงจะได้รู้กันซักที

@PRETTYPLASALID

อัลบั้มภาพ มอง 5 มุมกับ The Face Thailand 3 EP11 ความเงียบงัน ภาพที่ 4 / 7

มอง 5 มุมกับ The Face Thailand 3 EP11 ความเงียบงัน

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

มองหลายมุมกับ The Face Thailand 3 EP13 บทสรุปของซีซั่น

มอง 5 มุมกับ The Face Thailand 3 EP12 คุณค่าของความขยัน

ญาญ่า เยือน The Face Thailand 3 ลูกเกด บอกเลยแคมเปญนี้ตายแน่ๆ

มอง 5 มุมกับ The Face Thailand 3 EP10 : เป่า ยิ้ง ฉุบ