Seabiscuit : หนังชีวิต “ม้าพิชิตโลก”

ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความ “ไม่พร้อม” ชีวิตมีส่วนที่ขาดวิ่น เว้าแหว่ง และต่างดิ้นรนเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาด แต่เอาเข้าจริง การอุดช่องโหว่ในชีวิต เติมให้มันสมบูรณ์เท่าที่ควรจะเป็น ก็ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่คิด แต่เชื่อเถอะมันเป็นไปได้ หากเราไม่ยอมยกธงขาวไปเสียก่อน… Seabiscuit หนังเก่าแนวดราม่าเรียกน้ำตา และกำลังใจ สอนให้คนดูคิดแบบนั้น

เล่ากันง่ายๆ สั้นๆ Seabiscuit เป็นหนังฟอร์มเล็กที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริงของการเดินทางสู่ชัยชนะของม้านอกสายตาอย่างเจ้า Seabiscuit หนังดำเนินเรื่องด้วยชีวิตขาดๆ ของชาย 3 คน ที่ต่างเจ็บปวดกับบาดแผลในอดีต คนหนึ่งสูญเสียลูก ถูกเมียทิ้ง คนหนึ่งแปลกแยกจากสังคม และกับอีกหนึ่งคนไร้บ้านที่เหลือดวงตาเพียงข้างเดียว โชคชะตานำพาพวกเขามาเจอกันเพื่อปั้นม้าตัวเล็ก กินจุ จอมขี้เกียจอย่างเจ้า Seabiscuit ให้กลายเป็นม้าแข่งมีชื่อ

ในช่วงแรกของเส้นทางสู่ชัยชนะ ทั้งม้าและคนต่างล้มลุกคลุกคลาน เหน็ดเหนื่อยกับการเรียนรู้วิธีการไปถึงคำว่า “ผู้ชนะ” นั่นเป็นเพราะ ก่อนหน้าที่เจ้า Seabiscuit จะมาพบกับชายทั้ง 3 ทุกครั้งที่มันลงแข่ง มันเป็นเพียงม้าตัวรอง ที่มีหน้าที่เพียงทำให้ม้าแข่งตัวอื่นวิ่งเข้าสู่เส้นชัย มันถูกฝึกให้ แพ้ แพ้ แพ้ และแพ้ จนเคยชินและคิดว่ามันคงเป็นได้เพียง “ม้าขี้แพ้” เหมือนที่ทุกคนอยากให้มันเป็น

ในชีวิตจริงหลายคนก็คิดแบบเจ้า Seabiscuit ชีวิตเจอแต่เรื่องแย่ๆ ชีวิตไม่เคยได้ลืมตาอ้าปาก ชีวิตเจอแต่คนเอารัดเอาเปรียบ เสพความเป็นรอง คุ้นเคยกับความพ่ายแพ้ จนเผลอคิดไปว่าชีวิตตัวเองคงไปไกลกว่านี้ไม่ได้ เมื่อเรายอมรับกับคำว่า “ไอ้ขี้แพ้” เราจะหมดกำลังใจ หมดแรงที่จะไปยืนอยู่ในจุดที่จะมีโอกาสคว้าเหรียญทองมาคล้องให้กับชีวิตเหมือนที่คนอื่นทำได้

ทุกอย่างจะเปลี่ยน เมื่อความคิดเปลี่ยน…ชัยชนะของเจ้าม้าแคระเกิดจากชาย 3 คนไม่เชื่อว่าเจ้า Seabiscuit และพวกเขาจะเป็นพวกไอ้ขี้แพ้ไปตลอดชีวิต พวกเขาจึงร่วมกันดึงศักยภาพที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีออกมาพร้อมๆ กับปลุกไฟนักสู้ในใจของเจ้า Seabiscuit พยามฝึกฝน ฝึกฝน และฝึกฝน จนในที่สุดเจ้า Seabiscuit ก็คว้าชัยชนะและเงินรางวัลให้มากมาย

แต่ก็ต้องยอมรับว่า ระหว่างทางสู่ชัยชนะของเจ้า Seabiscuit ไม่ได้ผ่านเพียงการฝึกฝนอย่างหนักเท่านั้น เพราะครั้งหนึ่งที่ขาหน้าของมันได้รับบาดเจ็บ จนลงแข่งไม่ได้ หลายคนคิดที่จะฆ่ามันทิ้ง เพราะ “ม้าที่วิ่งไม่ได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับม้าที่ตายไปแล้ว” แต่เพราะไฟนักสู้ที่รุกขึ้นแล้ว จะไม่มีวันดับมอดลงไปง่ายๆ ทำให้เจ้า Seabiscuit ฮึดสู้และกลับมาลงแข่งอีกครั้งจนคว้าชัยชนะ และกลายเป็นม้าแข่งที่เป็นฮีโร่ตลอดกาลของชาวอเมริกันในช่วงปี 1933-1947 รวมทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังของคนอเมริกันในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำที่สุดในโลกอีกด้วย

“เราคงไม่ทิ้งชีวิตทั้งชีวิต เพียงเพราะมันบาดเจ็บนิดหน่อยหรอกนะ” ประโยคเด็ดในหนังที่ถูกใช้ตอนที่เจ้า Seabiscuit หวิดถูกฆ่าเพราะขาหน้าของมันได้รับบาดเจ็บ….ใช่ ประโยคนี้เป็นแนวทางซ่อมแซมชีวิตของมนุษย์เราได้ดีไม่ต่างกัน เพราะเราไม่ควรทิ้งชีวิตของเราทั้งชีวิต เพียงเพราะเราตกงาน อกหัก สอบไม่ติด ทะเลาะกับแฟน พ่อ-แม่ไม่เข้าใจ หรือแม้แต่เจ้านายด่า เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มันเป็นเพียงรอยขีดข่วน บาดแผลเล็กน้อยที่ทุกคนต้องเจอ และมันยังช่วยยืนยันว่าเราทุกคนล้วนเป็นคนที่ขาดวิ่น รุ่งริ่ง ไม่สมบูรณ์ด้วยกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่เราทำได้คือซ่อมแซมชีวิตของเราด้วยการเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และสู้เหมือนอย่างที่เจ้า Seabiscuit ทำได้ เพื่อสุดท้ายเราจะได้รู้ว่าที่ยืนของผู้ชนะ และผู้สำเร็จมันทำให้ข้างในจิตใจของเราพองโตมากเพียงใด

อัลบั้มภาพ เจาะลึกสะท้อนชีวิต! Seabiscuit : หนังชีวิต 'ม้าพิชิตโลก' ภาพที่ 3 / 4

เจาะลึกสะท้อนชีวิต! Seabiscuit : หนังชีวิต 'ม้าพิชิตโลก'