5 เรื่องควรรู้ก่อนดู Need For Speed

เพื่อเป็นการต้อนรับภาพยนตร์ใหม่มาแรงที่กำลังจะเข้าอย่าง Need For Speed ภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดซิ่งที่สร้างจากเกมขับรถยอดฮิตที่ทั้งแฟนเกม และแฟนหนังรอคอยกับการขับรถไล่ล่าที่ไม่ใช่แค่รถธรรมดา แต่ครั้งนี้คือการขับเคี่ยวกันของรถระดับซูเปอร์คาร์ กับการชนกันแบบวินาศสันตโรตามแบบฉบับที่เกมเมอร์ติดใจ และปริศนาของเรื่องราวที่ว่า มันคือการซิ่งเพื่อชำระแค้น หรือการไถ่บาปกันแน่?

ด้วยการวางปม การวางเนื้อเรื่อง อีกทั้งยังสร้างมาจากเกมส์อีก คงมีคอเกมส์ไม่น้อยเลยที่กำลังรอดูหนังเรื่องนี้อยู่ แต่ก็คงไม่นานเกินรอ เพราะ หลังสงกรานต์ เราก็จะได้ชมการขับรถสุดซิ่ง มันส์กระฉูดกันแล้ว แต่ก่อนที่เราจะไปซิ่งกันให้สุดๆกัน มาอ่านเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนเข้าชมกันดีกว่า

1. Need For Speed เป็นหนังที่ถูกดัดแปลงมาจากเกมแข่งรถชื่อดังมาก ผู้เล่นจะสามารถเลือกรถแข่งที่ตัวเองต้องการนำเอามาดัดแปลงในสไตล์ที่ตนชอบก่อนเอาไปประลองความเร็วในสนามแข่งจำลอง หรือท้องถนนยามวิกาล ซึ่งค่ายที่เป็นเจ้าของอย่าง Electronic Arts ได้พัฒนาตัวเกมอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันเกมออกมาแล้วทั้งสิ้นทั้งหมด 20 ภาค โดยเกมภาคแรกวางแผงในชื่อ The Need for Speed ปี 1994 และภาคล่าสุด ชื่อ Need for Speed Rivals ในปี 2013 และยังไม่นับรวมภาคแยกย่อยที่แตกหน่อออกไปอีก

2.นี่เป็นหนังที่ได้รับการกำกับโดยสตันท์แมนฝีมือดีอย่าง สก็อต วอห์ เขาเป็นผู้กำกับที่สามารถทำให้หนังทหารฟอร์มเล็กอย่าง Act of Valor โกยรายได้อย่างดงงามบนเวทีบ๊อกซ์ออฟฟิศ ซึ่งประสบการณ์ชั่วโมงบินของการเป็นผู้กำกับนั้นเขาอาจจะยังไม่มากก็ตาม แต่ประสบการณ์งานสตันท์นั้นเรียกได้ว่าเขาพกความมั่นใจมาเกิน 100 ความชำนาญของเขาจึงเป็นจุดแข็งประการสำคัญที่จะทำให้ Need for Speed กลายเป็นภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วยฉากขับรถเสี่ยงตาย

3. หนังเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยรถสวยๆ[และราคาในระดับอภิมหาโคตรแพง]ไม่ว่าจะเป็นมัสแตงคลาสสิคจากยุค 70 รถซูเปอร์คาร์ราคาแพงของยุโรป รถที่เป็นหัวใจหลักของเรื่องก็คือรถมัสแตงสีบลอนด์เทาซึ่งโมดิฟายด์ให้เหมาะกับยุคสมัยซึ่งในเรื่องรถคันนี้จะเป็นหัวใจหลักที่ โทบี้(แอรอน พอล) และจูเลีย (อิโมเกน พุทส์) จะต้องขับมันไปไกลเกือบค่อนประเทศเพื่อเดินทางไปร่วมการแข่งขันเดอ ลีองเพื่อพิสูจน์ความจริงและล้างแค้นให้กับ ลิตเติล พีท (แฮร์ริสัน กิลเบิร์ทสัน) ที่เสียชีวิตในการแข่งรถเมื่อ 2 ปีก่อน

4.โทบี้ มาร์แชล เป็นตัวละครที่ลอกแบบมาจากนักแสดงชื่อดังในอดีตอย่าง สตีฟ แม็คควีนในวัยหนุ่ม ซึ่งเขามีผลงานการแสดงเรื่อง The Great Escape” (1963) และ “The Getaway” (1972) ซึ่งเขาเพียบพร้อมไปด้วยหน้าตา คารม เสน่ห์และเป็นผู้ชายที่ชอบลิ้มรสกับความอันตราย เพราะเขาชอบแสดงหนังแอ็คชั่นแล้วก็เล่นฉากผาดโผนด้วยตัวเองโดยไม่กลัวการบาดเจ็บ แอรอน พอลกลายเป็นนักแสดงนำในเรื่องก็เพราะผู้กำกับเข้าตาการแสดงของเขาจากซีรีย์ Breaking Bad ในบทเจสซี พิงค์แมน

5.ฉากขับรถเกือบ 100% ในเรื่องเป็นการโชว์งานสตันท์ของจริง ไม่ใช่การแสดง CG หรือถ่ายผ่านกรีนสกรีน ซึ่งตัวผู้กำกับต้องการให้งานออกมาสมจริงที่สุดเช่นเดียวกับตอนที่สก็อต วอห์กำกับ Act of Valor ซึ่งเรื่องนั้นเป็นหนังเกี่ยวกับหน่วยทหารเขาก็เลือกใช้ ทหารนาวีซีลจริงๆ โดยการถ่ายฉากรถคว่ำกลางอากาศนั้นตัวสตันท์แมนและกล้องก็อยู่ในรถด้วย โดยฉากเหล่านี้พวกเขาก็เตรียมพร้อมเรื่องความปลอดภัยของตัวสตันท์อย่างเต็มร้อยจนได้ภาพในมุมกล้องที่ผู้ชมจะได้รับอรรถรสที่แตกต่างออกไปจากที่เคยชมมาอย่างแน่นอน

โดยว่าด้วยเรื่องราวเมื่อ โทบีย์ มาร์ชอล แอรอน พอล (Aaron Paul) ตัดสินใจสร้างรถแข่งขึ้นมาร่วมกับอดีตนักแข่ง Nascar ดีโน่ บรูว์สตาร์ โดมินิค คูเปอร์ (Dominic Cooper) ซึ่งเขาเชื่อว่าหากชนะการแข่งด้วยรถคันนี้ น่าจะช่วยให้เขาฟื้นฟูกิจการที่กำลังย่ำแย่ขึ้นมาได้ แต่แล้วผลกลับผิดคาด เมื่อดีโน่กล่าวหาว่าโทบีย์เป็นฆาตกร จนเขาต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในคุก

ด้วยความแค้น 2 ปีต่อมาเมื่อเขาได้ออกมาจากคุก โทบีย์จึงหมายจะล้มดีโน่ให้ได้ในการแข่งรถ De Leon race การแข่งรถครั้งยิ่งใหญ่สำหรับวงการแข่งรถใต้ดิน อย่างไรก็ตาม ตลอดทางเขาต้องเผชิญอุปสรรคมากมาย ทั้งการไล่ล่าของตำรวจ รวมทั้งลูกเล่นที่ดีโน่วางเอาไว้ แต่ด้วยความช่วยเหลือของจูเลียนายหน้าขายรถและความมุ่งมั่นของเขา ทำให้จุดหมายในครั้งนี้ไม่ไกลเกินเอื้อม

Need For Speed มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 17 เมษายนและเปิดรอบพิเศษตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน

ตัวอย่าง หนัง Need for Speed

อัลบั้มภาพ 5 เรื่องควรรู้ก่อนดู Need For Speed ภาพที่ 8 / 16

5 เรื่องควรรู้ก่อนดู Need For Speed

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

ช่างมันฉันไม่แคร์ Need for Speed เตรียมภาคต่อแม้ภาคแรกเจ๊งในบ้านเกิด

วิจารณ์หนัง Need For Speed

Need for Speed

บรรดาหนุ่มคูลและรถสุดเท่จากหนังซิ่งเรื่องใหม่ Need for Speed