4 เคล็ด (ไม่) ลับสำหรับมือใหม่อยากตื่นเช้า

4 เคล็ด (ไม่) ลับสำหรับมือใหม่อยากตื่นเช้า

4 เคล็ด (ไม่) ลับสำหรับมือใหม่อยากตื่นเช้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การตื่นเช้าน่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ใครๆ ก็รู้ว่าดี และควรจะทำ แต่ทำไม่ได้ ด้วยหลายๆ สาเหตุ ไม่ว่าจะตั้งใจมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วเช้าวันใหม่มันมักจะเริ่มด้วยอิทธิฤทธิ์เตียงดูดวิญญาณ แล้วจบลงด้วยอาการลนลานควานหาเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และไปถึงที่ทำงานด้วยสภาพเยินๆ งงๆ ซะมากกว่า

...แต่ถึงมันจะยาก ก็ใช่ว่าเราจะฝึกกันไม่ได้ เพราะการตื่นเช้าก็เหมือนกับอีกหลายๆ ทักษะในชีวิตที่เราสามารถฝึกกันได้ แล้วเราจะฝึกตื่นเช้าไปเพื่ออะไรกันล่ะ?

คนที่ติดใจการตื่นเช้าหลายๆ คนจะรู้ว่าวันที่ได้เริ่มวันใหม่แต่เช้าตรู่ คือวันที่มี “มากกว่า 24 ชั่วโมง” เพราะจะได้พาตัวเองไปอยู่ในที่ที่อยากอยู่ได้มากขึ้น ทำสิ่งที่อยากทำได้มากขึ้น แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ล้วนดีกับตัวคุณเอง
สิทธิพิเศษเหล่านี้จะได้มาด้วยการตื่นเช้าเท่านั้น เราจึงอยากชวนให้คุณมาฝึกตื่นเช้า ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ 4 ข้อ ดังนี้

1.จดรายการ “สิ่งที่ต้องทำ” ล่วงหน้า
ไม่อยากตื่นสายก็อย่านอนดึก เป็นเหตุเป็นผลที่เข้าใจได้ง่ายสุดๆ แต่จริงๆ แล้วกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยตั้งใจจะนอนก่อนสี่ทุ่ม แล้วก็กลายเป็นว่างานนั้นก็ไม่เสร็จ งานนี้ก็ทำไม่ทัน นี่แหละคือความสำคัญของ “รายการสิ่งที่ต้องทำ” หรือ To-do list มันเกิดมาเพื่อแก้ปัญหานี้ เมื่อรู้ว่ามีอะไรที่ต้องทำบ้าง ก็จะทำให้เราบริหาร “เวลาที่มี” กับ “งานที่ต้องทำ” ในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ พอถึงเวลาเข้านอนก็อย่าลืมอยู่ให้ห่างจากโซเชียลมีเดียด้วยล่ะ เพราะเจ้านี่แหละคือเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ใครหลายคนต้องนอนดึกโดยไม่จำเป็น

2. วางนาฬิกาปลุกให้ห่างจากเตียงนอน
เคยไหมที่วางนาฬิกาปลุกไว้ใกล้เกินไปจนไม่ต้องใช้ความพยายามในการปิดเสียงโหวกเหวกโวยวายของมัน นั่นอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณไม่ตื่นก็ได้นะ ปิดปุ๊บ นอนต่อปั๊บ แล้วก็กลายเป็นนอนยาวเหมือนทุกที สำหรับมือใหม่หัดตื่นเช้า ขอแนะนำให้วางนาฬิกาปลุก หรือมือถือเอาไว้ไกลๆ จากที่นอน (แต่ไม่ต้องไกลมากจนไม่ได้ยินเสียงนะ) เพื่อให้คุณได้ใช้ความพยายามมากขึ้นอีกนิดในการกดปิดเสียงนาฬิกาปลุก บางทีระหว่างที่คุณกำลังเดินไปอีกมุมห้องเพื่อจัดการกับเสียงปลุกสนั่นหวั่นไหว มันอาจจะเป็นจังหวะที่ทำให้คุณตื่นเต็มตาก็ได้

3. เตรียมของที่ต้องใช้ในตอนเช้าไว้ให้พร้อม
เพื่อไม่ให้คุณล้มเลิกความตั้งใจที่จะตื่นมาทำเรื่องดีๆ ในตอนเช้า เราขอแนะนำให้คุณเตรียมทุกอย่างที่ต้องใช้เอาไว้ให้พร้อม ในที่ที่มองเห็นได้ชัดตั้งแต่ตื่นนอน ด้วยวิธีนี้คุณจะไม่ลืมว่าคุณมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าแค่ไหนในช่วงก่อนเข้านอน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณตั้งใจจะออกไปจ๊อกกิ้งเบาๆ ตอนเช้ามืด ก็เตรียมชุดออกกำลังกายและอุปกรณ์ต่างๆ เอาไว้ให้พร้อม ในที่ที่คุณจะมองเห็นได้ทันทีเมื่อเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอน นอกจากจะไม่ลืมภารกิจที่สัญญาไว้กับตัวเองแล้ว คุณก็ยังไม่ต้องเสียเวลาหาของเหล่านั้นด้วย การเสียเวลาหาของที่ต้องใช้แค่ 15 นาทีระหว่างที่กำลังงัวเงียเพราะเสียงนาฬิกาปลุก อาจทำให้คุณรู้สึกว่าการเริ่มวันใหม่ในตอนเช้ามันช่างยากและวุ่นวายเหลือเกิน ว่าแล้วก็ล้มตัวลงบนที่นอนเถอะ ง่ายกว่าเยอะเลย

4. เตรียมอาหารเช้าที่อยากกินไว้ตั้งแต่ก่อนนอน
บางครั้งที่นาฬิกาปลุกดังแล้วคุณลุกขึ้นมาปิด พร้อมกับพูดว่า “ขออีก 10 นาทีละกันนะ” ไปเรื่อยๆ อาจจะเป็นเพราะคุณไม่มีเป้าหมายที่อยากทำในตอนเช้าก็ได้นะ เมื่อได้สร้างแรงผลักดันให้ตัวเองแล้ว คุณอาจจะกลายเป็นคนที่อยากให้เช้าวันใหม่มาถึงเร็วๆ เพื่อที่จะได้กระโจนออกจากเตียงนอนนุ่มๆ พุ่งทะยานไปสู่เป้าหมายนั้น แรงจูงในการตื่นเช้าของคนบางคนคือของกิน ฟังดูไม่มีสาระและอาจจะดูตลก แต่มันได้ผลนะ เพราะอย่างน้อยที่สุด เมื่อนาฬิกาปลุกดัง คุณก็รู้ว่าเช้านี้มีอาหารที่อยากกินรออยู่ ในกรณีที่คุณไม่ใช่คนประเภทที่จะเอาของกินมาหลอกล่อได้ ก็ลองเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นที่คุณมี Passion กับมันมากๆ หรือเป้าหมายในเรื่องที่อยากจะไปถึง

แค่เริ่มต้นวันใหม่ให้เช้ากว่าเดิมวันละ 1 ชั่วโมง เพียงแค่ผ่านไป 1 สัปดาห์ คุณก็จะมีเวลามากขึ้น 7 ชั่วโมง ซึ่ง 7 ชั่วโมงนี้ อาจทำให้คุณอ่านหนังสือดีๆ จบไป 1 เล่ม วิ่งได้ไกลขึ้น ใช้เวลากับคนที่รักได้นานขึ้น เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสดชื่นมากขึ้น

การจะตื่นเช้ามันไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งสำคัญคือการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองให้ได้ มันอาจจะฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อคุณทำเรื่องเล็กๆ แบบนี้ได้ คุณจะรักตัวเองมากขึ้น เห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น สิ่งนี้แหละที่มันจะพาคุณไปอยู่ในจุดที่ดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook