Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. กว่า 7.2 หมื่นล้านเหรียญ

กลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกที่สั่นสะเทือนวงการสื่อและเทคโนโลยีทันที เมื่อ Netflix เจ้าตลาดสตรีมมิ่ง ประกาศเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. (WB) ด้วยมูลค่ามหาศาลถึง 72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท) ซึ่งดีลนี้จะทำให้ Netflix ได้ครอบครองคลังคอนเทนต์ระดับตำนาน รวมถึงบริการคู่แข่งอย่าง HBO Max ด้วย!
รายละเอียดของดีลเป็นอย่างไร
ดีลนี้มีความซับซ้อนทางโครงสร้างพอสมควรครับ ไม่ใช่การจ่ายเงินแล้วจบ โดยมีขั้นตอนดังนี้
- บริษัทแม่อย่าง Warner Bros. Discovery (WBD) จะต้องทำการแยกส่วนธุรกิจกลุ่มเครือข่ายโทรทัศน์ (Global Networks) ออกไปตั้งเป็นบริษัทมหาชนใหม่ในชื่อ "Discovery Global"
- หลังจากแยกตัวเสร็จ Netflix จะเข้าซื้อส่วนที่เหลือ ซึ่งก็คือแผนก "Streaming & Studios"

สิ่งที่ Netflix จะได้ไป
- สตูดิโอภาพยนตร์ Warner Bros.
- สถานีโทรทัศน์พรีเมียม HBO
- บริการสตรีมมิ่ง HBO Max
สิ่งที่ Netflix ไม่ได้ ไป
- สำนักข่าว CNN
- ช่องสารคดี Discovery และช่องเคเบิลในเครือ
- ช่องกีฬา TNT Sports
อนาคตของหนังและ HBO Max จะเป็นอย่างไร?
ทาง Netflix ระบุวิสัยทัศน์ไว้ชัดเจนว่า "จะยังคงรักษาการดำเนินงานของ WB ไว้เช่นเดิม" ซึ่งรวมถึงการส่งภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ (Theatrical releases) ไม่ได้ดึงมาลงแอปฯ ทันทีทั้งหมด
แต่ไฮไลต์สำคัญคือ "คลังคอนเทนต์" โดย Netflix ยืนยันว่าจะนำคลังหนังและซีรีส์มหาศาลของ WB รวมถึงรายการจาก HBO และ HBO Max เข้ามาให้บริการแก่สมาชิก Netflix แต่ในฝั่งของผู้ใช้งานอย่างเรายังต้องลุ้นกันต่อว่า แอปพลิเคชัน HBO Max จะยังเปิดให้บริการแยก หรือจะถูกยุบรวมฟีเจอร์และคอนเทนต์เข้าไปอยู่ในแอป Netflix แอปเดียว?
ดีลนี้จะเสร็จเมื่อไหร่?
ใครที่รอดู Harry Potter หรือ Game of Thrones บน Netflix อาจจะต้องร้องเพลงรอไปก่อน เพราะกระบวนการแยกบริษัทและควบรวมกิจการครั้งนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 12-18 เดือน หรือประมาณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2026
ถือว่าเป็นการขยับตัวครั้งใหญ่ที่สุดของ Netflix เพื่อปิดจุดอ่อนเรื่อง IP (Intellectual Property) หรือแฟรนไชส์หนังดังที่ตัวเองมีน้อยกว่าคู่แข่งอย่าง Disney+ การได้คลังของ WB มาอยู่ในมือ จะทำให้สงครามสตรีมมิ่งดุเดือดยิ่งกว่าเดิมแน่นอนครับ
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี



