Apple เปิดตัวชิป M5 เขย่าวงการอีกครั้งด้วยสถาปัตยกรรม AI ที่ทรงพลังที่สุด

เรียกว่ามาตามนัดเลยเพราะล่าสุด Apple เปิดตัว M5 ชิปเซ็ตเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเซมิคอนดักเตอร์อีกครั้ง โดยครั้งนี้ไม่ใช่แค่การอัปเกรดความเร็วทั่วไป แต่เป็นการปฏิวัติสถาปัตยกรรมที่มุ่งเน้นไปที่ AI (Artificial Intelligence) อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อปลดล็อกขีดความสามารถใหม่ๆ ให้กับ MacBook Pro, iPad Pro และ Vision Pro

GPU สถาปัตยกรรมใหม่

จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของชิป M5 คือ GPU 10-core ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยในแต่ละคอร์ได้มีการฝัง "Neural Accelerator" เข้าไปโดยตรง ซึ่งเป็นการออกแบบที่ชาญฉลาด ทำให้ GPU ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ประมวลผลกราฟิก แต่ยังสามารถเร่งความเร็วเวิร์กโหลดด้าน AI ได้ในระดับฮาร์ดแวร์

ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพการประมวลผล AI ผ่าน GPU นั้น สูงกว่าชิป M4 ถึง 4 เท่า และเมื่อเทียบกับชิป M1 ยิ่งทิ้งห่างไปไกลกว่า 6 เท่า นี่คือตัวเลขที่ทำให้นักพัฒนาและครีเอเตอร์สามารถรันโมเดล AI ที่ซับซ้อน เช่น Diffusion Model ในแอป Draw Things หรือ LLM บนแพลตฟอร์ม webAI ได้โดยตรงบนอุปกรณ์อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

 

ไม่ได้มีดีแค่ AI กราฟิกและ CPU ก็แรงขึ้นอย่างก้าวกระโดด

แม้จะเน้นเรื่อง AI แต่ Apple ก็ไม่ทิ้งประสิทธิภาพพื้นฐาน โดย GPU ใหม่มาพร้อม Ray Tracing Engine รุ่นที่ 3 และ Dynamic Caching รุ่นที่ 2 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านกราฟิกโดยรวมให้สูงขึ้นถึง 45% เมื่อเทียบกับ M4 ไม่ว่าจะเป็นการเรนเดอร์ในแอป 3D หรือการเล่นเกมที่ต้องการเฟรมเรตสูงๆ จะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน

ในส่วนของ CPU 10-core (4 performance cores + 6 efficiency cores) ก็ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพแบบหลายเธรด (Multi-thread) เร็วขึ้น 15% เมื่อเทียบกับ M4 ทำให้การทำงาน Multitasking การคอมไพล์โค้ด หรือการใช้งานแอปพลิเคชันหนักๆ พร้อมกันเป็นไปอย่างราบรื่น

 

สเปกทางเทคนิคของชิป M5

• กระบวนการผลิต: เทคโนโลยี 3 นาโนเมตร รุ่นที่ 3
• CPU: 10-core (4-core ประสิทธิภาพ + 6-core ประหยัดพลังงาน) - เร็วขึ้น 15% (Multi-thread vs M4)
• GPU: 10-core พร้อม Neural Accelerator ในทุกคอร์
  • ประสิทธิภาพ AI สูงกว่า M4 ถึง 4 เท่า
  • ประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น 45% (Ray Tracing)
• Neural Engine: 16-core ที่เร็วขึ้น
• Memory Bandwidth: 153GB/s (เพิ่มขึ้นเกือบ 30% จาก M4)
• รองรับหน่วยความจำ: สูงสุด 32GB

ปลดล็อกศักยภาพใน 3 อุปกรณ์หลัก

ชิป M5 จะถูกนำไปใช้ใน 3 ผลิตภัณฑ์หลัก เพื่อดึงประสิทธิภาพสูงสุดออกมา

• MacBook Pro 14 นิ้ว: กลายเป็นแล็ปท็อปสำหรับงาน AI และครีเอทีฟที่ทรงพลังและพกพาสะดวกที่สุด
• iPad Pro: ยกระดับแท็บเล็ตให้กลายเป็นเครื่องมือสำหรับงานโปรดักชัน AI และกราฟิกขั้นสูง
• Apple Vision Pro: เพิ่มพลังการประมวลผลด้าน Spatial Computing ให้เรนเดอร์ภาพได้คมชัดและลื่นไหลยิ่งขึ้นที่ 120Hz

การมาถึงของชิป M5 ไม่ใช่แค่การอัปเกรดตามรอบปกติ แต่เป็น "แถลงการณ์" ที่ชัดเจนจาก Apple ว่าอนาคตของการประมวลผลบนอุปกรณ์ส่วนบุคคลจะขับเคลื่อนด้วย AI อย่างเต็มตัว โดยชิปตัวนี้ได้วางรากฐานที่แข็งแกร่งไว้สำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้งานในอีกหลายปีข้างหน้า สำหรับ MacBook Pro 14 นิ้ว และ iPad Pro รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M5 จะพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆ นี้