ตะลุยอาณาจักร LG ระยอง! เบื้องหลังเทคโนโลยีสุดล้ำในโรงงานที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
//s.isanook.com/hi/0/ud/323/1617819/lg-fac.jpgตะลุยอาณาจักร LG ระยอง! เบื้องหลังเทคโนโลยีสุดล้ำในโรงงานที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก

ตะลุยอาณาจักร LG ระยอง! เบื้องหลังเทคโนโลยีสุดล้ำในโรงงานที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก

แชร์เรื่องนี้

Sanook Hitech พาทุกคนไปทำอะไรที่พิเศษกว่าการรีวิวแกดเจ็ตใหม่ๆ เพราะเราจะพา "บุก" ไปถึงถิ่นฐานการผลิตของ LG Electronics ที่จังหวัดระยอง ที่นี่ไม่ใช่แค่โรงงานธรรมดาๆ นะครับ แต่มันคืออาณาจักรที่ก่อตั้งมาในประเทศไทยยาวนานถึง 28 ปี และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 จากโรงงาน LG ทั้ง 18 แห่งทั่วโลก!

โรงงานแห่งนี้ผลิตอะไรบ้าง

สำหรับ LG ได้เปิดเผยว่าโรงงานที่ระยะได้ผลิต เครื่องซักผ้า (39%) และ เครื่องปรับอากาศ (45%) ซึ่งกว่า 80% ของทั้งหมดที่ผลิตได้ ถูกส่งออกไปจำหน่ายกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยมีตลาดหลักคือสหรัฐอเมริกาเลยนะ! โดยแบ่งเป็นทั้งหมด หลากหลายโซนแต่สำหรับรอบนี้เราพามาดูกันดังนี้

 12linequalitycontrolroom_
13noisetestroom_batch

โซนที่ 1: ไลน์ผลิตเครื่องซักผ้า 

แค่เดินเข้ามาก็ต้องร้องว้าวแล้วครับ! ที่นี่ไม่ใช่แค่ไลน์การผลิตธรรมดา แต่มันคือสายพานแห่งความเร็วสูงที่สามารถผลิตเครื่องซักผ้าออกมาได้ 1 เครื่อง ในเวลาเพียง 11-12 วินาทีเท่านั้น! ใช่ครับ ฟังไม่ผิด! นั่นหมายความว่าในหนึ่งวัน ไลน์ผลิตนี้สามารถสร้างเครื่องซักผ้าได้ถึง 3,000 เครื่องเลยทีเดียว

เบื้องหลังความเร็วนี้มีอะไรซ่อนอยู่?

  • เริ่มต้นด้วยความแม่นยำ: ทุกอย่างเริ่มจากการปั๊มชิ้นส่วนโลหะเพื่อขึ้นรูปเป็นโครงสร้างหลักของเครื่อง ซึ่งจะมีการสุ่มตรวจคุณภาพทุกๆ 10 แผ่นเพื่อให้มั่นใจว่าทุกชิ้นได้มาตรฐานเป๊ะๆ
  • หุ่นยนต์ทำงานแทนเพื่อความปลอดภัย: ในจุดที่ต้องใช้แรงงานหนัก เช่น การยกโครงเครื่องที่มีน้ำหนักเกือบ 5 กิโลกรัม หรือการติดแผ่นกันกระแทก LG เลือกใช้ แขนกลหุ่นยนต์ (Robot Transfer) เข้ามาทำงานแทนทั้งหมด เพื่อลดความผิดพลาดและเพิ่มความปลอดภัยให้พนักงาน
  •  กล้องอัจฉริยะ (VCS) ตรวจจับทุกรายละเอียด: จุดที่ทึ่งที่สุดคือการใช้จาระบีในส่วนประกอบต่างๆ ที่นี่ใช้ ระบบกล้อง Vision Camera System (VCS) ที่มีความละเอียดสูงในการตรวจสอบก่อนและหลังการฉีดจาระบี เพื่อให้มั่นใจว่าปริมาณพอดีเป๊ะ ไม่ขาดไม่เกิน เพราะนี่คือหัวใจสำคัญของการทำงานที่ราบรื่นของเครื่องครับ

ผ่าน QC สุดโหด 4 ด่าน ก่อนถึงมือคุณ

เมื่อประกอบเสร็จแล้ว ทุกเครื่องจะต้องผ่านด่านทดสอบสุดหิน 4 อย่าง คือ

  1. ทดสอบไฟรั่ว 
  2. ทดสอบกระแสไฟ
  3. ตรวจสอบการใช้จาระบี
  4. ทดสอบเสียง (ต้องดังไม่เกิน 75 เดซิเบล)

ยังไม่หมด! ยังมีการ "เทสน้ำ" จริงๆ เพื่อดูรอยรั่ว โดยน้ำที่ใช้ทดสอบแล้วจะไม่ถูกนำกลับมาใช้ซ้ำ แต่จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ในส่วนอื่นๆ ต่อไป เป็นการใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปในตัว และสุดท้ายคือการใช้กล้องสกรีนภาษาบนตัวเครื่องให้ถูกต้องตามแต่ละประเทศที่จะส่งไปจำหน่าย

เมื่อผ่านทุกด่านแล้ว หุ่นยนต์จะพิมพ์ Label และแพ็กลงกล่องอย่างสวยงามด้วยความแม่นยำสูงชนิดที่ว่าตำแหน่งซ้ายขวาต้องตรงกันเป๊ะๆ ก่อนจะลำเลียงไปสู่คลังสินค้าต่อไป

13noisetestroom_batch 

โซนที่ 2: ไลน์ผลิตเครื่องปรับอากาศ

ถัดมาที่โซนผลิตแอร์ ที่นี่มีถึง 6 ไลน์การผลิต! แม้จะใช้หุ่นยนต์น้อยกว่าโซนเครื่องซักผ้า เพราะชิ้นส่วนแอร์ต้องมีการพลิกหมุนประกอบที่ซับซ้อนกว่า แต่ก็มีเทคโนโลยีเจ๋งๆ ไม่แพ้กัน

  • พลังหญิงเพื่อความละเอียด: งานเชื่อมท่อแอร์ที่ต้องการความประณีตและฝีมือขั้นสูง ที่นี่จะเน้นใช้ พนักงานผู้หญิง เพราะมีความละเอียดอ่อนและนิ่งกว่า ทำให้งานออกมามีคุณภาพสูงสุด
  • เรียนรู้ผ่าน 3D: สำหรับพนักงานใหม่ ไม่ต้องกลัวว่าจะงงครับ เพราะที่นี่มี วิดีโอสอนการประกอบแบบ 3D ให้ดู ทำให้เข้าใจขั้นตอนต่างๆ ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นเยอะเลย
  • หุ่นยนต์ QC ตรวจทุกรู: ในส่วนของคอยล์ร้อน/คอยล์เย็น จะมีหุ่นยนต์ทำหน้าที่ตรวจสอบรอยเชื่อมทีละแนว ทีละรู เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการรั่วซึม 100%
  • "หูทิพย์" จับเสียงผิดปกติ: เช่นเดียวกับเครื่องซักผ้า แอร์ทุกเครื่องต้องผ่านการทดสอบเรื่องเสียง แต่ที่นี่ล้ำไปอีกขั้นด้วยการใช้กล้องที่ติดตั้งไมโครโฟนความไวสูง หากตรวจจับได้ว่าเสียงดังเกินมาตรฐานแม้เพียงนิดเดียว เครื่องนั้นจะถูกตีกลับไปตรวจสอบทันที

รู้จัก Smart Control Tower และพลังงานสะอาด 

ทั้งหมดที่เล่ามานี้ ถูกควบคุมและตรวจสอบแบบเรียลไทม์ผ่าน หอควบคุมอัจฉริยะ หรือ Smart Control Tower (SCT) ที่จะคอยมอนิเตอร์การผลิตทั้งหมด หากมีอะไรผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย ระบบก็จะแจ้งเตือนทันที

และที่น่าประทับใจสุดๆ คือความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมของ LG โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานต้นแบบของ LG ทั่วโลกในการติดตั้ง โครงการโซลาร์รูฟท็อป โดยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ไปแล้วกว่า 66% ของพื้นที่หลังคาทั้งหมด! สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 7.4 เมกะวัตต์ และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 5,100 ตันต่อปีเลยทีเดียว!

 1lgexecutives_batch

การได้มาเยี่ยมชมโรงงาน LG ในครั้งนี้ ทำให้ Geni เห็นเลยว่า กว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าดีๆ สักเครื่องจะมาถึงบ้านเราได้ มันต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อน ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์สุดล้ำ, การตรวจสอบคุณภาพที่เข้มข้น, ไปจนถึงการผสมผสานฝีมือของพนักงานที่เชี่ยวชาญ และที่สำคัญคือวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่ความยั่งยืน นี่แหละครับคือสิ่งที่ทำให้สโลแกน "Life's Good" ไม่ใช่เป็นแค่คำพูด แต่คือคำมั่นสัญญาที่ LG ส่งมอบให้เราผ่านผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นจริงๆ ครับ!