Nothing ระดมทุนเพิ่ม 200 ล้านเหรียญ คาดเปิดตัวอุปกรณ์ AI แบบ OS แต่ในสไตล์ของตัวเอง

Nothing ระดมทุนเพิ่ม 200 ล้านเหรียญ คาดเปิดตัวอุปกรณ์ AI แบบ OS แต่ในสไตล์ของตัวเอง

Nothing ระดมทุนเพิ่ม 200 ล้านเหรียญ คาดเปิดตัวอุปกรณ์ AI แบบ OS แต่ในสไตล์ของตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อย่างที่ทราบกันว่า Nothing คือบริษัทที่ก่อตั้งโดย Carl Pei ที่เรียกว่าเล็กแต่ล่าสุดนี้มีการระดมทุนสำเร็จในระดับ Series C มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มูลค่าบริษัท (Valuation) พุ่งแตะ 1.3 พันล้านดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย พร้อมวิสัยทัศน์ที่จะไปต่อได้อีกกับหลายสิ่ง

การระดมทุนรอบนี้นำโดย Tiger Global พร้อมด้วยนักลงทุนรายใหม่อย่าง Qualcomm Ventures และนักลงทุนเดิมที่คุ้นเคยกันดี ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นในทิศทางของบริษัทที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดย Carl Pei เผยว่าในเวลาเพียง 4 ปี Nothing สามารถ "จัดส่งอุปกรณ์ไปแล้วหลายล้านชิ้น และเริ่มต้นปี 2025 ด้วยยอดขายรวมทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ พร้อมการเติบโต 150% ในปี 2024"

แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าตัวเลข คือวิสัยทัศน์ที่ Carl Pei ประกาศว่าจะเป็น "บทต่อไป" ของ Nothing นั่นคือการมุ่งสู่โลกของ AI อย่างเต็มตัว

ทั้งนี้ Carl Pei กล่าวอย่างชัดเจนผ่าน X (Twitter) ว่า "เพื่อให้ทันกับยุค AI อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สำหรับผู้บริโภคจำเป็นต้องคิดค้นตัวเองขึ้นมาใหม่ และนั่นคือเหตุผลที่เราจะเปิดตัว อุปกรณ์ AI-Native (AI-Native devices) รุ่นแรกๆ ของเราในปีหน้า"

นี่ไม่ใช่แค่การนำ AI มาเป็นฟีเจอร์เสริม แต่คือการสร้างฮาร์ดแวร์ที่ออกแบบมาโดยมี AI เป็นแกนหลักตั้งแต่เริ่มต้น

อีกเรื่องที่น่าตื่นเต้นคือ วิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Nothing คือการปฏิวัติแนวคิดของระบบปฏิบัติการ (Operating System) ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน "เรามองเห็นอนาคตที่ระบบปฏิบัติการจะแตกต่างจากทุกวันนี้อย่างสิ้นเชิง" Pei กล่าวใน Nothing Community "มันจะไม่ใช่โซลูชันแบบ 'One-size-fits-all' อีกต่อไป แต่จะเป็น ระบบปฏิบัติการ 1 พันล้านรูปแบบที่แตกต่างกัน สำหรับผู้ใช้ 1 พันล้านคน"

batchimg_20250720_154038

คุณสมบัติหลักของ OS ในวิสัยทัศน์ของ Nothing คือ

  • Hyper-Personalised: รู้จักและเข้าใจผู้ใช้ในระดับลึก และปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ
  • Contextual: อินเทอร์เฟซจะปรับเปลี่ยนไปตามบริบทและความต้องการของผู้ใช้ในขณะนั้น
  • Proactive: ระบบจะให้คำแนะนำต่างๆ อย่างเป็นธรรมชาติ และเมื่อผู้ใช้ยืนยันความตั้งใจ AI Agent จะเข้ามาจัดการงานต่างๆ แทนเราโดยอัตโนมัติ
  • Focus on What Matters: ระบบจะจัดการงานที่ไม่จำเป็นให้ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ ในชีวิตได้

Pei ยังเสริมอีกว่า OS นี้จะไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนสมาร์ทโฟน แต่จะเป็นระบบที่เชื่อมต่อข้ามทุกอุปกรณ์ โดยจะเริ่มต้นจากสมาร์ทโฟน, หูฟัง, และสมาร์ทวอทช์ ก่อนจะขยายไปสู่ แว่นตาอัจฉริยะ, หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์, รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

การระดมทุนครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การเติบโตทางการเงิน แต่เป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ Nothing พร้อมที่จะก้าวจากบริษัทฮาร์ดแวร์ดีไซน์เฉียบ ไปสู่บริษัทเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI และซอฟต์แวร์อย่างเต็มตัว ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่า "อุปกรณ์ AI-Native" ที่จะเปิดตัวในปี 2026 จะมีหน้าตาและความสามารถที่น่าทึ่งขนาดไหน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล