Nothing ระดมทุนเพิ่ม 200 ล้านเหรียญ คาดเปิดตัวอุปกรณ์ AI แบบ OS แต่ในสไตล์ของตัวเอง
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
อย่างที่ทราบกันว่า Nothing คือบริษัทที่ก่อตั้งโดย Carl Pei ที่เรียกว่าเล็กแต่ล่าสุดนี้มีการระดมทุนสำเร็จในระดับ Series C มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มูลค่าบริษัท (Valuation) พุ่งแตะ 1.3 พันล้านดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย พร้อมวิสัยทัศน์ที่จะไปต่อได้อีกกับหลายสิ่ง
การระดมทุนรอบนี้นำโดย Tiger Global พร้อมด้วยนักลงทุนรายใหม่อย่าง Qualcomm Ventures และนักลงทุนเดิมที่คุ้นเคยกันดี ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นในทิศทางของบริษัทที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดย Carl Pei เผยว่าในเวลาเพียง 4 ปี Nothing สามารถ "จัดส่งอุปกรณ์ไปแล้วหลายล้านชิ้น และเริ่มต้นปี 2025 ด้วยยอดขายรวมทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ พร้อมการเติบโต 150% ในปี 2024"

แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าตัวเลข คือวิสัยทัศน์ที่ Carl Pei ประกาศว่าจะเป็น "บทต่อไป" ของ Nothing นั่นคือการมุ่งสู่โลกของ AI อย่างเต็มตัว
ทั้งนี้ Carl Pei กล่าวอย่างชัดเจนผ่าน X (Twitter) ว่า "เพื่อให้ทันกับยุค AI อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สำหรับผู้บริโภคจำเป็นต้องคิดค้นตัวเองขึ้นมาใหม่ และนั่นคือเหตุผลที่เราจะเปิดตัว อุปกรณ์ AI-Native (AI-Native devices) รุ่นแรกๆ ของเราในปีหน้า"
นี่ไม่ใช่แค่การนำ AI มาเป็นฟีเจอร์เสริม แต่คือการสร้างฮาร์ดแวร์ที่ออกแบบมาโดยมี AI เป็นแกนหลักตั้งแต่เริ่มต้น
อีกเรื่องที่น่าตื่นเต้นคือ วิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Nothing คือการปฏิวัติแนวคิดของระบบปฏิบัติการ (Operating System) ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน "เรามองเห็นอนาคตที่ระบบปฏิบัติการจะแตกต่างจากทุกวันนี้อย่างสิ้นเชิง" Pei กล่าวใน Nothing Community "มันจะไม่ใช่โซลูชันแบบ 'One-size-fits-all' อีกต่อไป แต่จะเป็น ระบบปฏิบัติการ 1 พันล้านรูปแบบที่แตกต่างกัน สำหรับผู้ใช้ 1 พันล้านคน"

คุณสมบัติหลักของ OS ในวิสัยทัศน์ของ Nothing คือ
- Hyper-Personalised: รู้จักและเข้าใจผู้ใช้ในระดับลึก และปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ
- Contextual: อินเทอร์เฟซจะปรับเปลี่ยนไปตามบริบทและความต้องการของผู้ใช้ในขณะนั้น
- Proactive: ระบบจะให้คำแนะนำต่างๆ อย่างเป็นธรรมชาติ และเมื่อผู้ใช้ยืนยันความตั้งใจ AI Agent จะเข้ามาจัดการงานต่างๆ แทนเราโดยอัตโนมัติ
- Focus on What Matters: ระบบจะจัดการงานที่ไม่จำเป็นให้ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ ในชีวิตได้
Pei ยังเสริมอีกว่า OS นี้จะไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนสมาร์ทโฟน แต่จะเป็นระบบที่เชื่อมต่อข้ามทุกอุปกรณ์ โดยจะเริ่มต้นจากสมาร์ทโฟน, หูฟัง, และสมาร์ทวอทช์ ก่อนจะขยายไปสู่ แว่นตาอัจฉริยะ, หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์, รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
การระดมทุนครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การเติบโตทางการเงิน แต่เป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ Nothing พร้อมที่จะก้าวจากบริษัทฮาร์ดแวร์ดีไซน์เฉียบ ไปสู่บริษัทเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI และซอฟต์แวร์อย่างเต็มตัว ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่า "อุปกรณ์ AI-Native" ที่จะเปิดตัวในปี 2026 จะมีหน้าตาและความสามารถที่น่าทึ่งขนาดไหน
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี



