MagSafe Battery Pack! กลับมาเพราะ iPhone Air แต่คุ้มไหมถ้าจะซื้อ?

เป็นไปตามข่าวลือ! Apple ได้นำ MagSafe Battery Pack กลับมาทำตลาดอีกครั้ง หลังจากที่หยุดจำหน่ายรุ่นเดิมไปพร้อมกับการเปลี่ยนผ่านสู่พอร์ต USB-C แต่การกลับมาครั้งนี้กลับสร้างความประหลาดใจไม่น้อย เพราะมันถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้กับ iPhone 17 Air เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น คำถามคือ คุ้มไหม และหลายคนสงสัยว่าทำไมใช้ได้แค่รุ่นเดียววันนี้มาไขคำตอบกัน

 

ทำไมถึงใช้ได้แค่กับ iPhone 17 Air?

เหตุผลหลักที่ทำให้ MagSafe Battery Pack รุ่นใหม่นี้เป็นอุปกรณ์เสริมสุด Exclusive คือ การออกแบบทางกายภาพ โดยตัวแบตเตอรี่ถูกดีไซน์ให้มีรูปทรงและขนาดที่พอดีกับตัวเครื่องของ iPhone 17 Air ที่บางเฉียบเป็นพิเศษ ทำให้เมื่อประกบติดกันแล้วยังคงความบางเบาและไม่รู้สึกหนาเทอะทะจนเกินไป

ในทางกลับกัน โมดูลกล้อง  ของ iPhone 17 และ iPhone 17 Pro มีขนาดที่ใหญ่และนูนออกมา ทำให้ไม่สามารถประกบ MagSafe Battery Pack รุ่นนี้เข้าไปได้ สำหรับประสิทธิภาพ Apple ระบุว่ามันสามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone 17 Air ได้ถึง 65% ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะทำให้มีระยะเวลาใช้งานที่ยาวนานกว่า iPhone ทุกรุ่น

ฟีเจอร์ลับ แปลงร่างเป็น Power Bank อเนกประสงค์

แม้ว่าการชาร์จไร้สายแบบ MagSafe จะจำกัดอยู่แค่ iPhone Air แต่ Apple ก็ได้ซ่อนฟังก์ชันที่มีประโยชน์เอาไว้ นั่นคือพอร์ต USB-C ของตัวแบตเตอรี่สามารถ จ่ายไฟออก (Output) ได้ ทำให้มันสามารถทำหน้าที่เป็น Power Bank แบบมีสายสำหรับชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ ได้ทุกชนิดที่รองรับพอร์ต USB-C ไม่ว่าจะเป็น iPhone รุ่นอื่น, AirPods, หรือแม้กระทั่งสมาร์ทโฟน Android

 

คุ้มค่าหรือไม่?

MagSafe Battery Pack รุ่นใหม่นี้เปิดตัวในราคา $99 (ในไทยจะวางจำหน่ายที่ 3,490 บาท) ซึ่งหากมองในฐานะ Power Bank ทั่วไป อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดเนื่องจากมีความจุไม่สูงมากนัก ถ้าไว้สำรองเวลาคุณใช้ iPhone Air ก็คงจะดี แต่! ุถ้าใช้กับรุ่นอื่น อาจจะบังกล้องหรือดูไม่งามเท่าไหร่

อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นเจ้าของ iPhone Air และต้องการแบตเตอรี่เสริมที่ออกแบบมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด นี่คือตัวเลือกเดียวจาก Apple ที่ตอบโจทย์ และความสามารถในการเป็น Power Bank สำรองสำหรับอุปกรณ์อื่นในยามฉุกเฉินก็ถือเป็นโบนัสที่มีประโยชน์อย่างยิ่งครับ