
HUAWEI FreeBuds Pro 3 ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดเพื่อให้ได้รับประสบการณ์การฟังที่ยอดเยี่ยมด้วยการตั้งค่าไดรเวอร์คู่ที่ทรงพลัง ยกระดับโดย Halbach array พร้อมการตอบสนองระดับสูง ขับเคลื่อนพลังเบสแบบ Ultra-mag ขนาด 11 มม. ที่จะทำให้คุณตกตะลึงอย่างแน่นอน ทะยานไปอีกขั้นกับเทคโนโลยี Digital Cross-over ส่งย่านเสียงไปได้ไกลถึง 48 kHz3 หรือย่านต่ำไปจนถึง 14 Hz3 แล้วคุณจะไม่พลาดในทุกจังหวะ
สรุปสเปกของ UAWEI FreeBuds Pro 3 กันหน่อย

มาดูกันในกล่องมีอะไรมาให้บ้าง

กล่องของ HUAWEI FreeBuds Pro 3 ยังมาพร้อมกับความพรีเมี่ยมและหรูหราเหมือนเดิมครับ HUAWEI FreeBuds Pro 3 เป็นหูฟังเอียร์บัด มีให้เลือกใช้งานด้วยกันทั้งหมด 3 สีได้แก่ สีเขียว, สีขาว และสีเงิน (Silver Forst) ซึ่งเป็นสีที่เราได้มารีวิวให้ได้อ่านกัน

เคสชาร์จของ HUAWEI FreeBuds Pro 3 มาพร้อมความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายด้วยตัวเรือนกระจกเงาและบานพับดีไซน์ปกปิด เคสชาร์จมีขนาดเล็กกว่าเคสรุ่นก่อนหน้า 4.5% ผิวแบบแก้วระดับนาโนชิ้นเดียวของเคสชาร์จมีความทนทานต่อการสึกหรอมากขึ้น 32% เคสชาร์จมาพร้อมกับบานพับซึ่งสร้างขึ้นเพื่อทนต่อการเปิดและปิดได้มากกว่า 100,000 ครั้ง พร้อมกับไฟสถานะบอกปริมาณไฟ จะแสดงผลสีต่างๆ เช่น

พื้นที่สัมผัสที่ขยายใหญ่ขึ้นของเอียร์บัดทําให้ง่ายต่อการนําออกมาใช้งานเช่นกัน จะพกพาสะดวกขนาดพกพาเหมาะสําหรับชีวิตขณะเดินทาง และทำให้ดูสะดวกพกกกว่าเดิม
ด้านข้างขวาจะมีปุ่ม Pairing
ด้านล่างมีช่องเสียบ USB-C และลำโพง
สำหรับปุ่มกดสั่งงานจะมีทั้งปุ่ม Pairing สำหรับอุปกรณ์ โดยอยู่ทางขวามือ ส่วนช่องเสียบพร้อมกับลำโพงด้านล่างที่กล่อง อยู่ทางด้านล่าง

ต่อกันที่ส่วนของหูฟัง... สำหรับในรุ่นใหม่นี้มาพร้อมการดีไซน์หากมองผ่านๆ คือไม่ได้แตกต่างจากรุ่นแรกมากนัก แต่หากได้ลองสัมผัส หรือหยิบจับคุณจะรู้ได้เลยว่า HUAWEI FreeBuds Pro 3 มาพร้อมความแตกต่าง และมันยังใช้งานง่ายกว่าหูฟังทั่วไป ด้วยหูฟังที่มีน้ำหนักน้อยกว่า FreeBuds รุ่น Pro 2 ถึง 5%


เอียร์บัดได้ผ่านการทดสอบการเปิดและปิดมากกว่า 100,000 ครั้ง ข้อมูลมาจากห้องปฏิบัติการของหัวเว่ย สามารถสั่งการด้วยการสัมผัส เราสามารถควบคุมการสัมผัสและการปัดอยู่ที่ด้านหน้าของด้ามจับเมื่อสวมใส่เอียร์บัด คุณสามารถตั้งค่าคุณสมบัติเพิ่มเติมได้ในแอป AI Life คุณสมบัติจริงอาจแตกต่างกัน

นอกจากนี้ HUAWEI FreeBuds Pro 3 มาพร้อมกับปลอกหูฟังแบบใหม่ขนาด XS รวมทั้งหมด 4 ขนาด ให้คุณสามารถปรับแต่งหูฟังตามขนาด ถ้าไม่มั่นใจว่าขนาดที่ใส่พอกับหูของคุณหรือไม่ ใน App Ai Life ก็มีการบอกว่าหูฟังของคุณของคุณสามารถใส่ได้พอดีหรือไม่เช่นเดียวกัน
การควบคุม (Control)

Huawei FreeBuds Pro 3 จะมีปุ่มที่ชัดเจนอยู่ทางด้านข้างนอกสุดสามารถกดสั่งงานได้ดังนี้
ทั้งหมดสามารถดูและทบทวนผ่าน Huawei Ai Life
จากการออกแบบระบบลำโพงที่เป็นแบบ Dual Speaker และมาพร้อมกับ Digital Cross-Over พร้อมกับส่งย่านเสียงไปได้สูงทั้ง 48 kHz และต่ำสุดที่ 14Hz ทำให้ระบบเสียงที่ออกมาถือว่าทำได้ดีจากการทดลองฟัง ให้เสียงที่โดดเด่นไม่น้อยและยังมี Driver ทั้งแบบ Halbach array และ Ultra-mag รวมกันขนาด 11 มิลลิเมตร เข้าไปอีกช่วยขับเสียงออกมาได้ดีขึ้น ที่สำคัญรองรับ Hi-Res Wireless Audio, HWA อีกด้วย

และสามารถปรับเสียงได้ตามใจเพราะมี อัลกอริทึม EQ ที่ปรับเปลี่ยนได้ถึง 3 ระดับจะเริ่มต้นบรรเลงทุกโน้ต โทน และปรับแต่งคุณภาพเสียงให้สมจริง อัลกอริทึมจะตรวจจับระดับเสียง รูปร่างช่องหู และสถานะการสวมใส่แบบเรียลไทม์ และปรับแต่งระดับเสียงและการตั้งค่า EQ ที่เหมาะสม หรือสายโปรก็สามารถปรับแต่งได้ผ่าน Ai Life ได้เช่นเดียวกัน

ไมโครโฟนของ / การลดเสียงรบกวน

สำหรับระบบไมโครโฟนรอบนี้มีทั้งหมด 4 ตัวและมาพร้อมกับระบบ Pure Voice 2.01 ที่เก็บรายละเอียดเสียงได้ดีกว่า 2.5 เท่าเมื่อเทียกับรุ่นเดิม โดยรอบนี้มีการจัดวางไมโครโฟนที่รับเสียงระหว่างเสียงปกติ และเสียเพลง โดยมีการหักล้างได้ จากการที่ได้ทดลองฟังเสียงที่ออกมาถือว่ามีคุณภาพที่ดีช่วยลดเสียงได้จริง และยังมีการตรวจจับสภาพแวดล้อม ทำให้เสียงที่ได้ยินจะมีแต่เสียงเราเท่านั้น
นอกจากระบบไมโครโฟนแล้ว ยังมีการออกแบบระบบ ANC เวอร์ชั่น 3.0 ใหม่ลดเสียงรบกวนได้จริงเมื่อตรวจจับได้จะทำให้เสียงที่ได้ยินลดลงกว่า 50% เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว และยังสามารถลดเสียงทั้งคลื่นเสียงต่ำและสูงได้ด้วยในเวลาเดียวกัน
Ai Life


สำหรับ App พูดหลากหลายจุดแล้วมันคือ Huawei Ai Life ที่สามารถปรับแต่ตั้งค่าหูฟังได้มากมายเช่น
นอกจากคุณสมบัติต่างๆ แล้ว FreeBuds Pro 3 สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องในเวลาเดียวกันและสลับเสียงได้แม้ระหว่างอุปกรณ์ iOS และ Android โดยไม่ต้องจับคู่และตัดการเชื่อมต่อซ้ำๆ และยังสามารถแชร์เสียงฟังกับเพื่อนได้อีกด้วย
คุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไม่ใช่แค่เรื่องเสียงเท่านั้น Huawei FreeBuds Pro 3 ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สำหรับแบตเตอรี่ของ Huawei FreeBuds สามารถใช้งานได้นาน การเล่นเพลง (โดยปิดใช้งานการป้องกันเสียงรบกวน): 6.5 ชั่วโมงหลังจากชาร์จเต็ม และ 31 ชั่วโมงเมื่อใช้กับกล่องชาร์จ การเล่นเพลง (พร้อมระบบลดเสียงรบกวน): 4.5 ชั่วโมงหลังจากชาร์จเต็ม และ 22 ชั่วโมงเมื่อใช้กับกล่องชาร์จ และชาร์จแบบไร้สายเพื่อการใช้งานได้สบาย
สรุปหลังจากที่ได้ทดลองใช้งาน HUAWEI Freebuds Pro 3

บอกได้เลยว่าหากคุณกำลังมองหาหูฟังตัวใหม่ไว้ใช้งาน HUAWEI Freebuds Pro 3 คืออีกตัวเลือกที่มีดีไม่แพ้ใครในท้องตลาด ทั้งเรื่องของเสียงฟังเพลงที่ชัด การลดเสียงได้มากกว่าเดิม แต่ยังสามารถปรับให้คุณรู้ว่าเสียงข้างนอกเป็นยังไงรวมไปถึงเรื่อง ความทนททานและใช้งานไม่ซับซ้อน นี่เป็นอีกคุณสมบัติที่หูฟังเรือธงควรมี

HUAWEI Freebuds Pro 3 ขายในไทยราคา 6,990 บาท มีให้เลือก 3 สี ดำ ขาว และเขียว เริ่มวางจำหน่าย 12 ธันวาคม นี้ พร้อมโปรโมชั่นแถมกระเป๋าหูฟังมูลค่า 599.- ตั้งแต่ 12 ธันวาคม 2566 – 7 มกราคม 2567 ช่องทางการสั่งซื้อ Shopee: https://bitly.ws/33cT6
อัลบั้มภาพ 23 ภาพ
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :consumer.huawei.com