
ภายหลังที่ ROG Phone 6 ในประเทศไทยได้เปิดตัวนั้น อีกไม่กี่วันทาง ROG ก็ได้เซอร์ไพรส์คนทั่วโลกด้วยการเปิดตัว ROG Phone 6D และ 6D Ultimate ซึ่งเป็นมือถือรุ่นท็อปที่ใช้ขุมพลังเรือธงจากฝั่งของ MediaTek Dimensity 9000+ ที่หลายคนก็อยากร็ว่ามือถือรุ่นนั้นจะเข้ามาหรือไม่ ล่าสุดทีม Sanook Hitech ได้รับมือถือรุ่นนี้มาทดลองใช้งานแล้ว มาดูความแตกต่างกันว่ารุ่นนี้จะแตกต่างกับรุ่น ROG Phone 6 ที่ได้ทดลองก่อนหน้านี้หรือไม่และราคาแพงกว่าหรือไม่ รับชมได้กันเลย
รายละเอียดสเปกของ ROG Phone 6D Ultimate
แกะกล่อง ROG Phone 6D Ultimate
แต่ถ้าเป็นรุ่น 6D จะไม่ได้ให้ชุดพัดลมนี้มาให้
อยากจะบอกดังๆ ให้คุณผู้อ่านได้รู้ว่า การออกแบบของ ROG Phone 6D และ 6D Ultimate นั้น เหมือนกับ ROG Phone 6 และ 6 Pro ที่ทีมได้นำมารีวิวให้กคุณได้อ่านก่อนหน้านี้เลยครับ จะมาพร้อมกับ น้าจอขนาด 6.78 นิ้วถือว่าใหญ่กำลังดีมาพร้อมกับการแสดงผลเป็นแบบ AMOLED Display กับการออกแบบจองมีการเว้นส่วนและล่างชัดเจนเพื่อวางลำโพงคู่ที่ด้านหน้า และหน้าจอมีความละเอียด FHD+ และความสว่างสูงสุด 1200 nits

ส่วนบนของหน้าจอจะมีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K และยังมีลำโพงตัวที่ 2 ที่มีขนาด 12x16 มิลลิเมตรนอกจากไว้สนทนาได้แล้วเวลาเล่นเพลงหรือเปิดเกมเสียงก็จะดัง คมชัดอีกด้วย


ส่วนล่างมีที่อยู่ของลำโพงขนาด 12 x 16 มิลลิเมตร เช่นเดียวกัน พร้อมกับปุ่มกดที่สามารถเปลี่ยนได้ทั้งรูปแบบของการปัด และการกดแบบปกติ


รอบตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมสวยงามและเป็นสีดำ ส่วนใครซื้อสีขาวก็จะได้บอดี้ทั้งหมดเป็นสีขาว เริ่มต้นจากฝังซ้ายมีช่องเสียบ USB-C ไว้สำหรับเสียบอุปกรณ์พัดลม AeroActive Cooler 6 ใหม่ที่มีหน้าตาหล่อใช้ได้ พร้อมกับด้านล่างเป็นช่องใส่ซิมการ์ดคู่แบบ Nano SIM


ฝั่งขวามือจะมีปุ่ม Air Trigger ไว้สำหรับเล่นเกม และปรับคำสั่งได้มากถึง 10 อย่างด้วยกัน พร้อมกับปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงและปุ่ม Power



ส่วนบนมีไมโครโฟนเท่านั้น

ส่วนล่างมีช่องเสียบหูฟัง และ USB-C สำหรับชาร์จไฟ และมีไมโครโฟนในตัว

พลิกมาด้านหลังเป็นกระจกทั้งหมด สำหรับในรุ่น ROG Phone 6D Ultimate จะได้เป็นไฟด้านหลังจอแบบ ROG Vision ที่สามารถเปลี่ยนการแสดงผลได้ที่มีความหลากหลาย พร้อมกับกล้องทางด้านบนมีทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน และมีช่อง Aero Active Portal จะออกแบบให้เปิดรับลมจาก AeroActive Cooler 6 เท่านั้น
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)

ภาพรวมในการสัมผัสและถือ

แม้ว่าหน้าตาของเครื่องและรายละเอียดจะเป็นแบบเดียวกัน แต่ว่าสิ่งที่แตกต่างจาก ROG Phone 6 ที่แตกต่างเลยคือน้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ 247 กรัม ถือว่าหนักกว่า แต่ว่าได้ความดุดันอยู่นะ
อุปกรณ์เสริม

AeroActive Cooler 6 ที่ไม่สามารถใช้กับรุ่นก่อนได้ เหตุเพราะมันเป็น USB-C นั่นเอง ทั้งนี้ พัดลมมีขนาดใหญ่ทำให้ช่วยในการระบายอากาศได้รวดเร็วผ่านเทคโนโลยี Thermoelectric AI Cooling และมีการติดแผ่นนำความร้อน Peltier Element เมื่อรวมกับเทคโนโลยีระบายอกอากาศที่ออกแบบใหม่หมด ทำให้ลดความร้อนได้มากขึ้นและเย็นสุดที่ 36 องศา




และยังทำงานกับ ROG Phone 6D Ultimate จาก AeroActive Portal นั่นเอง ส่วนอุปกรณ์ที่ก็จะมี ROG Kunai 3 ที่อัปเกรดความสามารถให้เล่นเกมได้ราบรื่น และมีเคสสำหรับใส่กันกระแทก และจะมีเคสใหม่ที่มีชื่อ DevilCase Guardian Lite ที่ออกแบบเพื่อ ROG Phone 6, 6 Pro, 6D และ 6D Ultimate เป็นต้น
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง

นอกจากหน้าจอจะมีค่า Refresh Rate สูงและการตอบสนองถือว่าดีทันใจแล้ว ยังมาพร้อมกับการแสดงผล Dolby Vision ให้สีสันสวยงามและดูหนังสนุก


ประกอบกับลำโพงคู่ขนาดใหญ่ทำให้เสียงที่ออกมาครบทุกอารมณ์และยังรองรับ Dolby ATMOS และ DTS Sound System พร้อมกับ Hi-Res และ Dirac ด้วย
ประสิทธิภาพ

คะแนน AnTuTu = 1,096,033 คะแนน

คะแนนจาก Geekbench 5
จากคะแนนที่ทดสอบออกมาพบว่าทำได้ใกล้เคียง ROG Phone 6 ที่ก่อนหน้านี้แต่อาจจะด้อยกว่าประมาณหนึ่ง แต่ว่าเมื่อการสัมผัสในการเล่นเกมถือว่ายังทำได้ดีอยู่ไม่ต้องห่วง แต่สิ่งที่ดีกว่าเมื่อมีช่องระบบระบายอากาศอย่าง AeroActive Portal ช่วยทำให้ความร้อนของเครื่องลดลงได้เร็วมากขึ้น และจะรับจากพัดลม AeroActive Cooler 6

ส่วนลูกเล่นของ ROG Phone 6D Ultimate ก็ยังมี ฟีเจอร์ในการเล่นเกมก็ยังคงใช้ Armony Crate เช่น การปรับประสิทธิภาพอย่าง X-Mode / X-Mode+ ที่นอกจากบูสต์เครื่องบ้าพลังและสามารถเร่งกับเกมในโหมด Gaming Mode, Hardcore Mode ที่ทำให้ดึงศักยภาพของเกมเข้ามาได้แบบเต็มที่เลยครับ แต่ที่เหลือจากภาพทั้ง Dynamic, Ultra Durable และ Advance จะไม่ได้ดึงประสิทธิภาพมากนัก

ส่วนการควบคุมของการเข้าหน้าเกมอย่าง Game Genie ในรอบนี้จะต้องปัดจากด้านมุมซ้ายของหน้าจอ ในเวลาตั้งเป็นแนวนอนเท่านั้น ด้านความสามารถปรับและควบคุมได้แบบครบเครื่องมากเช่น การล็อคความสว่างหน้าจอ, การแสดงผลความร้อนและการทำงาน CPU, มีการปรับฟีเจอร์ทั้ง Crosshair ศูนย์เลงที่ปรับได้หลากหลายแบบสีสัน และยังมีฟีเจอร์การกดทั้ง Ultrasonic Button, Motion Sensor เพิ่มเข้ามาคือ Touch Sensor หรือ การสัมผัสด้านหลัง และ ปุ่มกดที่พัดลม หรือ Cooler Button เช่นเดียวกัน
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบความปลอดภัย
ROG Phone 6D Ultimate มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 12 และมีการครอบด้วย ROG UI ที่มีความเรียบง่ายกว่าเดิม แต่เมื่อกดปุ่มเข้า X Mode/X Mode+ ที่เปลี่ยนสีและแสดง Effect ในแบบฉบับของมือถือเล่นเกม

นอกจากฟีเจอร์ของการเล่นเกมไปแล้วก็ยังมีฟีเจอร์ทั่วไปได้แก่ เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, สมุดจด, เข็มทิศ และสามารถอัดหน้าจอได้
Armoury Crate
มีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาแบบใหม่ทั้งหมด แต่ลูกเล่นนั้นยังเหมือนเดิมประกอบด้วย

Motion Sensor
Ultra Sonic Button (Air Trigger)
ปุ่มที่ AeroActive Cooler 6 สามารถตั้งค่าได้ทั้งแบบ L1, L2 และ R1, R2 แทนการแตะสัมผัสด้านล่างที่กดยากกว่าเดิม และยังสามารถปรับระบบระบายอากาศได้ทั้งหมด 3 รูปแบบทำให้เครื่องเย็นลงได้เร็วขึ้นกว่ารุ่นเดิม


นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนโหมดประสิทธิภาพในการเล่นเกมของเครื่องจะมีให้เลือก 4 โหมดได้แก่
Advance จะสามารถปรับรูปแบบได้ทุกอย่างตามที่คุณต้องการ
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
แต่สำหรับ ROG Phone 6D Ultimate จะมีการปรับไฟหน้าจอ ROG Vision ได้ด้วย
ส่วนระบบความปลอดภัยมีทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ และ ระบบสแกนใบหน้า
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ

อีกสิ่งที่ ROG Phone 6D Ultimate จะมาพร้อมกับสเปกกล้องที่เหมือนกับรุ่น ROG Phone 6 โดยมีรายละเอียดดังนี้
เท่ากับเซนเซอร์ของกล้องหลังจะมีคุณภาพและเก็บสีสันได้ดีมากขึ้นแต่จะดีแค่ไหนต้องดูจากภาพตัวอย่างครับ
ฟีเจอร์ของกล้องใน ROG Phone 6D Ultimate

สำหรับลูกเล่นกล้องของ ROG Phone 6D Ultimate ก็ยังคล้ายกับ ROG Phone 6 ที่รีวิวก่อนหน้านี้และ คล้ายกับรุ่นที่แล้ว แต่ว่าคราวนี้มีโหมดที่แบ่งระหว่างการถ่ายภาพและวิดีโอที่ชัดเจน การใช้งานซูมทำได้ง่าย เมนูกดง่ายเพราะมี icon ที่อธิบายครบจนเรียกได้ว่าเอาใจคนขอบถ่ายภาพระดับหนึ่ง แต่รอบนี้มีแบ่งเป็นโหมดอื่นๆ ก็จะมีการเพิ่ม Pro Video, Night Mode และกลางคืน สามารถซูมได้มากสุด 8X
สำหรับวิดีโอ ควบคุมกันสั่นไหวแบบ EIS ได้ 2 ระดับทั้งแบบมาตรฐานและ Hyper Smooth ทำให้ภาพที่ออกมาดูดี แต่ถ้าถ่ายวิดีโอ 4K 60 FPS และ 8K / 30 FPS เลยทีเดียว พร้อมกับลูกเล่นทั้ง Timelaps, Slo-mo ได้ช้าสุดที่ HD 480 FPS และ Motion Tracking จับการเคลื่อนไหววัตถุได้ และ Pro Video ที่ทำได้เหมือนมือถือราคาแพงในระดับเดียวกัน และยังมีฟีเจอร์ตัดเสียงลม, ฟีเจอร์เลือกใช้ไมโครโฟนฯ เป็นต้น และสามารถซูมได้มากที่สุดแค่ 4X เท่านั้น
ส่วนกล้องหน้า แม้จะลดความละเอียดลงแต่ว่าถ่ายวิดีโอได้ความละเอียด 4K พร้อมกับระบบกันภาพสั่นไหว แบบ EIS มาให้ทั้งนี้ยังมี Beauty Mode มาให้แต่ว่าโหมดที่สามารถปรับเป็นแบบ Beauty จะต้องเลือกเป็น Portrait เท่านั้น
ภาพถ่ายจาก ROG Phone 6D Ultimate
ภาพจากกล้องหลัง









ภาพจากกล้องหน้า



แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ

ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่ของ ROG Phone 6D Ultimate ยังคงได้ที่ 6000 mAh เท่ากัน แต่ว่าสิ่งที่ทดสอบออกมาอาจจะไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ แต่ว่า PCMark ต่างกันถึง 2 ชั่วโมงโดยทำได้ที่ 15:02 ชั่วโมง คาดว่าเกิดจากหน้าจอดด้านหลังที่มีความสว่างมากกว่า ทำให้กินไฟมากกว่าแต่ก็แลกกับความสวยกว่านะ

ส่วนระบบชาร์จไฟของ ROG Phone 6 เป็นแบบ USB-C เท่านั้นรองรับกำลังสูงสุด 65W ในแบบ Hyper Charge หรือจะใช้ที่ชาร์จกำลัง 65W ก็ได้
สรุปหลังลองใช้งาน ROG Phone 6D Ultimate มาสักระยะเวลาหนึ่ง

อย่างที่ทราบกันดีว่า ROG Phone 6D Ultimate จะมาพร้อมกับสเปกของเครื่องที่แตกต่างจาก ROG Phone 6 Series ที่รีววก่อนหน้านี้ แต่ทำไมถึงนำรุ่นนี้มาทดลองให้คุณดู เพราะมันมีการระบายอากาศดีที่สุดของ ROG Phone 6 Series ของปีนี้ แม้ว่าการทดสอบ benchmark จะไม่ได้ทำได้แซงหน้าของ ROG Phone 6 ที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ แม้ว่าขุมพลังรุ่นนี้จะเป็นอันดับ 1 จาก AnTuTu แต่ยังยืนยันว่า ถ้าเล่นเกมนานๆ ROG Phone 6D Ultimate ทำได้ดีกว่าครับ
ส่วนราคาอย่างเป็นทางการมีดังนี้
ทั้งนี้ Package เริ่มต้นของ ROG Phone 6D อยู่ที่ 22,490 บาท และ ROG Phone 6D Ultimate เริ่มต้นที่ 36,490 บาท สามารถผ่อนได้นาน 36 เดือน แถมจองในตั้งแต่ 22 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคม รับฟรีหูฟังไร้สาย ROG มูลค่า 3,990 บาท
อุปกรณ์เสริมมีดังนี้

ดังนั้นมือถือรุ่นนี้ก็ออกแบบในเรื่องการเล่นเกมและเน้นการเล่นเกมระดับบ้าคลั่งที่ตอบโจทย์อย่างมากเลยครับ
จุดเด่น
ข้อสังเกต
อัลบั้มภาพ 38 ภาพ