นอกจาก ASUS ROG หรือ Republic Of Gamer ที่จัดว่าเป็นตระกูลเน้นประสิทธิภาพเพื่อการเล่นเกมแล้ว ASUS ก็ยังมีกลุ่มของ Notebook ทั่วไปที่จัดเต็มเรื่องสเปคและปีนี้ ASUS Zenbook Pro ก็คือรุ่นที่ได้เปิดเผยออกมา และการปรับปรุงในปี 2018 จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นมาดูกัน

การออกแบบเครื่องเน้นสี Deep Dive Blue และขอบเครื่องสี Rose Gold ที่เห็นครั้งแรกสวยงามและดูหรูหรา ผสมกับวัสดุตัวเครื่องออกแบบเป็นโลหะที่ทันสมัย พร้อมกับช่องเสียบครบครันทั้ง HDMI, USB, USB-C, ช่องเสียบหูฟัง แต่ขอบสี Rose Gold จะมีเฉพาะรุ่น 15.6 นิ้วเท่านั้น

ASUS Zenbook Pro

ASUS Zenbook Pro 14

ด้านข้างของตัวเครื่องถ้าเป็นขนาด 15.6 นิ้วจะไม่สามารถยกระดับขึ้นได้ แต่ถ้าเป็น 14 นิ้วจะยกเครื่องขึ้นได้เล็กน้อยทำให้สามารถตอบสนองในการใช้งานได้อย่างดี เมื่อพกไปข้างนอก

ASUS Zenbook Pro

จุดเด่นคือสามารถต่อหน้าจอออกได้ทั้งหมด 3 หน้าจอในแบบ 4K ขณะที่ตัวเองสามารถเปิดหน้าจอได้ความละเอียด 4K โดยการเชื่อมต่อ HDMI ช่องเดียว เพื่อสามารถสร้างการตัดต่อวิดีโอ (Video Makers)

ASUS Zenbook Pro

หน้าจอหลังใช้แบบ NanoEDGE Display ขอบบางเฉียบขนาด 15.6 นิ้ว ให้แสดงผลสได้แบบเต็มที่ รองรับการแสดงผลสีแบบ Adobe RGB 100% นอกจากนี้ยังรองรับสี sRGB ได้มากถึง 132% ทำให้การแสดงผลของหน้าจอนั้นแสดงผลสีได้เต็มที่ ขณะที่ตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่เกินไป

ASUS Screen Pad

สเปคเครื่องเลือกใช้ Intel Core i9 แบบ Hexa-Core (6 แกนสมอง) ให้ประสิทธิภาพดีกว่า Intel Core i7 รุ่นที่แล้ว และเป็นครั้งแรกของ Notebook ที่ใช้ CPU รุ่นแรก และได้การ์ดจอ nVidia GTX 1050Ti และได้ HDD ขนาด 1TB รองรับ WiFi 802.11 AC, Bluetooth V5.0 และมีให้เลือกทั้ง 2 รุ่นคือ 14 นิ้วและ 15.6 นิ้ว โดยรุ่น 14 นิ้วจะใช้ CPU Intel Core i7 และ GPU GTX 1050 MaxQ ที่เน้นแรงแต่ยังประหยัดพลังงานมากกว่า

ASUS Screen Pad

นอกจากนี้ ASUS Zenbook Pro ยังติดตั้ง Screen Pad เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดสำหรับ Notebook รุ่นนี้และเป็นครั้งแรกที่ Touch Pad จะทำได้มากกว่าเลื่อนเมาส์ของหน้าจอ แต่จะแปลงร่างเป็นเครื่องมือความสะดวกสบายตั้งแต่

ฟังก์ชั่นเล็กน้อยเช่น Lanucher, เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน, เครื่องเล่นเพลง, ปุ่ม NUMPad เป็นต้น
Adaptive Apps เมื่อเปิดโปรแกรมหนึ่งจะสามารถเพิ่มสั่งงานได้เช่น Microsoft Office, YouTube เป็นต้น
ASUS Sync บอกข้อมูลจากมือถือได้ทั้งสายที่ไม่ได้รับ, การเชื่อมต่อปฏิทิน และควบคุมการทำงานบนมือถือได้ง่ายดาย
Screen Extender Mode โดยสามารถลากจากหน้าจอหลัง เพื่อให้แสดงผลวิดีโอบน YouTube มาแสดงผล
สามารถทำให้การเชื่อมหน้าจอได้มากขึ้น 5 หน้าจอ (หน้าจอต่อ HDMI แยกออกเป็น 3 หน้าจอ, ที่ตัว Notebook และ Screen Pad)
Screen Pad ยังมีการอัปเดทและโปรแกรมต่างๆ มากมาย พร้อมกับให้นักพัฒนามาทำโปรแกรมได้
และยังสามารถเปิดปิดได้ตามที่คุณต้องการ และยังให้ความรู้สึกเป็น Touchpad ปกติ แต่ว่าสามารถสัมผัสได้ลื่นไหลเหมือนกับใช้ Smart phone แถมมีขนาด 5 นิ้ว เรียกได้ว่าน้อง ๆ ของ Smart Phone เลยก็ว่าได้

ASUS Zenbook Pro and Screen Pad

ASUS Zenbook Pro

จากที่ได้สัมผัสมานั้น ถือว่าเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นหนึ่งที่แม้ว่าบอดี้จะบางเฉียแต่ก็สามารถใช้ในเรื่องการทำงานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง, ทำงานทั่วไป, รวมไปถึงการตัดต่อได้ แต่ถ้า 15.6 นิ้วบอดี้เครื่องจะเท่ากับ Notebook ขนาด 14 นิ้ว และได้สเปคที่ล่าสุดไม่เคยใส่ที่ Notebook แบบ Ultrabook ที่ไหนมาก่อน

ASUS Zenbook Pro

แต่ถ้าเป็น Zenbook Pro 14 จะออกแบบให้ตัวเครื่องยกได้เล็กน้อยเพื่อให้เหมาะกับสรีระในการพิมพ์มากชึ้น จนเรียกได้ว่า มันคือ Notebook สเปคแรงที่พกพาไปไหนมาไหนได้

ส่วนราคาคาดว่าเข้าจำหน่ายในประเทศจะอยู่ราวๆ 5 – 6 หมื่นขึ้น แต่รุ่น 15.6 นิ้วอาจจะแพงสุดแตะหลักแสนได้ ซึ่งต้องลุ้นว่า ASUS ประเทศไทยจะนำเข้ามาจำหน่ายเป็นรุ่นไหน อย่างเร็วสุดที่คุณจะได้พบคืองาน Commart ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปลายเดือนมิถุนายน นี้

[Hands On] "ASUS Zenbook Pro" ที่สุดของคอมพิวเตอร์ระดับโปรที่สามารถแสดงผลได้ 5 หน้าจอแบบบางเฉียบ

[Hands On] "ASUS Zenbook Pro" ที่สุดของคอมพิวเตอร์ระดับโปรที่สามารถแสดงผลได้ 5 หน้าจอแบบบางเฉียบ8 / 23

ASUS Zenbook Pro