หลังจากปรากฎตัวให้เห็นอย่างเป็นทางการในงาน "โมบาย เวิลด์ คองเกรส" ที่เมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน ไปเมื่อหลายตัวก่อน

ล่าสุดสมาร์ทโฟนแอนดรอยน์ในตระกูลโนเกีย ได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วครับ และทำการเปิดตัวให้เราได้ทดลองเล่นกันในงาน Thailand Mobile Expo 2017 Hi-End งานมหกรรมมือถือยอดนิยมของคนไทย

สำหรับทั้ง 3 รุ่นนั้นเน้นเรื่อง ความน่าเชื่อถือ, ง่ายดาย, การออกแบบที่ดีและแตกต่าง คุณภาพ และการเข้าถึงคน และบอดี้ของ Nokia ยุคใหม่ จะออกแบบด้วยโลหะ และ nokia android จะแตกต่างคือ pure android จะทำให้ความลื่นไหล และลูกเล่นเหมือนกับ android ทั่วไป

โดยมีทั้งหมด 3 รุ่น นั่นคือ Nokia 6, Nokia 5, และ Nokia 3 ส่วนใครที่รอ สมาร์ทโฟนในตำนานอย่าง Nokia 3310(2017) ต้องผิดหวังเบาๆ เพราะบ้านเราไม่นำเข้ามาจำหน่าย เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักกับทั้ง 3 รุ่นกันเลยดีกว่าครับ

โนเกีย 3 ดีไซน์และคุณภาพระดับพรีเมี่ยมในราคาที่ทุกคนจับจองได้

โนเกีย 3 สมาร์ทโฟนน่าจับตามองรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โนเกีย 3 สมาร์ทโฟนดีไซน์ใหม่ที่มีคุณภาพคุ้มเกินราคา ขอบด้านข้างผลิตจากเฟรมอะลูมิเนียมที่หลอมขึ้นรูปอย่างแม่นยำ ประกอบเข้ากับกระจกลามิเนตกันรอย Corning® Gorilla® Glass พร้อมจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว กล้องความละเอียดขนาด 8MP (ทั้งหน้าและหลัง) รูรับแสงกว้าง ทำให้โนเกีย 3 เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพระดับพรีเมี่ยม และเรียบหรูในขนาดที่พอเหมาะ โนเกีย 3 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการที่เป็นเพียวแอนดรอยด์ (Pure Android) ซึ่งช่วยให้คุณใช้โทรศัพท์ได้ในสไตล์ของตัวเอง

งานฝีมือชั้นเลิศ ในราคาที่ใครๆ ก็เอื้อมถึง

โนเกีย 3 รูปโฉมที่ทุกคนต้องหันมอง ด้วยขอบด้านข้างผลิตจากเฟรมอะลูมิเนียมที่หลอมขึ้นรูปอย่างแม่นยำ ทำให้โครงสร้างตัวเครื่องกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้านหลังผลิตจากวัสดุพอลีคาร์บอเนต ด้วยดีไซน์ที่แข็งแกร่งทนทาน จึงช่วยปกป้องโนเกีย 3 ของคุณได้ในทุกที่ทุกเวลา มี 4 สีให้เลือก Silver White, Matte Black, Tempered Blue and Copper White จุดเด่นของโนเกีย 3 อยู่ที่งานฝีมือคุณภาพสูงในราคาคุ้มค่าเกินราคา

ภาพคมชัดเหนือใคร

โทรศัพท์โนเกีย 3 ใช้หน้าจอแสดงผลแบบ IPS กระจกลามิเนตกันรอย Corning® Gorilla® Glass โดยไม่มีช่องอากาศ ดังนั้น หน้าจอของโนเกีย 3 จึงมีความแข็งแกร่งทนทานและให้ความคมชัดขั้นสุด ทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ในการรับชมที่ไม่เป็นสองรองใคร อีกทั้งหน้าจอยังมีแสงสะท้อนลดลงเนื่องจากใช้หน้าจอโพลาไรซ์ คุณจึงจะสามารถรับชมภาพที่คมชัดไม่มีที่ติแม้อยู่ในแดดจ้ากลางแสงอาทิตย์

จับภาพทุกช่วงวินาที

“ความพรีเมี่ยมนับว่าเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่ง แต่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคา เราครุ่นคิดอย่างหนักเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของโนเกีย 3 เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้งานคุณภาพระดับพรีเมี่ยม” Juho Sarvikas, Chief Product Officer, HMD Global กล่าว “เราระดมความคิดว่าจะใช้โทรศัพท์อย่างไรก่อน จากนั้นจึงประดิษฐ์ตัวเครื่องที่สวยงามด้วยความประณีต เพื่อให้โนเกีย 3 ของเรา งดงามทั้งภายนอกและประสิทธิภาพที่อัดแน่นอยู่ภายใน”

เพียวแอนดรอยด์เท่านั้น

โนเกีย 3 ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการที่เป็นเพียวแอนดรอยด์ (Pure Android) โดยมีการอัพเดตระบบความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือน จึงมั่นใจได้ว่าโนเกีย 3 ในมือของคุณจะใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดและสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังใช้งานง่าย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการใช้งานของผู้บริโภค แอนดรอยด์เวอร์ชั่นล่าสุดมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง Doze ซึ่งจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ในเวลาที่ไม่ได้ใช้งานโทรศัพท์ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่โนเกีย 3 นี้ มีฟังก์ชั่น Google Assistant ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดจาก Google ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อโทรศัพท์แอนดรอยด์โดยเฉพาะ โดยทางผู้พัฒนาได้นำระบบนี้เข้ามารวมกับเทคโนโลยีของโนเกียไว้อย่างลงตัว เพื่อให้การสนทนากับ Google Assistant เป็นไปอย่างไม่สะดุด

โทรศัพท์รุ่นโนเกีย 3 จะวางจำหน่ายในประเทศไทยในสัปดาห์ที่สองของเดือนมิถุนายน 2560 ราคาในแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับภาษี อากร และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค

เครือข่ายในเขตเศรษฐกิจยูโรเมดิเตอร์เนียนและเอเชียแปซิฟิก: GSM: 850/900/1800/1900 WCDMA: Band 1, 2, 5, 8 LTE: Band 1, 3, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 40
ความเร็วของเครือข่าย: LTE Cat. 4, 150Mbps DL/50Mbps UL
ซิมคู่
ระบบปฏิบัติการ: Android Nougat
ชิปเซ็ตประมวลผล: MTK 6737, Quad-core 1.3Ghz
หน่วยความจำแรม: 2 GB LPPDDR 3
ความจุ: หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 16 GB พร้อมทั้งมีช่อง MicroSD Card (รองรับได้สูงสุดถึง 128 GB)
ฟอร์มแฟคเตอร์: Monoblock แบบสัมผัสด้วยระบบ Capacitive Keys
หน้าจอ: ขนาด 5.0 นิ้ว IPS LCD HD (1280 x 720, 16:9), กระจกกันรอย Corning® Gorilla® Glass, Polariser, 450 nits
กล้อง: กล้องหลัง: 8MP AF, 1.12um, f/2 พร้อมแฟลช กล้องหน้า: 8MP AF, 1.12um, f/2, ฟังก์ชั่นแสงแฟลชจากหน้าจอ (Display Flash) ความกว้างมุมมองภาพ (FOV) 84 องศา
การเชื่อมต่อและเซ็นเซอร์: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, BT 4.2, GPS/AGPS, FM/RDS, NFC, เซนเซอร์ตรวจวัดสภาพแสง (Ambient Light Sensor), เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะห่างระหว่างผู้ใช้กับตัวเครื่องสมาร์ทโฟน (Proximity Sensor), เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหวของสมาร์ทโฟน (Accelerometer) รุ่น G-sensor, เข็มทิศ
ดิจิตัล (E-compass), เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน (Gyroscope), Micro USB (USB 2.0), USB OTG (On-The-Go), แจ๊คหูฟังขนาด 5 มม.
แบตเตอรี่: แบตเตอรี่ความจุ 2630 mAh ในตัวเครื่อง
ระบบเสียง: ลำโพงเดี่ยว
ขนาด: 4 x 71.4 x 8.48 มม. (ความหนาของกล้อง: 8.68 มม.)

Nokia 5 สมาร์ทโฟนดีไซน์โฉบเฉี่ยวขนาดกะทัดรัด

โนเกีย 5 สมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์รูปทรงโฉบเฉี่ยวและขนาดเหมาะมือ ผสมผสานด้วยความลงตัวของการขึ้นรูปตัวโทรศัพท์อย่างประณีตด้วยบล็อคอลูมิเนียมซีรีส์ 6000 ประกอบเข้ากันอย่างแนบสนิทกับกระจกลามิเนตกันรอย Corning® Gorilla® Glass พร้อมด้วยจอแสดงผลขนาด 5.2” แบบ IPS HD พร้อมด้วยนวัตกรรมล่าสุดเสาอากาศในตัวเครื่อง

โนเกีย 5 จึงมีโครงสร้างตัวเครื่องที่แข็งแกร่งทนทาน ใส่ใจในทุกรายละเอียด และมีคุณภาพไม่แพ้รุ่นเรือธงไฮเอนด์ ประมวลผลด้วย Qualcomm® Snapdragon™ 430 โนเกีย 5 จึงมีจุดเด่นในเรื่องแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน รวมถึงการแสดงผลกราฟฟิกดีขึ้น นับว่าเป็นการผสมผสานระหว่างคุณสมบัติสำหรับการใช้งานประจำวันเข้ากับดีไซน์ระดับพรีเมี่ยมได้อย่างลงตัว

Nokia 5 มาพร้อมกับแอนดรอยด์เวอร์ชั่นล่าสุด 7.1.1 จึงให้ประสบการณ์การใช้งานแบบเพียวแอนดรอยด์ (Pure Android) ซึ่งช่วยให้คุณใช้โทรศัพท์ได้ในสไตล์ของตัวเอง

ดีไซน์ระดับพรีเมี่ยม เรียบหรู ทว่าแข็งแกร่ง

โนเกีย 5 ขึ้นรูปด้วยอลูมิเนียมทั้งชิ้น มีรูปทรงโค้งมน 3 มิติสวยงามสะดุดตา กลมกลืนเป็นชิ้นเดียวกันทั้งเครื่องไร้จุดสะดุด พร้อมด้วยนวัตกรรมล่าสุดเสาอากาศในตัวเครื่อง มาพร้อมหน้าจอกันรอย Corning® Gorilla® Glass ทำให้โนเกีย 5 เป็นสมาร์ทโฟนที่แข็งแกร่งทนทานต่อแรงกระแทกจากการใช้งานประจำวันได้อย่างดีเยี่ยม กล้อง Phase Detection Auto Focus ปรับโฟกัสได้ฉับไวทันใจ ความละเอียด 13MP ถูกผสานไว้ภายในตัวเครื่องอย่างสวยงามเพื่อให้สอดคล้องกับดีไซน์อันงามสง่าของโนเกีย 5 โดยกล้องมาพร้อมกับแฟลชคู่เพื่อเลียนแบบสภาพแสงแวดล้อม และได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น สามารถถ่ายภาพได้คมชัดในทุกสภาพแสง ไม่ว่าจะในที่ที่มีแสงน้อย และสามารถจับสีธรรมชาติและสีผิวได้อย่างแม่นยำทั้งในร่มและกลางแจ้ง

เพียวแอนดรอยด์เท่านั้น

โนเกีย 5 ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการที่เป็นเพียวแอนดรอยด์ (Pure Android) โดยมีการอัพเดตระบบความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือน จึงมั่นใจได้ว่าโนเกีย 5 ในมือของคุณจะใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดและสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังใช้งานง่าย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการใช้งานของผู้บริโภค แอนดรอยด์เวอร์ชั่นล่าสุดมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง Doze ซึ่งจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ในเวลาที่ไม่ได้ใช้งานโทรศัพท์ โนเกีย 5 มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการสแกนลายนิ้วมือ (Biometric Fingerprint Authentication) ซึ่งเป็นการเสริมระดับการรักษาความปลอดภัย และทำให้โนเกีย 5 เป็นเพื่อนคู่หูที่ตอบทุกโจทย์ความต้องการของคุณ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่โนเกีย 5 นี้ มีฟังก์ชั่น Google Assistant ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดจาก Google ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อโทรศัพท์แอนดรอยด์โดยเฉพาะ โดยทางผู้พัฒนาได้นำระบบนี้เข้ามารวมกับเทคโนโลยีของโนเกียไว้อย่างลงตัว เพื่อให้สามารถสนทนากับ Google Assistant ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย

“เพราะในทุกวันนี้สมาร์ทโฟนใช้ทำอะไรได้มากมาย เราจึงถือโทรศัพท์ติดมือมากกว่าแต่ก่อน เราก็เลยอยากได้โทรศัพท์ที่ขนาดกะทัดรัดเหมาะมือ และก็แข็งแกร่งทนทานด้วย” Juho Sarvikas, Chief Product Officer, HMD Global กล่าว “แม้ว่าโนเกีย 5 จะเป็นโทรศัพท์ขนาด 5.2 นิ้วที่พกพาใส่กระเป๋าเสื้อได้สบายๆ แต่ด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวจนคุณอยากจะถือไว้ในมือนานๆ มากกว่า”

โนเกีย 5 ดีไซน์ที่เหมาะกับมือของคุณ

กล้องหน้าความละเอียด 8MP พร้อมเลนส์มุมกว้าง 84 องศา ทำให้เก็บภาพฉากหลังได้กว้างขึ้นเวลาที่ถ่ายเซลฟี และหน้าจอยังมองเห็นได้อย่างคมชัดไม่ว่าจะอยู่กลางแจ้งหรือในที่มีแสงน้อย ยังมีเหตุผลอีกมากมายที่คุณจะอยากถือโนเกีย 5 ติดมือไว้ มากกว่าที่จะเก็บไว้ในกระเป๋า

โทรศัพท์รุ่นโนเกีย 5 จะวางจำหน่ายในประเทศไทยสิ้นเดือนมิถุนายน 2560 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Matte Black, Silver, Tempered Blue และ Copper ราคาในแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับภาษี อากร และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค

เครือข่ายในเขตเศรษฐกิจยูโรเมดิเตอร์เนียนและเอเชียแปซิฟิก: GSM: 850/900/1800/1900 WCDMA: Band 1, 2, 5, 8 LTE: Band 1, 3, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 40
ความเร็วของเครือข่าย: LTE Cat. 4
ซิมคู่
ระบบปฏิบัติการ: Android Nougat
ชิปเซ็ตประมวลผล: Qualcomm® Snapdragon™ 430 สำหรับโทรศัพท์มือถือ
หน่วยความจำแรม: 2 GB LPPDDR 3
ความจุ: หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 16 GB พร้อมทั้งมีช่อง MicroSD Card (รองรับได้สูงสุดถึง 128 GB)
ฟอร์มแฟคเตอร์: Monoblock แบบสัมผัสด้วยระบบ Capacitive Keys
หน้าจอ: ขนาด 5.2 นิ้ว IPS LCD HD (1280 x 720, 16:9) กระจกลามิเนตกันรอย Corning® Gorilla® Glass อ่านได้แม้ในกลางแจ้ง, Polariser 500 nits
กล้อง: กล้องหลัง: 13MP PDAF, 1.12um, f/2 พร้อมแฟลชคู่ กล้องหน้า: 8MP AF, 1.12um, f/2, ความกว้างมุมมองภาพ (FOV) 84 องศา
การเชื่อมต่อและเซ็นเซอร์: เซนเซอร์ตรวจวัดสภาพแสง (Ambient Light Sensor), เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะห่างระหว่างผู้ใช้กับตัวเครื่องสมาร์ทโฟน (Proximity Sensor), เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหวของสมาร์ทโฟน (Accelerometer) รุ่น G-sensor, เข็มทิศดิจิตัล (E-compass), เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน (Gyroscope), เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, BT 4.1, GPS/AGPS+GLONASS+BDS, FM/RDS, NFC สำหรับการแชร์, ANT+, Micro USB (USB 2.0), USB OTG (On-The-Go), แจ๊คหูฟังขนาด 5 มม.
Battery: Integrated 3000 mAh battery
Dimensions: 149.7 x 72.5 x 8.05 mm (camera bump: 8.55mm)

Nokia 6

โนเกีย 6 ให้แฟนโนเกียทั่วโลกได้ยลโฉม โนเกีย 6 เป็นความลงตัวของงานฝีมือชั้นเลิศกับการดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ พร้อมด้วยระบบเสียงกระหึ่มและหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว Full HD ตัวเครื่องโทรศัพท์โนเกีย 6 ใช้การขึ้นรูปแบบ Unibody จากบล็อกอลูมิเนียมซีรีย์ 6000 และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการโทรศัพท์ที่แข็งแกร่งทนทานควบคู่ไปกับฟีเจอร์ความบันเทิงครบครัน โนเกีย 6 มาพร้อมกับลำโพงขยายเสียงคู่ที่ออกแบบให้ผู้ฟังได้ยินเสียงเบสที่ทุ้มลึกสลับกับเสียงกังวานใสด้วยเทคโนโลยี Dolby Atmos® ที่ช่วยเพิ่มความบันเทิงได้อย่างเต็มที่

โนเกีย 6 ใช้ระบบปฏิบัติการแบบเพียวแอนดรอยด์ (Pure Android) ซึ่งช่วยให้คุณใช้โทรศัพท์ได้ในสไตล์ของตัวเอง

ดีไซน์ระดับพรีเมี่ยม

โนเกียยังคงสืบสานการออกแบบโทรศัพท์ที่แข็งแกร่งทนทาน ทว่ามีสไตล์ไม่ซ้ำใคร ด้วยคุณภาพระดับพรีเมี่ยมและความแข็งแกร่งทนทานระดับตำนาน คุณจึงใช้งานโนเกีย 6 ได้โดยไม่ต้องหวั่นกับทุกความท้าทายในชีวิต การขึ้นรูปโทรศัพท์โนเกีย 6 แบบ Unibody จากบล็อกอลูมิเนียมทั้งชิ้นใช้เวลาถึง 55 นาที จากนั้นจึงนำไปผ่านกระบวนการอะโนไดซ์อีก 2 ครั้ง ซึ่งใช้เวลากว่า 12 ชั่วโมงจึงเสร็จสมบูรณ์ โดยโทรศัพท์แต่ละเครื่องจะได้รับการขัดเกลาไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้คือ โทรศัพท์โนเกีย 6 ตัวเครื่องอลูมิเนียมแบบ Unibody ที่มีรูปลักษณ์งดงามชวนมองและมีโครงสร้างที่แข็งแกร่งทนทานสูงสุด

ความบันเทิงที่ติดตัวคุณไปทุกที่

โนเกีย 6 มีหน้าจอแสดงผลแบบ Hybrid In-cell สว่างสดใสขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ให้สีสันคมชัดเหนือใครผ่านกระจกกันรอย Corning® Gorilla® Glass หน้าจอเคลือบลามิเนต จึงทำให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้อยู่กลางแจ้ง โดยไม่กระทบต่อความบางของตัวเครื่อง

โนเกีย 6 ใช้ขุมพลังจากชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 430 และหน่วยประมวลผลกราฟิกส์ Qualcomm® Adreno™ 505 จึงรักษาสมดุลได้อย่างดีเยี่ยมระหว่างประสิทธิภาพการทำงานและการใช้พลังงาน ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ความบันเทิงคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ในขณะเดียวกันก็ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ไปในตัว จึงช่วยให้คุณได้สัมผัสกับความบันเทิงเต็มรูปแบบอย่างไม่มีสะดุดในขณะเดินทาง

“โทรศัพท์กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของเราและเข้ามามีบทบาทในหลายๆ ด้านในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะใช้บันทึกวินาทีแห่งความประทับใจ คอยให้ความบันเทิงกับเรา ใช้ติดต่อกับคนอื่น รวมไปถึงใช้เตือนวันครบรอบและวันสำคัญต่างๆ เรียกได้ว่าสมาร์ทโฟนเป็นหัวใจสำคัญของแทบทุกอย่างในชีวิตเรา” Juho Sarvikas, Chief Product Officer, HMD Global กล่าว “โนเกีย 6 เป็นมาตรฐานใหม่ของคุณภาพที่สูงกว่าโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน เรามุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อทำให้โนเกีย 6 เป็นประสบการณ์ระดับพรีเมี่ยมในการใช้งานทุกวันของคุณ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่เรียบหรูไปจนถึงฟีเจอร์เพื่อความบันเทิงสุดล้ำ เราออกแบบโนเกีย 6 เพื่อให้คุณได้มากกว่า ทำงานได้ดีกว่าและยาวนานยิ่งกว่า”

เพียวแอนดรอยด์เท่านั้น

โนเกีย 6 ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการที่เป็นเพียวแอนดรอยด์ (Pure Android) โดยมีการอัพเดตระบบความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือน จึงมั่นใจได้ว่าโนเกีย 6 ในมือของคุณจะใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดและสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังใช้งานง่าย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการใช้งานของผู้บริโภค แอนดรอยด์เวอร์ชั่นล่าสุดมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง Doze ซึ่งจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ในเวลาที่ไม่ได้ใช้งานโทรศัพท์ โนเกีย 6 มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการสแกนลายนิ้วมือ (Biometric Fingerprint Authentication) ซึ่งเป็นการเสริมระดับการรักษาความปลอดภัย และทำให้โนเกีย 6 เป็นเพื่อนคู่หูที่ตอบทุกโจทย์ความต้องการของคุณ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่โนเกีย 6 นี้ มีฟังก์ชั่น Google Assistant ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดจาก Google ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อโทรศัพท์แอนดรอยด์โดยเฉพาะ โดยทางผู้พัฒนาได้นำระบบนี้เข้ามารวมกับเทคโนโลยีของโนเกียไว้อย่างลงตัว เพื่อให้สามารถสนทนากับ Google Assistant ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย

Camera Interface ที่ไม่เหมือนใคร

เราใส่ใจในทุกรายละเอียดในการดีไซน์โทรศัพท์ โดยได้ผสานกล้อง Phase Detection Auto Focus ความละเอียด 16MP ไว้ในตัวเครื่องโนเกีย 6 โดยกล้องของโนเกีย 6 มาพร้อมกับแฟลชคู่เพื่อเลียนแบบสภาพแสงแวดล้อม เพื่อให้ภาพถ่ายมีความคมชัดยิ่งขึ้น และสามารถจับสีธรรมชาติและสีผิวได้อย่างแม่นยำทั้งในร่มและกลางแจ้ง นอกจากนั้นยังมี Camera User Interface ลิขสิทธิ์เฉพาะของโนเกียซึ่งจะช่วยตรวจจับฉากหลังโดยอัตโนมัติ จึงถ่ายรูปสวยๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดายในทุกสถานการณ์ พร้อมกล้องหน้า Auto Focus ความละเอียด 8MP ซึ่งช่วยให้คุณถ่ายรูปสวยๆ ได้จากทุกมุมทุกองศา

โทรศัพท์รุ่นโนเกีย 6 จะวางจำหน่ายในประเทศไทยสิ้นเดือนมิถุนายน 2560 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ ได้แก่ Matte Black, Silver, Tempered Blue และ Copper ราคาในแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับภาษี อากร และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของโนเกีย 6

เครือข่าย: GSM: 850/900/1800/1900 WCDMA: Band 1, 2, 4, 5, 8 LTE: Band 2, 3, 4, 7, 12/17, 28, 38
ความเร็วของเครือข่าย: LTE Cat. 4, 150Mbps DL/50Mbps UL
ซิมคู่
ระบบปฏิบัติการ: Android Nougat
ชิปเซ็ตประมวลผล: Qualcomm® Snapdragon™ 430 สำหรับโทรศัพท์มือถือ
หน่วยความจำแรม: 3 GB LPPDDR 3
ความจุ: หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32 GB พร้อมทั้งมีช่อง MicroSD Card (รองรับได้สูงสุดถึง 128 GB)
ฟอร์มแฟคเตอร์: Monoblock แบบสัมผัสด้วยระบบ Capacitive Keys
หน้าจอ: ขนาด 5.5 นิ้ว IPS LCD Full HD (1920 x 1080, 16:9) กระจกลามิเนตกันรอย Corning® Gorilla® Glass ความหนาแน่นพิกเซล 403 ppi อ่านได้แม้ในกลางแจ้ง, 450 nits,
Camera: Primary camera: 16MP PDAF, 1.0um, f/2, dual tone flash; Front facing camera: 8MP AF, 1.12um, f/2, FOV 84˚
กล้อง: กล้องหลัง: 16MP PDAF, 1.0um, f/2 แฟลชคู่ กล้องหน้า: 8MP AF, 1.12um, f/2, ความกว้างมุมมองภาพ (FOV) 84 องศา
การเชื่อมต่อและเซ็นเซอร์: Micro USB (USB 2.0), USB OTG (On-The-Go), แจ๊คหูฟังขนาด 5 มม., เซนเซอร์ตรวจวัดสภาพแสง (Ambient Light Sensor), เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะห่างระหว่างผู้ใช้กับตัวเครื่องสมาร์ทโฟน (Proximity Sensor), เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหวของสมาร์ทโฟน (Accelerometer), เข็มทิศดิจิตัล (E-compass), เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน (Gyroscope), เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor), NFC, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, BT 4.1, ANT+, GPS/AGPS+GLONASS+BDS, FM/RDS
แบตเตอรี่: แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh ในตัวเครื่อง
ระบบเสียง: ลำโพงคู่พร้อมด้วย Smart Amplifier (TFA9891) ระบบ Dolby Atmos®
ขนาด: 154 x 75.8 x 7.85 มม. (ความหนาของกล้อง: 8.4 มม.)

ส่วนการวางขาย Nokia 5 จะเริ่มขาย กลางเดือนมิถุนายน ราคา 4,850 บาท, Nokia 5 ราคา 6,490 บาท และ nNokia 5 6 ราคา 7,990 บาท ทั้ง 2 รุ่นนี้ขายสิ้นเดือนมิถุนายน

และขายกับตัวแทนจำหน่ายรวมถึง ผู้บริการทั้ง dtac, truemove h และ ais ส่วนในตอนนี้หากใครอยากทดลองเล่นหรือสัมผัสตัวเป็นๆ ของทั้ง 3 ก็สามารถไปเล่นกันได้ที่งาน งาน Thailand Mobile Expo 2017 Hi-End ตั้งแต่วันที่ 18 - 21 พฤษภาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวลา 10.00น. - 20.00น.

โนเกีย 3 ดีไซน์และคุณภาพระดับพรีเมี่ยมในราคาที่ทุกคนจับจองได้

Nokia 5 สมาร์ทโฟนดีไซน์โฉบเฉี่ยวขนาดกะทัดรัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ต้อนรับกลับบ้าน เปิดตัว Nokia 3, Nokia 5 และ Nokia 6 ในไทยอย่างเป็นทางการ

ต้อนรับกลับบ้าน เปิดตัว Nokia 3, Nokia 5 และ Nokia 6 ในไทยอย่างเป็นทางการ31 / 43