Polestar ชื่อนี้หลายคนอาจไม่คุ้นหูนัก แต่ Polestar กำลังจะกลายมาเป็นรหัสความแรงใหม่ แทนที่อักษรพ่วงท้ายเดิมอย่าง 'R' ของวอลโว่โดยเฉพาะ นอกจากนั้น ทีม Polestar ยังเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้วอลโว่สามารถคว้าชัยชนะจากรายการแข่งขัน V8 Supercars ที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาได้อีกด้วย

ความสัมพันธ์ระหว่าง Polestar กับ Volvo หากเปรียบก็คงเหมือน AMG กับ Mercedes-Benz ในสมัยก่อน (ปัจจุบัน AMG ถูกควบรวมอยู่ในเครือ Daimler AG) ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่คอยสร้างสรรค์ผลงานความแรงให้กับค่ายรถ โดย Polestar เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นและดำเนินงานเป็นอิสระจากวอลโว่ แต่ทำงานคู่กับวอลโว่ในการผลิตรถแข่ง และรถสมรรถนะสูงรุ่นต่างๆออกมา

คราวนี้ Polestar ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่ง มาให้ผู้ใช้วอลโว่ได้สัมผัสด้วย 'Polestar Performance Optimisation' ซึ่งเป็นการจูนกล่องอีซียูเพื่อปลดปล่อยความแรงให้เพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก

ทางบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้เกียรติเชิญสื่อมวลชนรวมถึง Sanook!Auto ร่วมสัมผัสความแรงในฉบับ Polestar กับ Volvo S60 T5 Polestar Performance

หัวใจหลักของการอัพเกรดนี้ คือการเพิ่มกำลังสูงสุดขึ้นอีก 25 แรงม้า (ในรุ่น S60 T5) และเพิ่มช่วงแรงบิดสูงสุดให้กว้างยิ่งขึ้น ซึ่งก็ดูเพียงพอกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

Volvo S60 T5 ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 220 แรงม้า (HP) ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 - 4,000 รอบต่อนาที เมื่ออัพเกรดแล้วได้กำลังสูงสุดที่ 245 แรงม้า (HP) ที่ 5,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร เท่าเดิมแต่ขยายช่วงรอบเครื่องยนต์เป็น 1,500 - 4,800 รอบต่อนาที

ขณะที่ส่วนอื่นๆทั้งภายนอก-ภายในของ วอลโว่ S60 T5 Polestar ไม่ได้ถูกปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด ทุกอย่างยังคงเหมือนรุ่นปกติทุกประการ นอกเสียจากโลโก้ Polestar สีฟ้าที่ถูกแปะไว้บนฝากระโปรงท้าย

ระบบส่งกำลังเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบ Geartronic ขับเคลื่อนล้อหน้า สัมผัสพื้นถนนด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว แบบ 10 ก้านสีเงินตัดดำ ช่วยให้ตัวรถดูดุดันขึ้นพอควร พร้อมยางขนาด 235/40 R18Y

ไหนๆเราก็ยังไม่เคยสัมผัส Volvo S60 T5 นี้มาก่อน บทความนี้จึงขอรีวิวตัวรถคร่าวๆไปด้วย นอกเหนือจากชุดอัพเกรด Polestar ที่เป็นพระเอกในการทดสอบครั้งนี้

ภายนอกของ Volvo S60 T5 ถูกออกแบบให้ดูสปอร์ตลงตัวตามสไตล์สแกนดิเนเวียน ติดตั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ซีนอน พร้อมระบบ Active High Beam Control II ที่คอยปรับมุมไฟสูงไม่ให้แยงตารถคันอื่น และ Daytime Running Light แบบ LED

ส่วนภายใน หน้าปัทม์บอกความเร็วเป็นแบบจอ TFT ขนาด 8 นิ้ว ปรับธีมแสดงผลได้ 3 แบบ ขณะที่หน้าจอเพื่อความบันเทิงมีขนาด 7 นิ้ว รองรับ DVD และ iPod พร้อมลำโพง 8 ตัว สามารถใช้เป็นแฮนด์ฟรีสำหรับโทรศัพท์ รวมถึงสามารถดึงเพลงจากมือถือมาเล่นผ่านลำโพงรถได้ มีระบบนำทางให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

เส้นทางที่ใช้ทดสอบในทริปนี้ คือ กรุงเทพฯ-ชะอำ ระยะทางประมาณ 210 กิโลเมตร ซึ่งมีทั้งทางตรงและทางโค้งให้สัมผัสแบบครบครัน

อัตราเร่งของ Volvo S60 T5 Polestar ถูกเคลมไว้ที่ 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6 วินาที ลดลงจากก่อนอัพเกรด 0.7 วินาที ซึ่งอาจดูไม่มากมายนัก แต่พอเอาเข้าจริงมันกลับเร่งได้อย่างทันใจ เผลอแป๊ปเดียวสามารถแตะ 130 กม./ชม.ได้รวดเร็วเหลือเชื่อ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่สามารถเปลี่ยนอัตราทดอย่างรวดเร็วและนุ่มนวลมาก จนผมแทบนึกว่านี่เป็นเกียร์แบบ Dual-clutch เสียด้วยซ้ำ

ในบางช่วงนั้น ผู้ร่วมทริปคันเดียวกับผม สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 210 กม./ชม.ได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งเมื่อดูจากความเร็วที่เข็มไมล์กวาดขึ้นนั้น บ่งบอกว่าถ้ายังมีถนนเหลือๆ คงสามารถแตะความเร็วสูงสุดที่เคลมไว้ 240 กม./ชม. ได้อย่างแน่นอน

ผมขอกราบเรียน ณ ที่นี้ว่าไม่ได้ส่งเสริมให้คุณผู้อ่านใช้ความเร็วแบบบ้าพลังกันขนาดนี้ แต่เป็นการทดสอบเพื่อให้ทราบว่า ในช่วงความเร็วปกติตามกฎหมายนั้น S60 T5 Polestar สามารถตอบสนองฝีเท้าได้อย่างเหลือเฟือแน่ๆ

ช่วงล่างของ S60 T5 Polestar นั้น ยังคงเหมือนรุ่นปกติทุกประการ ไม่ได้มีการปรับเสริมเติมแต่งแต่อย่างใด โดยถูกเซ็ทมาค่อนข้างแข็ง บวกกับแก้มยางซีรี่ย์ 40 แล้ว ทำให้ตัวรถดูกระด้างไปนิดเมื่อขับผ่านหลุมบ่อทั้งหลาย แต่ก็แลกมาด้วยความมั่นใจเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง

แม้ว่า S60 T5 Polestar จะถูกเน้นไปที่การเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ แต่ระบบความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในวอลโว่ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นระบบหลีกเลี่ยงการชนพร้อมหยุดรถเต็มแรงเบรค Collision Warning with Full Auto Brake, ระบบแจ้งเตือนให้เว้นระยะห่างคันหน้า Distance Alert, ระบบเตือนเมื่อออกนอกช่องทางเดินรถ Lane Keeping Aid, ระบบเตือนเมื่อมีรถกำลังแซงขณะเปลี่ยนเลน Lane Change Merge Aid และอื่นๆอีกมากมายจนเขียนอีก 2 ย่อหน้าก็ยังไม่พอ

สรุป แม้ว่าตัวเลข 25 แรงม้าที่เพิ่มขึ้นมา และแรงบิดในรอบเครื่องยนต์ที่กว้างขึ้น อาจไม่ได้ดูแตกต่างจนต้องร้องว้าว แต่ก็มากพอที่จะทำให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันสนุกขึ้น ช่วยให้เร่งแซงอย่างมั่นใจและปลอดภัย ซึ่งก็ตรงกับจุดประสงค์ของชุดอัพเกรดนี้ที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานจริง มากกว่าที่จะมุ่งด้าน Performance แบบจัดจ้านจนเกินคำว่าพอดี

นอกจากนี้ สมรรถนะที่เพิ่มขึ้น ยังคงให้อัตราสิ้นเปลืองและปล่อยไอเสียเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง รวมถึงยังไม่เสียสิทธิ์วารันตี 3 ปี 100,000 กิโลเมตร ที่มีอยู่เดิมอีกด้วย

ชุด Polestar Performance Optimisation นี้ นอกเหนือจากรุ่น S60 T5 นั้น ยังสามารถติดตั้งได้กับวอลโว่อีกกว่า 9 รุ่น ได้แก่

S60 2.0T (2011)

S80 2.5FT (2009-2011)

S80 D5 (2008-2009)

S80 T4 (2012-2014)

XC60 D5 (2009)

XC60 D5 (2010)

XC60 T5 (2014)

XC90 D5 (2007-2011)

XC90 D5 (2012 เป็นต้นไป)

ซึ่งแต่ละรุ่นถูกปรับให้มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นต่างกันออกไป ไม่เท่ากันในแต่ละรุ่น

ราคาจำหน่าย

Volvo S60 T5 - 2,449,000 บาท
ซอฟท์แวร์อัพเกรด Polestar Performance Optimisation - โปรโมชั่น 39,900 บาท จากปกติ 53,000 - 57,400 บาท ถึง 31 ธันวาคมนี้

ขอขอบคุณบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้เกียรติเชิญเข้าร่วมทดสอบ Volvo S60 T5 Polestar ในครั้งนี้

รีวิว Volvo S60 T5 Polestar แรงจนลืมภาพลักษณ์วอลโว่เดิมๆทิ้งไปได้เลย

รีวิว Volvo S60 T5 Polestar แรงจนลืมภาพลักษณ์วอลโว่เดิมๆทิ้งไปได้เลย11 / 91

Volvo S60 T5 Polestar