Toyota Corolla 2023 โฉมไนเนอร์เชนจ์ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในยุโรป ปรับดีไซน์สดใหม่ยิ่งขึ้น พร้อมระบบ Toyota T-Mate ที่รวมเอาระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense และระบบช่วยเหลือการขับขี่เข้าไว้ด้วยกัน มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตรเช่นเคย

Toyota Corolla 2023 เวอร์ชันยุโรปยังคงมีให้เลือกทั้งตัวถังแบบ Hatchback, Touring Sports (แวกอน) และ Saloon ขึ้นอยู่กับตลาดแต่ละประเทศ โดยได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์กระจังหน้า, กรอบไฟตัดหมอก และล้ออัลลอยใหม่ พร้อมทั้งไฟหน้าแบบ Bi-LED ใหม่ ที่มีระบบ Adaptive High-Beam System (AHS) ในรุ่นท็อปของตัวถังแบบ Hatchback และ Touring Sports

ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งเน้นความพรีเมียมและทันสมัยด้วยโทนสีเข้มตัดกับสีสว่าง ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถปรับการแสดงผลได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ Casual, Smart, Sport และ Tough พร้อมด้วยหน้าจออินโฟเทนเมนท์ความละเอียดสูงขนาด 10.5 นิ้ว ที่มีระบบ Toyota Smart Connect หรือ Toyota Smart Connect+ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย โดยผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงแผนที่นำทางระบบคลาวด์, ข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ และข้อมูลการเดินทางต่างๆ ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 4 ปี

corolla_13

นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้พัฒนาระบบสั่งงานด้วยเสียงให้รองรับคำสั่งได้อย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระบบความบันเทิง หรือการสั่งเปิด-ปิดกระจกหน้าต่าง รวมถึงมีระบบเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน MyT สำหรับล็อก-ปลดล็อกประตู, เปิด-ปิดระบบปรับอากาศ, เปิดไฟฉุกเฉิน และค้นหาตำแหน่งตัวรถผ่านทางสมาร์ทโฟนได้

ด้านระบบความปลอดภัยมีการติดตั้ง Toyota T-Mate ที่รวมเอาระบบความปลอดภัยขั้นสูง Toyota Safety Sense และระบบช่วยเหลือการขับขี่เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งโตโยต้าระบุว่าได้มีการเพิ่มเติมระบบ Acceleration Suppression ช่วยป้องกันการเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจ, ระบบป้องกันการชนขณะเลี้ยวบริเวณแยกจราจร, ระบบช่วยหักพวงมาลัยฉุกเฉิน Emergency Steering Assist เพื่อหลีกเลี่ยงการชนรถที่สวนมา, ระบบป้องกันการชนด้านข้าง และระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติก่อนถึงทางโค้ง เป็นต้น

corolla_05

ขุมพลังของ Toyota Corolla 2023 เวอร์ชันยุโรปมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 138 แรงม้า ที่มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9.2 วินาที ลดลงจากเดิม 1.7 วินาที หรือจะแรงเร้าใจยิ่งขึ้นด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 2.0 ลิตร ที่เพิ่มกำลังสูงสุดขึ้นเป็น 193 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.5 วินาที เร็วกว่ารุ่นเดิมเกือบครึ่งวินาที อันเป็นผลจากการปรับปรุงเครื่องยนต์, มอเตอร์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่ไฮบริด และ PCU (Power Control Unit) ให้มีพละกำลังมากยิ่งขึ้น

ส่วนการจำหน่าย Toyota Corolla 2023 โฉมไมเนอร์เชนจ์ที่ยุโรปจะมีขึ้นช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 เป็นต้นไป

อัลบั้มภาพ Toyota Corolla 2023 โฉมไมเนอร์เชนจ์เปิดตัวที่ยุโรป พร้อมขุมพลังไฮบริด 1.8 และ 2.0 ลิตร ภาพที่ 8 / 19

Toyota Corolla 2023 โฉมไมเนอร์เชนจ์เปิดตัวที่ยุโรป พร้อมขุมพลังไฮบริด 1.8 และ 2.0 ลิตร